ที่มา ประชาไท นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ นปช. แถลงที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่ายังไม่มีใครรู้ว่าจะเอาชนะรัฐบาลด้วยวิธีใด แต่เชื่อมั่นคนชุมนุมเกินห้าแสน เป้าหมายเดียวให้อภิสิทธิ์ยุบสภา เวลาประมาณ 15.30 น. นายจรัล ดิษฐาอภชัย นายประชัญ บุญประคอง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย และน.พ.เหวง โตจิราการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) อาคารมณียา ถ.เพลินจิต ถึงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 12 มี.ค. โดยนายจรัลกล่าวว่า ในช่วงวันที่ 12 มี.ค. คาดว่าจะมีรถปิ๊กอัพประมาณ 60,000-70,000 คันเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมเข้าสู่กรุงเทพฯ หลังจากที่ผู้ให้บริการรถบัสปฏิเสธให้บริการขนส่งคน เขาเชื่อว่าจะมีคนกรุงเทพฯ เข้าร่วมประมาณ 30,000 คน และจะมีผู้ชุมนุมไม่ต่ำกว่า 500,000 คน นอกจากนี้ มีแผนการชุมนุมในหลายจังหวัดก่อนที่จะถึงวันที่ 12 มี.ค. เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้ามาชุมนุมต่อในกรุงเทพฯ นายจรัลกล่าวว่า แกนนำได้แลกเปลี่ยนกันหลายชั่วโมงว่า จะมีเป้าหมายในการชุมนุมที่ใดและเวลาใด ในที่สุดได้ตัดสินใจกันว่า จะเริ่มต้นการชุมนุมที่สนามหลวงและเดินขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกำหนดการในวันที่ 12 มี.ค. จะเริ่มในเวลา 12.00 น. นายจรัลเปิดเผยด้วยว่า การจัดการการชุมนุมครั้งนี้ จะมีการเตรียมการจัดการมวลชนอย่างรัดกุมมากขึ้น โดยจะแบ่งผู้ชุมนุมออกเป็นกลุ่มๆ ตามจังหวัดที่เข้าร่วม และกำหนดเขตให้อยู่ในพื้นที่ของตนเอง จะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของผู้ชุมนุม โดยนายจรัลยืนยันว่า แกนนำเสื้อแดงยังคงยึดมั่นยุทธศาสตร์ไม่ใช่ความรุนแรง พร้อมกับยอมรับว่า ในการชุมนุมที่ผ่านๆ มานั้น แกนนำยังขาดประสบการณ์ในการจัดการการชุมนุม จึงเกิดเหตุการณ์เช่นที่พัทยา หรือเหตุการณ์เดือนเมษายน 2552 ขึ้น เนื่องจากไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมบางส่วนได้ แต่ครั้งนี้แกนนำได้ถอดบทเรียนแล้ว และขอยืนยันว่า แกนนำจะจัดการชุมนุมอย่างสงบและรัดกุมได้อย่างแน่นอน ด้านนายแพทย์เหวง โตจิราการ กล่าวเสริมว่า นปช. ยังคงยืนยัน 6 หลักการ ประการแรก นปช.ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประการที่ 2 ต้องการล้มระบบอำมาตย์ซึ่งทำให้ประเทศถอยหลังทางเศรษฐกิจ และขัดขวางการพัฒนาประเทศ ประการที่ 3 ไม่ใช้ความรุนแรง ประการที่ 4 นำหลักนิติรัฐกลับมา ประการที่ 5 เป็นการต่อสู้ของประชาชน ประการที่ 6 นำรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับมาใช้ “เรายึดมั่นในแนวทางดังกล่าวนี้อย่างเคร่งครัด ดังนั้นใครที่ไม่ดำเนินตามแนวทางนี้ แม้แต่เพียงขาดไปข้อเดียวก็ถือว่าไม่ใช่นปช.” น.พ. เหวง กล่าว และอธิบายต่อไปว่า สำหรับแนวทางการจัดการมวลชนนั้นมี 3 มาตรการหลักๆ คือ 1.จัดโซนผู้เข้าร่วมชุมนุมแยกตามภูมิภาคอย่างเคร่งครัด โดยคาดว่าจะมีบล็อกของผู้ชุมนุมจากภูมิภาคและจังหวัดต่างๆ ประมาณ 17 บล็อก ประการที่ 2 การชุมนุมจะไม่เกิดความรุนแรงอย่างที่ผ่านมา โดยจะกำหนดให้ชัดเจนว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร และเวลาไหน ประการที่ 3 การ์ดคนเสื้อแดงจะทำหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุม และจะไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ที่กำหนด ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามถึงค่าใช้จ่ายและจำนวนของการ์ดคนเสื้อแดงว่าจะมีจำนวนเท่าใด นายจรัลตอบว่า อาจจะมีการ์ดประมาณ 6,000 คน โดยการ์ดเหล่านี้เป็นอาสาสมัครและไม่ได้ว่าจ้าง นอกจากนี้ เงินที่ใช้ในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นเงินที่ได้รับจากการบริจาค อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายจรัลกล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร ซึ่งอาจจะทำให้การชุมนุมต้องยืดเยื้อเป็นเวลาหลายวัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงมีเป้าหมายอย่างไร นายจรัลกล่าวว่า เป้าหมายของคนเสื้อแดงเป็นเป้าหมายเล็กๆ เท่านั้นคือ ให้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา โดยที่นายกฯ มีทางเลือก 2 ทางคือ หากไม่จัดการกับคนเสื้อแดงก็ต้องยุบสภา นายจรัลกล่าวย้ำถึงแนวทางด้วยว่า จะไม่มีทางรุนแรง เพราะหากจะใช้แนวทางรุนแรง ก็คงไม่ต้องระดมคนออกมาถึงหลายแสนคน เพียงแค่จัดตั้งคนสัก 20,000 คนและฝึกอบรมก็เพียงพอแล้ว โดยนายจรัลคาดหวังว่า จะมีถึง 1 ล้านคน หรืออย่างน้อยที่สุด 500,000 คน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อแดง และที่ผ่านมา แกนนำเสื้อแดงก็ได้เข้าไปทำความเข้าใจและสร้างเครือข่ายตามหน่วยทหารจำนวนมากด้วย “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีทางเลือกเพียง 2 ทางคือ จัดการกับคนเสื้อแดงหรือยุบสภา ขอยืนยันว่า ความรุนแรงจะไม่เริ่มจากคนเสื้อแดง แต่ถ้านายกอภิสิทธิ์เลือกการปราบคนเสื้อแดง ก็อาจมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น และคงไม่มีการเลือกตั้งอีก 5-10 ปี” นายจรัลกล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว