ที่มา ประชาไท
"ฮิวโก้ ชาเวซ" ประธานาธิบดีของเวเนซูเอลา
ชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 3 อย่างสูสี
โดยได้รับคะแนนเหนือฝ่ายค้านร้อยละ 9
ทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งอีกหนึ่งสมัยหลังครองอำนาจมาแล้ว 14 ปี
8 ต.ค. 55 -
คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซูเอลาประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างไม่
เป็นทางการ โดยผลจากการนับคะแนนบางส่วนปรากฏว่านายฮูโก ชาเวซ
ผู้นำเวเนซูเอลาคนปัจจุบัน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 54 ขณะที่นายเอนริเก้ กาปริเลส
ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 45
ซึ่งผลคะแนนดังกล่าว ทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่านายชาเวซ
จะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
หลังจากเขาปกครองประเทศมาแล้วเป็นเวลากว่า 14 ปี
นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2541
ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนนายชาเวซต่างออกมาร่วมเฉลิมฉลองบนท้องถนนกลางกรุงกา
รากัสอย่างคึกคัก
นอกจากนี้
คณะกรรมการการเลือกตั้งยังได้เปิดเผยสถิติผู้มาลงคะแนนเสียงในปีนี้
ซึ่งสูงถึงร้อยละ 80
โดยก่อนหน้านี้บรรยากาศของการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งก็เป็นไปอย่างคึกคักทั่ว
ประเทศ
จนบางคูหาเลือกตั้งถึงกับต้องปิดหีบคะแนนช้ากว่ากำหนดเนื่องจากมีผู้มาต่อ
แถวรอลงคะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย
เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเลือกตั้งที่สูสีที่สุดของประเทศใน
รอบกว่า 10 ปี ทำให้ประชาชนกระตือรือร้นที่จะออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ทั้งนี้
นโยบายประชานิยมที่เน้นแนวทางสังคมนิยมและรัฐสวัสดิการของนายชาเวซ
ส่งผลให้เขาเป็นนักการเมืองขวัญใจชนชั้นรากหญ้า
ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ขณะที่นายกาปริเลส นักการเมืองฝ่ายค้าน
ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูงและชนชั้นกลางบางส่วนซึ่งต่อต้านการปกครองแบบ
เผด็จการของนายชาเวซ
ชาเวซยังเป็นผู้นำในละตินอเมริกาที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของสหรัฐอย่าง
ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศัตรูของสหรัฐ อาทิ คิวบา
และอิหร่าน มากขึ้นเรื่อยๆ
การเจริญเติบโตที่รวดเร็วของเศรษฐกิจน้ำมัน
ทำให้ชาเวซสามารถนำเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในสวัสดิการสังคม
ต่างๆ
ตั้งแต่การสร้างคลินิกสุขภาพไปจนถึงการสร้างที่พักอาศัยแบบอพาร์ทเมนท์
ทำให้เชาได้รับแรงสนับสนุนจำนวนมากในหมู่ประชาชนคนยากจน
ประธานาธิบดีเวเนเซูเอลา
อาจดำเนินการแปรรูปกิจการให้เป็นของรัฐอีกหลายแห่งในอนาคต อาทิ ธนาคาร
อุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพ โดยก่อนหน้านี้ ภายหลังชัยชนะในการเลือกตั้งปี
2549 เขาได้ใช้โอกาสที่ได้รับความนิยม จัดการแปรรูปกิจกรรมโทรคมนาคม ไฟฟ้า
และน้ำมันให้เป็นของรัฐ แต่นักวิเคราะห์คาดว่า
การเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งของเขา อาจทำให้แผนดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง
ที่มา: เรียบเรียงจากวอยซ์ทีวี, สำนักข่าวรอยเตอร์