ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มันฯมือเสือ
สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่องที่กำลังฮอต
เรื่องแรกก็การเลือกตั้งที่ยังลูกผีลูกคนอยู่ในขณะนี้
เพราะถึงนาทีนี้ต้องยอมรับว่าความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นจริงๆ
แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะออกมาการันตีว่าจะยุบสภาไม่เกินวันที่ 6 พ.ค.นี้
แต่คนไทยยังหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี
เพราะในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี้ เกิดข่าวลือปฏิวัติกระฉ่อน
ยิ่งมาเจอบรรยากาศกองทัพจัดหนักจัดเต็ม โชว์พาวกันกระหึ่มเมืองแบบนี้ ยิ่งผวากันเข้าไปใหญ่
พล 1 รอ. พล 2 รอ.ตบเท้ากับพรึ่บ
ประจวบเหมาะกับเย็นวันนั้นทีวีเกิด "จอดำ" ขึ้นมาดื้อๆ เลยอลหม่านไปทั้งประเทศ
เพราะชาวบ้านเชื่อว่ามีการปฏิวัติ
ตรงนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าชาวบ้านทั้งหวาดหวั่นทั้งอ่อนไหวกับการรัฐประหารอย่างยิ่ง
และยังสะท้อนให้เห็นว่าคำพูดคำมั่นของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนได้เลย!?
อีกเรื่องปัญหาการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์
ใกล้กับปราสาทตาควาย
การปะทะกันตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา มีรายงานว่าทหารไทยเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บอีกเกือบ 20 นาย
การปะทะกันครั้งนี้ทิ้งช่วงจากการปะทะที่เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ไม่ถึง 3 เดือน
ฝ่ายไทยยืนยันว่าฝ่ายเขมรเปิดฉากยิงถล่มก่อน
แต่ใครยิงก่อนยิงหลังนั้นไม่สำคัญ
สำคัญตรงที่พอเกิดการปะทะกันขึ้น มันจะเกิดการสูญเสียตามขึ้นมาทันที
ไม่ใช่แค่ทหารที่พลีชีพเท่านั้น
แต่ชาวบ้านตาดำๆ ต้องหลบปืนใหญ่อลหม่าน
หลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน เดือดร้อนกันอย่างหนัก
ก็ต้องถามกลับไปว่านายอภิสิทธิ์คิดยังไงกับปัญหานี้
หลังวิกฤตที่เขาวิหาร รัฐบาลได้แก้ปัญหาเรื่องชายแดนไทย-เขมรอย่างไรบ้าง
ทำอะไรบ้างที่เป็นรูปธรรม!?
เพราะแค่ช่วงเวลาไม่ถึง 3 เดือนก็ปะทะกันอีกแล้ว
เหตุการณ์ทั้งที่เขาพระวิหาร-ตาควาย ก็สะท้อนให้เห็นการทำงานของนายอภิสิทธิ์ได้เป็นอย่างดี
เพราะหากเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันขึ้นที่ชายแดน
แล้วนายกฯ ไทยยกหูโทร.หานายกฯ กัมพูชาได้ทันที
รับรองได้เลยว่าจะไม่เกิดการสูญเสียขึ้นแบบนี้
และยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ
เพราะหลายฝ่ายมองว่าไม่ลงรอยกันเรื่องนโยบายการแก้ปัญหาชายแดน
จนเกิดข่าวลือหนักขึ้นมาอีกว่านายอภิสิทธิ์กับกองทัพขัดแย้งกันรุนแรง
ยิ่งทำให้ข่าวลือปฏิวัติไม่มีทีท่าจะซาลงเลย