บทความโดย...ลูกชาวนาไทย
ก็จบไปแล้วครับสำหรับยุทธการเขายายเที่ยง ที่ฝ่ายตรงข้ามอาจสบประมาทว่าทำไมอยู่คืนเดียว ไม่เห็นทำอะไรได้
หากคิดว่าคนเสื้อแดงต้องยึดบ้านสุรยุทธ์คืน ต้องเผาบ้านสุรยุทธ์ นั่นเป็นความ ไร้เดียงสาทางการเมืองอย่างยิ่งของสมุนอำมาตย์
ที่จริงสิ่งที่คนเสื้อแดงต้องการทำคือ การประจาน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ องคมนตรี ในทางการเมืองคือ “การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ในสถานที่เกิดเหตุจริง ท่ามกลางประชาชนกว่า 20,000 คน และคนดู People Channel อีกนับล้าน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ การเอาข้อมูลหลักฐานขึ้นมาให้ประชาชนดูถึงการทุจริต ไร้จริยธรรมของนักการเมือง หรือผู้มีอำนาจทางการเมือง ผลทางการเมืองนั้นรุนแรงกว่าผลทางด้านกฎหมาย หรืออื่นๆ ซึ่งมันจะส่งผลถึงความไม่ไว้วางใจและการเสื่อมศรัทธาของคนในองค์กรนั้น และต่อองค์กรนั้น หากไม่มีการจัดการอย่างเหมาะสม หรือพยายามปกป้องกันเอง หรือแสดงความไม่สนใจ ไม่แคร์ การเสี่อมศรัทธาของประชาชนต่อองค์กรนั้น มีผลต่อการอยู่รอดและความเชื่อมั่นต่อองค์กรนั้น
ในทางการเมือง และทางสังคมนั้น พล.อ. สุรยุทธ์ จุลลานนท์ ถือว่าได้ตายเป็นซากศพส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วแล้ว ทำให้คนที่อุ้มนั้น เหม็นตามหรือเสื่อมศรัทธาไปด้วย ยิ่งเข้าช่วยเหลือ ความไม่เชื่อมั่น ความเสื่อมศรัทธาก็จะลามไปเรื่อยๆ
นี่คือ น้ำผึ้งหยดเดียว หรือไม้ขีดก้านเดียว ก็จะเผาป่าทั้งป่าให้ราบพนาสูรได้ นั่นคือ “ป่าแห่งความศรัทธา” ที่เพียรสร้างกันมาอย่างยาวนานด้วยความซาบซึ๊งต่างๆ หากองค์กรที่สุรยุทธ์ จุลลานนท์เป็นสมาชิกยังอุ้มกระเตงอยู่ ก็อย่าได้ประมาทความศรัทธาของประชาชน การโปรประกันดาในยุคนี้มันไม่มีผลเท่าใดแล้ว เพราะสื่อสามารถสื่อได้ทั้งสองทาง
ภาพที่เห็นนั้น มันอธิบายตัวมันเองได้ดียิ่งกว่าโวหารหรือการตะแบงทั้งหลาย
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยยุคใหม่นะครับ ที่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “องคมนตรี” นอกสภา ประจานออกไปทั่วประเทศ และทั่วโลก มีการถ่ายทอดผ่านทีวี ไม่มีการประท้วงหรือเซ็นเซอร์แม้แต่น้อย
ยุทธการเขายายเที่ยง คือการแสดงให้เห็นในเชิงสัญญลักษณ์ ถึงความอยุติธรรมในสังคม การใช้อำนาจที่ไร้คุณธรรม และความไม่มีศีลธรรมของกลุ่มคนที่อ้าง จริยธรรมและคุณธรรมเพื่อทำลายคนอื่น นี่คือ การตอบโต้หรือ counter-attack กลุ่มอำมาตย์ที่อ้างคุณธรรมตลอดเวลาอย่างได้ผลที่สุด และเป็นรูปธรรมมากที่สุด
