ของฝากนักการเมืองขี้ฉ้อ และคนในขบวนการยุติธรรมขี้โกง

ที่มา Thai E-News

ผู้พิพากษาตัดสินคดีความโดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง ไม่รักษาความยุติธรรมทำให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อตายไปจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกใน นรกขุมโรรุจมหานรก ส่งเสียงร้องโหยหวนครำครวญตลอดเวลา

โดย คนเสื้อแดงฝั่งธน
18 กุมภาพันธ์ 2553

ว.วิสุทธิสารี รจนาไว้ในหนังสือ"นรกเป็นตาย อบายภูมิ" จัดพิมพ์โดย บ้านหนังสือโกสินทร์ เมื่อปี 2549 เกี่ยวกับบาปกรรมเรื่องคอรัปชั่นไว้ดังนี้

คนทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็ตาม ตกนรกได้ไม่แตกต่างกัน การตกนรกไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัย แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำ และหากยิ่งการกระทำนั้นๆมีเจตนาในการทำชั่วมากๆ ผลแห่งกรรมนั้นก็ยิ่งมากตามไปด้วย ดังพุทธพจน์ที่ว่า

" เราตถาคต เรียกว่าเจตนาเป็นตัวกรรม "

นอกจากเจตนาแล้ว ยังขึ้นอยู่กับสถานะของผู้กระทำอีกด้วย อาทิ ข้าราชการ นักการเมือง คือกลุ่มคนที่รับใช้ประชาชนและอาศัยเงินเสียภาษีของประชาชนเลี้ยงชีพ

เงินภาษีที่ประชาชนเสียให้แก่รัฐ เป็นเงินที่เสียไปโดยมุ่งหวังเพื่อนำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ และพัฒนาประเทศชาติให้รุ่งเรืองถาวร ถ้าแม้ผู้รับเงินนี้ไปแล้ว แต่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ ซ้ำยังทุจริต คอรัปชั่น ใช้อำนาจบารมีในทางมิชอบ ข่มเหงรังแกประชาชน ทำให้เกิดผลเสียแก่ผู้ให้ทรัพย์มา ผลกรรมที่ข้าราชการชั่วหรือนักการเมืองชั่วจักต้องชดใช้ จึงหนักทวีคูณเป็นสองเท่า

ตัวอย่างกรรมชั่ว ผู้ที่ผูกพยาบาทอาฆาต จองเวรจองกรรมผู้อื่น หาทางกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจทุกวิถีทาง ผูกใจเจ็บคิดหาวิธีแก้แค้นคืนตลอดเวลา

ท่านจะได้ไปเกิดใน นรกขุมใหญ่ ขุมที่ สัญชีวมหานรก ซึ่งเป็นขุมนรกที่มีเปลวไฟนรกอันร้อนแรงแผ่ปกคลุมทั่วนรกผุดขึ้น แผดเผาสัตว์นรกตลอดเวลา

สัตว์นรกที่ไปเกิดในขุมนี้ จะมีเล็บมือ เล็บเท้าเป็นหอก แหลน หลาว มี ฯลฯ ใช้ไล่ฆ่าฟันสัตว์นรกด้วยกันเองจนตาย ทว่าพวกมันก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาไล่ฆ่าฟันกันใหม่ไม่สิ้นสุด

การลงฑัณท์และระยะเวลาชดใช้กรรม

สัตว์นรกเหล่านี้จะถูกจับนอนลงบนแผ่นเหล็กร้อนๆที่มีไฟนรกลุกท่วม มิหนำยังถูกนายนิรยบาลใช้ดาบฟันร่างจนขาดเป็นท่อนๆ (แต่ไม่ตายนะ) บ้างก็ถูกจับห้อยหัวลงแล้วถูกดาบหรือขวานเฉือนเนื้อออกทีละชิ้นจนเหลือแต่โครงกระดูก

สัตว์นรกในขุมนี้ต้องชดใช้กรรมนานถึง 500ปี นรก (1วันนรก = 9ล้านปีโลกมนุษย์)

