ที่มา Voice TV
การยิงปะทะระหว่าง ไทยกัมพูชา บริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นที่ตั้งปราสาทตาเมืองธม ปราสาทตาควายอ.พนมดงรัก จสุรินทร์ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน จนถึงวันนี้ เป็นวันที่ 4 แล้ว รายการ Hot Topic พูดคุยกับ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ
นายนพดล กล่าวว่าถ้ามองกันในสายตาชาวโลกคงยังไม่ใครตัดสินใจว่าใครยิงใครก่อนต้องมองตามข้อเท็จจริง ส่วนนานาชาตินั้น ไม่ว่าจะเป็นอาเซียนหรือยูเอ็น ยังไม่สามารถทำอะไรได้มาก ที่ทำได้ก็คือเรียกร้องให้สองประเทศชั่งใจและหันมาใช้วิธีการเจรจากันอย่างจริงจัง
นายนพดลกล่าวว่า โอกาสของการขยายพื้นที่การปะทะไปยังจุดอื่นๆ ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชานั้น มีความเป็นไปได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หากผู้นำทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ยังไม่ยอมพูดคุยกัน ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะขยายความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นได้
นายนพดล กล่าวถึง ข้อกล่าวหา สาเหตุแห่งความขัดแย้งไทยกัมพูชา เพราะการที่ไทยเคยยินยอมให้ กัมพูชา ขึ้นทะเบียนปราสามพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวว่า ศาลโลกได้ตัดสินให้ ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ดังนั้นเมื่อ กัมพูชา จะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทกัมพูชาก็ทำได้ แต่ตน สมัยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนั้น ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น แต่ไม่ยอมให้ขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลกเมตร ซึ่งเท่ากับ ตนได้รักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ด้วย
ส่วนคำถามที่ว่า จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ใกล้ชิดกับ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดคุย ให้ สมเด็จฮุน ยอมแก้ปัญหาในกรอบทวิภาคีตามที่รัฐบาลไทยประสงค์ จะเป็นไปได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ถ้าเป็นการร้องขอจากรัฐบาลไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลไทย ไม่เคยร้องขอ และถ้าจะอาสามาช่วย ก็จะถูกมองว่ามีเจตนาไม่ดีต่อรัฐบาลไทยอีก.