WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, September 8, 2012

สว.ฝรั่งเศสกล่าวหลังจากเยือนไทยว่า "กองทัพมีอำนาจล้นพ้นเพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ"

ที่มา uddred เว็บไซท์ Asian Provocateurและสำนักข่าวLe petite journal 7 กันยายน 2555 สำนักข่าวฝรั่งเศส Le Petit Journal เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของวุฒิสมาชิกสี่คนซึ่งมีมุมมองทางการเมืองที่ต่างกันออก ไป วุฒิสมาชิกเหล่านี้เพิ่งเดินทางไปเยือนประเทศไทยและให้ความเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์การเมืองไทยที่น่าสนใจว่า นาย Gerard Miquel สว.จากพรรคสังคมนิยมซึ่งเป็นพรรคผู้นำรัฐบาลกล่าวว่า รัฐสภา [ไทย] ไม่ได้มีอำนาจมาก แต่เป็นกองทัพต่างหากที่มีอำนาจเพราะรัฐธรรมนูญซึ่งผ่านร่างโดยคำนำเสนอของ รัฐบาลทหารและไม่ได้ให้อำนาจรัฐสภามาก แน่นอนว่า คนที่มีไหวหริบทางการเมืองซักนิดหนึ่งและมีความเชื่อมั่นในแบบแผนแบบ ประชาธิปไตยย่อมจะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่แค่สว.ฝ่ายซ้ายเท่านั้นที่สรุปแบบนั้น นาย Bernard Saugey สว.จากพรรค UMP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวากล่าวว่า ประเทศไทยคือประเทศที่มีแบบแผนประชาธิปไตยที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก ซึ่งนั้นอาจเป็นเพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม นาย Hervé Maurey จากพรรคกลางได้แสดงความเห็นไว้ได้ดีที่สุด เขากล่าวว่า ในตอนแรก เราอาจคิดว่า (ประเทศไทย) มีประชาธิปไตยเพราะมีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งในแบบที่ดูเหมือน เป็นประชาธิปไตย แต่หลังจากที่เราสนทนากัน เราจึงรู้ว่ารัฐสภาและรัฐบาลมีอำนาจเพียงบางส่วนเท่านั้น เราค้นพบว่าทหหารมีอำนาจอย่างมาก รวมถึงผู้พิพากษาซึ่งความสัมพันธ์ที่อันแนบเน้นกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกอง ทัพมากกว่า นาย Hervé Maurey กล่าวต่อว่า เรารับรู้ว่าสถานการณ์นั้นซับซ้อนเพราะมักมีการข่มขู่ว่าจะทำรัฐประหารหาก รัฐบาลอยากจะทำอย่างไรที่มากเกินไป เรารู้สึกว่านักการเมืองมีขอบเขตที่จะทำอะไรจำกัดมาก นี่เห็นได้จากช่วงเวลาที่มีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งที่น่าแปลกคือสว.เหล่านี้ใช้เวลาสองวันในการทำความเข้าใจสถานการณ์อย่าง ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนต่างชาติล้มเหลวแม้พวกเขาที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หลายสิบปี ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า จะมีสื่อต่างชาติไปทำไมหากพวกเขาไม่สามารถให้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ได้และดูเหมือนจะทำงานร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมสุดขั้วในประเทศไทยด้วย? บทสัมภาษณ์แปลจาก "Le petit journal" (ผมขอขอบคุณเพื่อน facebook คุณ Alex Biosiam อย่างมากที่ช่วยแปลคำสัมภาษณ์บางส่วน ซึ่งทำให้ผมและคนอื่นๆสนใจบทสัมภาษณ์ดังกล่าว Le petit journal: คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการทำงานของสถาบันทางรัฐสภาของประเทศไทย? Gerard Miquel (สว.พรรคสังคมนิยม): นี่อาจจะยากหน่อยสำหรับเวลาเพียงหนึ่งวันครึ่งในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สถาบันเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่ารัฐสภาไม่ได้มีอำนาจมาก แต่เป็นกองทัพต่างหากที่มีอำนาจเพราะรัฐธรรมนูญซึ่งผ่านร่างโดยการนำเสนอของ รัฐบาลทหารและไม่ได้ให้อำนาจรัฐสภามาก สิ่งต่างๆสามารถเป็นแปลงได้ซึ่งแน่นอนเป็นเรื่องที่มีความหวัง Le petit journal: พวกเขาได้ส่งสัญญาณบวกต่อคุณว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงนั้นหรือไม่? Bernard Saugey (สว. พรรคฝ่ายขวา UMP และประธานกลุ่ม Isère Managing Group for Thailand): ผมคิดว่าสัญญาณบวกนั้นเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และประเทศไทย