/////////////////////////

สำหรับ นักการเมือง ข้าราชการ ที่ประพฤติชั่ว กระนั้นยังยึดติดกับตำแหน่งมิยอมลาออก เพราะกลัวสูญเสียอำนาจลาภยศ ความสุขความสบาย ยังใช้เงินจากข้าราชการ และเงินคอรัปชั่นนั้นๆ เพื่อบำรุงบำเรอตน เมื่อตายไป ก็จะไปเกิดเป็นสัตว์นรกในขุมนรกที่ชื่อ กาฬสุตตมหานรก สัตว์นรกในนรกขุมนี้ จะมีรูปร่างใหญ่โต ตามร่างกายมีแผลเหวอะหวะ น่าสยดสยอง มีไฟนรก ลุกเป็นเปลวร้อนแรงแผดเผาปกคลุมแผ่ทั่วนรก ทำให้สัตว์นรก ต้องกรีดร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส

นอกจากนั้นแล้ว สัตว์นรกพวกนี้ยังถูกจับให้นอนบนแผ่นเหล็กร้อนๆ แล้วถูกนาบลำตัวด้วยเชือกเหล็กสีดำ อันติดไฟลุกโชน ขนาดเท่าลำตาล ยังมิหนำ ต้องถูกเลื่อย มีด ดาบ หั่นร่างจนขาดเป็นท่อนๆ ตาย รอยนาบแห่งเส้นเชือกนั้นๆอีก ถ้าสัตว์นรกนั้นวิ่งหนี ก็จะถูกเชือกเหล็กสีดำอันร้อนระอุสุดทนนั้น หล่นลงมาฟันร่างให้มอดไหม้เป็นจุณ (ทว่าไม่ตายหรอกนะ) พวกมันต้องชดใช้กรรม อยู่อย่างนี้ นานถึง 1000ปี นรก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ที่กล่าวเท็จ บิดเบือนความจริง ทุจริต รับสินบน ผู้พิพากษาตัดสินคดีความโดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง ลาภยศ ไม่รักษาความยุติธรรมทำให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อตายไปจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกใน นรกขุมโรรุจมหานรก พวกมันมีร่างกายใหญ่โต ส่งเสียงร้องโหยหวนครำครวญตลอดเวลา เพราะพวกมันจะถูกนายนิรยมบาล จับนอนคว่ำหน้ากลางดอกบัวเหล็ก ให้คาง ข้อเท้า และมือจมหายไปในดอกบัว จนมิอาจขยับเขยื้อน ในดอกบัวนั้นมีเปลวไฟนรกอันร้อนสุดทน ลุกท่วมร่างของมันตลอดเวลา เปลวไฟนั้นไหลเข้าในทวารทั้ง 9 ของสัตว์นรก คือ ตา 2 หู 2 จมูก 2 ปาก 1 ทวารหนัก 1 และทวารเบา 1 พวกมันดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสเสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่งแดนนรก และพวกสัตว์นรกในขุมนี้ ต้องใช้กรรมของมันนานแสนนาน ยาวนานถึง 4000 ปีนรก

ทีนี้มาถึงนรก ขุมที่นักการเมืองส่วนใหญ่จองที่ไว้สำหรับไปยืน เล่น นั่ง นอนกลิ้งหรือคลานเล่นในเปลวไฟนรกด้วยเพราะเคยกล่าวคำเท็จ หลอกลวง บิดเบือนความจริงเป็นประจำสัญญาอะไรกับประชาชนผู้เสียภาษีไว้ และไม่เคยทำตามสัญญาเลย แล้วยังพวก ลักขโมย(เงินแผ่นดิน) ฉกชิงทรัพย์ ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ประชาชน ผู้สุจริต เป็นต้น

พวกนั้นเมื่อตายไปมันจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกในอเวจีมหานรก พวกมันจะถูกนายนิรยบาลจับตรึงไว้กับพื้น โดยใช้หลาวเหล็กแหลมเสียบตั้งแต่หัวจนทะลุทวารหนัก หรือเสียบหน้าอกทะลุหลัง ไม่ให้ขยับเขยื้อนแล้วยังมีไฟนรกพวยพุ่งมาเผาผลาญทรมานร่างจนแหลกเป็นจุณ แล้วกลับมาเกิดในนรกนี้ใหม่แล้วถูกลงทัณฑ์ซ้ำเช่นเดิม นานนับ อสงไขย (ไม่ต้องมาเกิดอีกเลย)