ที่มา thaifreenews
โดย Friend-of-Red
เอ้กอีเอ้ก สว่างแล้ว แก้วไก่ขัน
ดวงตะวัน ยิ้มแฉ่ง สีแดงฉาน
หมู่หมอกเหม่อ เออออ ล้อลำธาร
หยาดน้ำค้าง ค้างบ้าน จนลืมไพร
ควักข้าวเหนียว ใส่ห่อ ไปรอรับ
หวังลูกกลับ สู่บ้าน มาอยู่ไกล้
เจ็ดเดือนย่าง ต่างรู้ ต้องอยู่ไกล
แต่เทียวไป เยี่ยมเล่น ไม่เว้นวัน
เมื่อใดความ ขัดแย้ง ไม่แยกแยะ
เมื่อนั้นแพะ ก็พา กันขาสั่น
เมื่อใดช้าง ต่างชน ชิงประชัน
แลเมื่อนั้น หญ้าแพรก ก็แหลกราน
ร่างผมโซ โซ่ตรวน ล่ามส่วนขา
เดินออกจาก รถมา ศาลาศาล
ผู้คุมสวม บทบาท ราชการ
ตะโกนไล่ ชาวบ้าน อย่าจอแจ !
ปาดน้ำตา ต่างยิ้ม ให้ลูกชาย
ลูกโบกมือ บ๋ายบาย ยิ้มให้แม่
ชะเง้อตาม สองตา เจ้าต่างแล
เชื่อมรักแท้ แม่ลูก ที่ผูกพัน
ผิดใดหนอ บักหำน้อย แม่คอยถาม
จึงถูกล่าม โซ่ขึง ตรึงไว้นั่น
ขาก็ขา น้อยน้อย เพียงแค่นั้น
จะทนดั้น เดินย่าง ได้อย่างไร
เสียงตะโกน “ลุกขึ้น” ทะมึนสั่ง
ศาลออกนั่ง บัลลัง ฟังปราศัย
อัยการ อ่านเกมส์ เค็มน้ำใจ
ทนายให้ สารภาพ อย่าสู้เลย
เสียงตะโกน แต่ไกล “ผมไม่ผิด”
ศาลสั่ง “เงียบสักนิด ฟังเฉยเฉย ! ”
แล้วยิ้มเยาะ เคาะไม้ สะบายสะเบย
บอกเปรยเปรย มีคำสั่ง ลูกขังลืม
ชนชั้นนำ กำหนด กฎอุบาทว์
เหยียบหัวราษฎร์ ปรองดอง กันดูดดื่ม
ชนชั้นต่ำ เงินสิบ ต้องหยิบยืม
รอ “นาย” ปลื้ม เมื่อไหร่ ให้ประกัน
โรงละคร เล่นครบ เหมือนจบข่าว
กำหมัดชื้น ขื่นคาว คนขบขัน
“พวกเผาบ้าน เผาเมือง ประหารมัน"
คนดีลั่น พวกใจสัตว์ ต้องจัดการ !
เสียงระโยง ระยาง ครางกับพื้น
กลบเสียงปืน ราชประสงค์ ไว้ตรงศาล
คนเสื้อแดง ถูกตราหน้า ว่าสามานย์
คนสั่งด้าน หัวร่อ บนหอทอง
เกาะลูกกรง คงยืน มองลูกชาย
เป็นภาพชิน ชาคล้าย ไม่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ คนชนะ จะปรองดอง
ชาวบ้านต้อง ร้องไห้ อยู่ฮือฮือ
ภาพของหญิง ชรา ตำตาศาล
เหมือนกฎหมาย ตายด้าน แต่หนังสือ
ผู้มักใหญ่ ใช้เชื่อง เป็นเครื่องมือ
เพื่อแย้งยื้อ ชอบธรรม เถื่อนอำพราง
จึงกฎหมาย กลายหมด แล้วกฎหมาย
เกิดกฎหมา มักง่าย มาสะสาง
เหมือนบอดใบ้ ไพร่ฟ้า มาสุดทาง
เลือกระหว่าง ก้มค้อม หรือยอมตาย
ประวัติศาสตร์ ต้องใช้ ชีวิตเขียน
หมุนกงเกวียน แห่งสมัย ไม่ขาดสาย
ชักธงแดง แกร่งกล้า ขึ้นท้าทาย
เถิดสหาย ปฏิวัติ โค่นรัฐโจร !
ผมรู้สึกเจ็บร้าวทุกครั้งที่เห็นชาวบ้านแก่ๆ มายืนคอยทาง
ดูลูกชายขึ้นศาล และยิ่งเขามาถามว่า "ลูกแม่สิได้ออกมื้อได๋"
มันยิ่งจุกจนพูดไม่ออกทุกที หรือนี้เราเดินมาสุดทางแล้วจริงๆ
...อานนท์ นำภา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๓