ที่มา uddred
ฐานเศรษฐกิจ 9 กรกฎาคม 2555 >>>
ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา
ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ
มีคำสั่งยุบ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคพลังชล
จากนี้ขอให้ตรวจสอบ 2 องค์กรอิสระ ประกอบด้วย ผู้ตรวจการแผ่นดิน
และคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291
ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68
นายเรืองไกร กล่าวภายหลัง
เข้ายื่นคำร้องว่า หลังจากการที่ได้ฟังการไต่สวนของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
และศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 13 ก.ค. นี้
เห็นว่ากรณีที่ผู้ร้องมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณานั้น
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองตามมาตรา 68
เป็นเรื่องที่ไม่ชอบเนื่องจากรัฐสภา ได้ผ่านวาระหนึ่งและวาระสองไปแล้ว
โดยเฉพาะวาระหนึ่ง ที่มีการตั้งกรรมาธิการตามสัดส่วนของพรรคการเมือง
ประกอบไปด้วย 6 พรรคที่ปรากฏอยู่ข้างต้น แต่ผู้ร้องเองได้ยื่นมาเพียง 2
พรรค จึงมายื่นเพิ่มเติมในประเด็นนี้ เมื่อคำวินิจฉัย
จะออกมาในทิศทางใดทั้ง 6 ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย รวมถึงองค์กรอิสระทั้ง 2
องค์ดังกล่าว เนื่องจากเข้าลักษณะเป็นบุคคลที่รับรู้เกี่ยวกับ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาก็ตาม
ส่วนกรณีที่มีคน
เรียกร้องให้ตุลาการ ที่เกี่ยวข้องอยู่ในกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50
ประกอบด้วย นายนุรักษ์ มาประณีต นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รวมถึง นายวสันต์
สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญที่มีคลิปออกมาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต
ในการสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีการถอนตัวของ 3
ตุลาการนั้น เป็นสิทธิไม่ใช่
องค์คณะตุลาการมาประชุมแล้วใช้ข้อห้ามไม่ให้ทั้ง 3
คนถอนจากการไต่สวนและวินิจฉัย ซึ่งเชื่อว่าจะมีปัญหาตามมา
เมื่อถามถึง
กรณี สำนักข่าวอิสราออกมาระบุว่า
ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) เป็นเท็จ นายเรืองไกรกล่าวว่า มีหลักฐานที่จะนำไปชี้แจงได้
และตนพร้อมจะเป็นตัวอย่างให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ โดยมั่นใจว่า
สามารถชี้แจงได้ไม่มีปัญหา