คือประเทศที่มีแบบแผนประชาธิปไตยที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก ซึ่งนั้นอาจเป็นเพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ นี่แหละก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดมาก มันไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย ทุกอย่างดูเหมือนถูกกฎหมาย แต่เรารู้สึกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง การเลือกตั้งมันไม่สำคัญต่อที่นี้ (ประเทศไทย) มากเท่าไร เราเชื่อว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมีเจตจำจงทางการเมือง แต่มันจะพอที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่มันใกล้มากๆหรือไม่? มันไม่ปลอดภัย Gerard Miquel (พรรคสังคมนิยม): พวกเขาไม่สามารถจำกัดเจตจำนงของประชาชนได้ตลอดไปเพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลง จะต้องเกิดขึ้น คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวตลอดเวลา เราพบกับประธานกลุ่มประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ คุณธิดา ถาวรเศรษฐ ผู้หญิงซึ่งมีความเชื่อมั่นในเจตจำนงประชาธิปไตยอย่างมาก เราไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมให้สถานการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไปได้ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในประเทศพม่า กองทัพที่อยู่ในอำนาจต้องเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของประชาชน แน่นอนมันอาจไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างที่เราคาดหวัง แต่มันก็ยังมีหวัง Bernard Saugey (สว.พรรคฝ่ายขวา UMP ประธานกลุ่ม Isère Managing Group for Thailand): สำหรับพม่า เพื่อประชาธิปไตยและความสงบสุขของประชาชนพม่า มันดีกว่าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ Hervé Maurey (สว.พรรคกลางของ Eureและรองประธานกลุ่ม ): สิ่งที่น่าพิศวงเกี่ยวประเทศไทยสำหรับเราในฐานะสมาชิกรัฐสภาของฝรั่งเศศคือ วิถีทางการเมืองไม่มีอะไรเหมือนเรา ในตอนแรก เราอาจคิดว่า (ประเทศไทย) มีประชาธิปไตยเพราะมีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งในแบบที่ดูเหมือน เป็นประชาธิปไตย แต่หลังจากที่เราสนทนากัน เราจึงรู้ว่ารัฐสภาและรัฐบาล มีอำนาจเพียงบางส่วนเท่านั้น เราค้นพบว่าทหารมีอำนาจอย่างมาก รวมถึงผู้พิพากษาซึ่งความสัมพันธ์ที่อันแนบเน้นกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกอง ทัพ เรารับรู้ว่าสถานการณ์นั้นซับซ้อนเพราะมักมีการข่มขู่ว่าจะทำรัฐประหารหากรัฐบาลอยากจะทำอย่างไรที่มากเกินไป เรารู้สึกว่านักการเมืองมีขอบเขตที่จะทำอะไรจำกัดมาก นี่เห็นได้จากช่วงเวลาที่มีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ Bernard Saugey Saugey (สว.พรรคฝ่ายขวา UMP ประธานกลุ่ม Isère Managing Group for Thailand): แต่ต้องไม่ลืมด้วยว่าสว.กว่าครึ่งมาจากการแต่งตั้ง Gerard Miquel (พรรคสังคมนิยม): เรารู้สึกได้ว่าสส.ที่เราเจอมีความปรารถนาให้มีการกระจายอำนาจ(ทางการเมือง) มากขึ้น ผมคิดว่าหากพวกเขาดำเนินกระบวนการกระจายอำนาจ และหากทำได้อย่างดี ก็คาดได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในสถาบันของประเทศซึ่งจะมีการก่อตั้ง ประชาธิปไตยได้เร็วขึ้น คุณสามารถดูได้จากฝรั่งเศส ในช่วงเวลา 30 ของการกระจายอำนาจ ที่มีตัวแทนท้องถิ่นซึ่งมาจากการเลือกตั้ง สามารถทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น! Bernard Saugey (สว.พรรคฝ่ายขวา UMP ประธานกลุ่ม Isère Managing Group for Thailand): เราเข้าพบผู้ว่ากรุงเทพมหานครซึ่งบอกเราว่ากทม.เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งระบบ ขนส่ง (ในกทม.) แต่รถบัสนั้นเป็นของรัฐ สำหรับเรานี่เป็นอะไรที่เหนือจริง คำแปลนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ทั้งหมด นี่คือลิงค์บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มภาษาฝรั่งเศส