ที่มา Thai E-News
ที่มา – สำนักข่าว AFP
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑ เวบลิเบอรัลไทย
กรุงเทพฯ – องค์กรนำในด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวเมื่อวันพุธนี้ว่า ประเทศไทยต้องยุติวิธีการปฏิบัติอย่าง “ถอยหลังลงคลอง” ต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากคดีที่ประชาชนถูกกล่าวหาว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพกษัตริย์อันเป็นที่เคารพพุ่งสูงลิ่ว
องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่า ได้เคยแสดงความยินดีต่อคณะกรรมาธิการชุดที่จัดตั้งของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธ์เมื่อเดือนธันวาคม ในการที่จะพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นฯที่เข้มงวดของประเทศไทย ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกสูงสุดถึง ๑๕ ปี
องค์กรนิรโทษกรรมสากล ซึ่งมีฐานทำการอยู่ในอังกฤษกล่าวว่า รัฐบาลควรระงับการใช้กฎหมายนี้ จนกว่าจะได้มีการตัดบทบัญญัติที่ว่าด้วยการอนุญาตให้ใครก็ตาม กล่าวหาผู้อื่นว่ากระทำการละเมิดกฎหมายนี้ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดการเซ็นเซอร์เว็บไซต์ต่างๆ
แถลงการณ์ขององค์กรนิรโทษกรรมกล่าวว่า “องค์กรนิรโทษกรรมสากลสนับสนุนการริเริ่มของนายกรัฐมนตรี และส่งเสริมรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในการแก้ไขกฎหมายหมิ่นฯ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย และมาตรฐานสากล”
องค์กรฯเน้นให้เห็นสองคดีนับตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๒ ซึ่งประชาชนชาวไทยถูกตัดสินจำคุกอย่างฉกรรจ์ต่อข้อกล่าวหาว่า ใส่ร้ายป้ายสีราชวงศ์ และกล่าวว่า ยังมีคดีอื่นๆนับร้อยคดีในข้อกล่าวหาหมิ่นฯ ที่กำลังรอการพิจารณาอยู่
แถลงการณ์กล่าวต่อว่า ประชาชนเป็นจำนวนมากถูกตั้งข้อหาหมิ่นฯ และยังถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำไปสู่การจ้องจับผิดอย่างมโหฬารในอินเตอร์เน็ต ต่อเนื้อหาใดๆ ที่อ้างว่า ใส่ร้ายป้ายสีราชวงศ์
องค์กรฯกล่าวว่า ยังมีความวิตกว่ากฎหมายนี้ได้ถูกรัฐบาลนำมาใช้โดยอ้างว่า เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ และปล่อยให้มีการพิจารณาคดีแบบปิด
องค์กรฯกล่าวว่า ทางองค์กรฯ “รับทราบว่า ความก้าวหน้าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาติ” ของกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดชพระชนมายุ ๘๒ พรรษานี้ แต่ได้กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทำให้เกิด “การลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออกในเวลานี้ ย่อมสร้างความวิตกที่มากกว่า”
เรื่องต่างๆอันเกี่ยวข้องกษัตริย์ภูมิพล กษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกนั้น ถือว่าเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนในทางการเมืองที่วุ่นวายในประเทศไทย ในขณะนี้กษัตริย์ทรงประทับรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีกลาย
เมื่อปีที่แล้ว องค์กรสิทธิต่างๆแสดงความเดือดดาลอย่างหนัก เมื่อตำรวจไทยตั้งข้อกล่าวหาบุคคล ๔ คนว่า ปล่อยข่าวลือที่เป็นเท็จเกี่ยวกับพระพลานามัยของกษัตริย์ ความกังวลในเรื่องนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยจมดิ่งลง