ที่มา thaifreenews
โดย ป้าพลอย
งัดเช็ค2ใบแฉ พล.อ.เปรม ได้จากทุนใหญ่
งัดเช็ค2ใบแฉ พล.อ.เปรม ได้จากทุนใหญ่
เสื้อแดง ปูดเช็ค 2 ใบจากกลุ่มทุนใหญ่สั่งจ่าย "ป๋าเปรม" จี้รัฐบาลตรวจสอบพวก "ใหญ่แล้วรวย" ย้อนถาม จ่ายภาษีอย่างไร -เลี่ยง ปปง.ตรวจสอบหรือไม่ พร้อมไล่"อภิสิทธิ์" พ้นเก้าอี้นายกฯ ชี้หมดภาวะผู้นำแล้ว
ที่ พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำสำเนาเช็ค 2 ใบที่มีการระบุชื่อผู้สั่งจ่าย ชื่อผู้รับ ชื่อธนาคาร เลขที่เช็ค เลขที่บัญชี และจำนวนเงินที่ชัดเจนมาประกอบการแถลงถึงเส้นทางการเงินถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษว่า ว่า ได้ติดตามเส้นทางการเงินของพล.อ.เปรม ในฐานะที่เป็นประมุขของระบอบอำมาตยาธิปไตย พบว่าในขณะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้มีความสัมพันธ์อันดีกับ บุคคลชั้นนำในสังคม และกลุ่มทุน รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหญ่ในประเทศไทยมากมาย หลายบริษัทหลายองค์กรพล.อ.เปรมยังดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา กลุ่มคนเสื้อแดงเคยถามไปว่าได้รับเงินเดือนจากตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ แต่ไร้คำตอบ จึงนำหลักฐานมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพราะประชาชนต้องการคำอธิบายจากพล.อ.เปรมว่า เงินดังกล่าว เป็นค่าอะไร และเหมาะสมหรือบังควรหรือไม่ต่อสถานะที่พล.อ.เปรมดำรงอยู่ในปัจจุบัน
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า พล.อ.เปรมคบหาผู้คนมากมายหนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มทุนที่ใช้นามว่าคณะ 11 ประกอบด้วยบุคคล เช่น ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เทวา สตูดิโอ จำกัด นายชาตรี โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เครือดุสิตธานี และนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัทเอ็มเอ็มซี สิทธิผล จากความสัมพันธ์ตรงนี้ เมื่อสืบสาวลงไปพบข้อมูลว่า พล.อ.เปรมมักเป็นประธานที่ปรึกษาองค์กรคณะ 11 พื้นฐานนี้เข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ปรึกษาบริษัทเอ็มเอ็มซีสิทธิผลด้วย โดยนางกัลยาณี ที่ปัจจุบันได้มอบบทบาทให้กับทายาทดำเนินการในองค์กรแทนไปแล้วนั้น นางกัลยาณีได้จ่ายเช็คของธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมากให้ พล.อ.เปรม ไม่ทราบว่ามีการจ่ายแบบนี้มานานหรือยัง รวมทั้งต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้หรือไม่ โดยมีเช็คทั้ง 2 ใบ สั่งจ่ายระบุชื่อพล.อ.เปรมใบละ 1.8 ล้านบาท ใบแรกเช็คเลขที่ 3745366 ลงวันที่ 8 ธ.ค. 2546 และใบที่ 2 เป็นเช็คเลขที่ 3748879 ลงวันที่ 5 มี.ค. 2547 ทั้ง 2 ใบถูกสั่งจ่ายจากบัญชีของนางกัลยาณี เลขที่ 1803028669