ผมไม่สนใจว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จะคืนที่ดินให้รัฐหรือไม่ หรือจะแก้ตัวอย่างไร เพราะมันไม่มีความหมายอะไรแล้ว หากสุรยุทธ์ไม่ลาออกจากองคมนตรี ก็จะส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อสถาบันนั้นๆ อย่างแน่นอน
ความน่าเชื่อถือก็จะไม่มีอีกต่อไป แม้มันจะไม่เกิดผลในทันที แต่มันก็ได้บ่อนเซาะไปเรียบร้อยแล้ว
การโจมตี หรือพยายามทำลาย ทักษิณ หรือคนเสื้อแดง ด้วยอำนาจทางกฎหมายอย่างไม่ชอบธรรมหรือสองมาตรฐาน มันก็จะยิ่งตอกย้ำภาพความสองมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ยิ่งทำลายศรัทธาองค์กร โครงสร้างทางการเมืองที่ล้าหลังมากยิ่งขึ้น
ยุทธการเขายายเที่ยง ผลทางการเมืองของมันสมบูรณ์แล้ว
ผมคิดว่าคนเสื้อแดง คงไม่หยุดเพียงแค่นี้ แต่จะเดินหน้าเปิดแผลอำมาตย์ ให้เห็นถึงความสองมาตรฐานและความไร้จริยธรรม การใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมากยิ่งขึ้น ได้ข่าวว่ามีการรุกป่าสงวนที่อื่นๆ อีก ซึ่งคงมีการประจานตามมา แต่คงไม่ต้องถึงกับไปชุมนุมบนนั้นแบบเขายายเที่ยง แค่เอามาเปิดอภิปรายใน People Channel ก็พอ
ในการสงครามนั้น จะต้องรุกไปตามช่องว่างและจุดอ่อนของศัตรู สำหรับศัตรูที่เข็มแข็งนั้น “การโจมตีตรงหน้า” หรือใช้ แข็งกระทบแข็ง เราก็จะแตก แต่กาใช้อ่อนหยุ่นสยบแกร่งกร้าว การโจมตีในจุดที่พวกเขาป้องกันไม่ได้ หรือทำได้ก็ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นการบ่อนเซาะทำลาย “รากฐานความเข็มแข็งของศัตรู” เมื่อศัตรูอ่อนแอแล้วจึงจะโจมตีทำลายในภายหลัง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร
อำมาตยาธิปไตย สร้างรากฐานมากว่าค่อนศตวรรษ ด้วยการสร้างความศรัทธา ให้ประชาชนเห็นว่า พวกเขามีคุณธรรม จริยธรรมสูงส่งกว่าผู้อื่น สมควรได้ปกครองผู้อื่น ดังนั้นการทำลายล้าง จึงต้องบ่อนเซาะความศรัทธาหรือ “ภาพแห่งคุณธรรม” นี้ แสดงให้ประชาชนเห็นว่า อันที่จริงพวกเขาไร้คุณธรรมมากกว่านักการเมืองเสียอีก พวกเขาเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม อุ้ม ช่วยเหลือกัน สร้างความไม่เท่าเทียมกันอย่างมาก
พวกเขาเหมือนปลา เมื่อทำลายน้ำ หรือความศรัทธา ปลาต่อให้เป็นฉลามหรือปลาวาฬ ก็เกยตื้นตายในที่สุด
ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเขาผะอืดพะอมเต็มที่ ไม่ตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต รากฐานที่บรรพบุรุษสร้างให้หลายร้อยปี ก็โดนทำลายไปในที่สุด จะตัดอวัยวะรักษาชีวิต ก็ทำใจไม่ได้ เพราะนี่คือทายาทอสูรของอำมาตย์หัวขาว
เขายายเที่ยง คือ ก้าวแรกๆ ของการทำลายจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ พลังบ่อนเซาะต่อศรัทธามันรุนแรงอย่างยิ่ง