แกนนำ นปช. กล่าวต่ออีกว่า มีคำถามว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้รับเป็นค่าตอบแทนในฐานะที่ปรึกษาขององค์กรใช่ หรือไม่ ถ้าใช่ต้องถามว่าการสั่งจ่ายเช็คเหล่านี้จ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่และจ่ายให้ จนถึงเมื่อไหร่ เพราะมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ 2 ใบ รวมทั้งน่าจะมีจนถึงวันนี้ด้วยหรือไม่ เพราะหากเป็นรายรับของพล.อ.เปรมในฐานะที่ปรึกษาของบริษัทแล้วมีการดำเนินการ ทางภาษีอย่างไร สั่งจ่ายภาษีตามกฎหมายในฐานะผู้มีเงินได้หรือไม่อย่างไร และถ้าไม่ใช่ค่าที่ปรึกษาก็ต้องถามว่าเป็นค่าอะไร ในฐานะประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษไปรับเงินจากบริษัทเอกชนที่มีเป้าหมายแสวง หากำไรได้หรือไม่ เหมาะสมและบังควรหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า เมื่อพิจารณาจากยอดเงินของเช็คทั้ง 2 ใบ เหมือนกับกรณีของยอดเงินที่นายประจวบ สังข์ขาว เคยถอนเงินแล้วหิ้วไปให้ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งละ 1.8 ล้าน 1.9 ล้านบาท ที่นายประจวบจงใจหลีกเลี่ยงการถอนเงินเกิน 2 ล้านบาทที่ต้องแจ้งต่อคณะกรรมป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) การที่นางกัลยาณีจ่ายเช็คจำนวน 1.8 ล้านบาท เป็นเหตุผลเดียวกันด้วยหรือไม่ และถ้าใช่ก็แสดงว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ปิดบังอำพรางใช่หรือไม่
"พล.อ.เปรมที่สร้างภาพสมถะมาตลอด พักอาศัยในบ้านหลวง ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องจ่าย ชีวิตดูสุขสบาย มีค่าตอบแทนจากการเป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษตามที่กฎหมายกำหนดแล้วยัง ต้องการเงินไปทำอะไรอีก ไม่เพียงพอตามที่เคยประกาศยึดแนวทางพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรืออย่างไร วรรคทองที่พล.อ.เปรมระบุตลอด คือ เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ประเมินตัวพล.อ.เปรมได้ว่ามีความยึดมั่นกตัญญู ตอบแทนผู้มีบุญคุณ จึงเกิดคำถามว่า เมื่อนางกัลยาณีมอบเงินจำนวนมหาศาลนี้ให้ ถือว่ามีบุญคุณต่อกัน แล้วมีแนวทางที่จะทดแทนบุญคุณนี้อย่างไร"นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวต่ออีกว่า พล.อ.เปรมที่มีหลักฐานว่าได้รับเงินจากกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ขอถามองคมนตรีทั้งหลายว่า จะไม่พิจารณาเรื่องนี้และแสดงหลักคิดหรือแนะนำความคิดต่อสังคมในเรื่องเหล่า นี้บ้างหรือ รวมถึงองคมนตรีคนอื่นๆ ทั้งพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ครอบครองที่ดินป่าสงวนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัจจุบันกรมป่าไม้ยึดที่ดินคืนไปแล้ว พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ที่สร้างบ้านรุกล้ำบึงน้ำสาธารณะของหมู่บ้านปัฐวิกรณ์ 2 ไม่คิดที่จะแสดงท่าที อธิบายความให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เข้าใจอีกหรือ พล.อ.พิจิตร ที่ทางคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือเชิญให้มาชี้แจง พล.อ.พิจิตรก็ได้ทำหนังสือมาชี้แจงว่า เพื่อป้องกันคนภายนอกมาตกปลา เหตุผลนี้ออกมาจากคนที่เป็นองคมนตรีได้อย่างไร
แกนนำเสื้อแดง กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลสนใจที่จะให้หน่วยงานใดมาตรวจสอบ ก็หยุดสร้างเรื่องเท็จเพื่อทำลายกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วนำความจริงมาสู้กัน หรือว่ารัฐบาลไม่สนใจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ สังคมถามมาตลอดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไปเอาเงินมาจากไหน แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกสู้แล้วรวย คนเสื้อแดงถูกหาว่าเป็นม็อบรับจ้าง ดังนั้นวันนี้ประชาชนธรรมดาอย่างพวกตนจะพูดว่าใหญ่แล้วรวยบ้างจะว่าอย่างไร และเรื่องนี้หวังว่าจะไม่เงียบหายลับไปกับสายลม เพราะสังคมต้องได้รับคำชี้แจงที่พอรับฟังได้ โดยเฉพาะจากพล.อ.เปรม ส่วนกรณี นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุถึงเส้นทาง 3 ช่องทางสนับสนุนการเงินให้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลหวังทำลายความเชื่อมั่น ความชอบธรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการป้ายสีว่าเป็นผู้ชุมนุมรับจ้าง หรือหวังผลประโยชน์จากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การสู้รบ 2 ฝ่ายล้วนต้องการชนะ กลุ่มเสื้อแดงขอยืนยันจะเคลื่อนไหวโดยสันติ เปิดเผยตรงไปตรงมาอย่างที่ลูกผู้ชายทำกัน ไม่มีหยิก ข่วน สร้างความเท็จมาทำลายกัน หากรัฐบาลไม่มีหลักฐานจริงๆก็ขอให้พูดออกมาตรงๆ สังคมจะได้เข้าใจ
"วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หมดราคาสิ้นภาวะความเป็นผู้นำไปแล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีมา 1 ปีมีแต่ข่าวทุจริตของคนในรัฐบาล มีรัฐมนตรีในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องออกจากตำแหน่งด้วยข้อหาทุจริต ไปแล้วถึง 3 คน และยังมีปัญหาเรื่องการใช้งบในหน่วยงานความมั่นคงอีก มติของ ก.ตร.ก็หักหน้านายอภิสิทธิ์อยู่ทุกวัน ไม่เหลือภาวะความเป็นผู้นำแล้ว มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ชีวิตส่วนตัวก็เผชิญกับเหตุการณ์สารพัดรูปแบบ"นายณัฐวุฒิ กล่าว และว่า เหตุการณ์ ที่มีคนขับรถยนต์พยายามปาดเข้าไปขบวนของนายกรัฐมนตรี ถึง 2 ครั้ง รวมทั้งเหตุการณ์ปาอึเข้าไปในบ้านนายกฯนั้น ทำให้วันนี้บ้านนายกรัฐมนตรี ถูกเรียกว่าเป็นบ้าน 4 ถุงเท่าจำนวนของกลางไปแล้ว และยังการกั้นตาข่ายสูงเหมือนสวนนก ขอถามว่า ผู้นำที่อยู่ในสภาพนี้ยังอยู่ได้อีกหรือ นายอภิสิทธิ์ถึงแก่กรรมทางการเมืองไปนานแล้ว แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะอำมาตย์ฉีดฟอร์มาลีนให้จึงดูสดใส ดูใหม่อยู่ วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่เป็นฟอร์มาลีนแมนที่ทำงานอยู่ในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อยากให้คุยกับตัวเองว่า ควรออกจากตำแหน่งก่อนที่จะเน่าเฟะไปมากกว่านี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่ารถยนต์ที่พยายามปาด เข้าขบวนของนายกรัฐมนตรี มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นรถของกลุ่มคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แท็กซี่ที่มาร่วมต่อสู้กับกลุ่มคนเสื้อแดง มีจำนวนมาก แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปตรวจสอบ คนเขาคงหมั่นไส้ว่า เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบธรรมแล้วยังทำงานอะไรไม่ได้อีก ส่วนกรณีมองว่าเป็นแผนของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อสร้างความปั่นป่วน นั้น เราถูกกล่าวหามาตลอด หลายเรื่องก็ไม่เป็นความจริง รัฐบาลต้องนักเลง สู้แบบสุภาพบุรุษหน่อย สู้กับคนเสื้อแดง แต่ใช้วิธีสีม่วง แบบนี้มันใช้ไม่ได้
เพื่อไทย
Monday, February 15, 2010
แฉ งัดเช็ค 2 ใบ พลเอก เปรมได้ทุนใหญ่จาก..
โหลดมาจากประชาไท