WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 31, 2011

สื่ออังกฤษตีแผ่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ใช้องค์กรการกุศลบังหน้า หวังแทรกแซงทางการเมือง

ที่มา thaifreenews

โดย ice angel




เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียนของอังกฤษเปิดเผยว่า
องค์กรการกุศลในราชูปถัมป์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มีส่วนเกี่ยวข้องในการล็อบบี้รัฐมนตรี
และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ให้เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองที่อ่อนไหวในหลายด้าน
เช่น การเปลี่ยนอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการ์เดียนชี้ว่า
การกระทำดังกล่าว จะทำให้ข้อถกเถียงเรื่องบทบาททางการเมืองของราชวงศ์ กลายประเด็นอีกครั้งหนึ่ง

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ได้เปิดเผยจดหมายโต้ตอบระหว่างมูลนิธิในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
เช่น มูลนิธิธุรกิจในชุมชน (Business in the Community),
มูลนิธิในราชูปถัมป์เพื่อสิ่งปลูกสร้าง (the Prince’s Foundation for the Built Environment)
กับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงต่างๆ ซึ่งแสดงถึงความพยายามขององค์กรในราชูปถัมป์
ต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐ เช่น เรื่องการออกแบบผังเมือง
การลดภาษีมูลค่าเพิ่มในการบูรณะสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ เป็นต้น





จดหมายดังกล่าว ซึ่งนสพ. เดอะ การ์เดียน ได้มาจากการร้องขอผ่านพ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสาร
เปิดเผยว่า Ros Kerslake ประธานกรรมการบริหารกองทุนบูรณะในราชูปถัมป์
(Prince’s Regeneration Trust) ได้เข้าพบ Grant Shapps รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะ
เพื่อกดดันกรมคลังให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในการฟื้นฟูบูรณะสิ่งก่อสร้าง นสพ.การ์เดียน ยังเปิดเผยว่า
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จะได้ประโยชน์จากการลดอัตราภาษีดังกล่าว
ในการดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์ของพระองค์ด้วย




การกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดข้อกังวลว่า
การใช้อำนาจทางการเมืองของฟ้าชายชาร์ลส์อาจก่อให้เกิดปัญหาทางรัฐธรรมนูญ

ศาสตราจารย์อดัม ทอมกินส์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ กล่าวว่า
เนื่องจากมูลนิธิดังกล่าวก่อตั้งโดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งอาจแฝงวาระทางการเมืองไว้
ทำให้อาจมองได้ว่า การใช้อำนาจดังกล่าวเป็นการแทรกแซงทางการเมือง
และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสถาบันซึ่งควรอยู่เหนือการเมือง


นอกจากนี้ มูลนิธิของเจ้าชายชาร์ลส์ ยังถูกมองว่า
ใช้อภิสิทธิ์ในการเข้าถึงการพิจารณางบประมาณได้ง่าย
และรวดเร็วมากกว่าองค์กรการกุศลอื่นๆ ทั่วไป

พอล ริชาร์ด รัฐมนตรีกระทรวงชุมชนและสุขภาพมองว่า
ในความรู้สึกของตน มูลนิธิดังกล่าวได้รับสถานะพิเศษ
และได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะภายใต้รัฐบาลใดๆ

“เมื่อมีจดหมายจากฟ้าชายชาร์ลส์เข้ามา [ในรัฐสภา]
จะมีความรู้สึกของการวิ่งเต้นเป็นพิเศษ และช่องทางในการเข้าถึง
สำหรับตำแหน่งและมูลนิธิของพระองค์
ก็ดูเหมือนจะง่ายมาก อย่างที่องค์กรอื่นๆ เทียบไม่ได้” ริชาร์ดกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เป็นประธานมูลนิธิการกุศลทั้งหมด 20 แห่ง
ในจำนวนทั้งหมด พระองค์เป็นผู้ก่อตั้ง 18 แห่ง และถูกมองอย่างกว้างขวางว่า
เป็นความพยายามของพระองค์ ในการขยายอิทธิพล
ทางด้านนโยบายสังคมและสิ่งแวดล้อมในสหราชอาณาจักร



อย่างไรก็ตาม โฆษกของสำนักพระราชวังของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กล่าวว่า
มูลนิธิดังกล่าวเป็นองค์กรอิสระที่มีคณะกรรมการเป็นผู้ดูแลกำกับ
และมีการสื่อสารกับรัฐบาลอยู่แล้วเป็นเรื่องปรกติ

ก่อนหน้านี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ตกเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์
ในเรื่องความพยายามใช้อิทธิพลส่วนตนต่อนโยบายสาธารณะ
โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า พระองค์โปรดให้รัฐมนตรีจากหลายกระทรวงเข้าพบเป็นการส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสิ่งแวดล้อม และกระทรวงพัฒนานานาชาติ
แต่การพูดคุยดังกล่าว ถือว่าเป็นความลับ เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นในพ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสาร
จึงไม่อาจเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ข้อยกเว้นของพ.ร.บ. ดังกล่าวไม่สามารถใช้กับองค์กรการกุศล

ศาสตราจารย์อดัม ทอมกินส์ ตั้งคำถามว่า การตั้งองค์กรเครือข่ายเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง
เช่น มูลนิธิในราชูปถัมป์ดังกล่าว สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐธรรมนูญระบุไว้หรือไม่


“แผนการดำเนินการดังกล่าวนี้ ทำให้เราตั้งคำถามว่า การทำงานรณรงค์เพื่อสาเหตุที่ดี
[ขององค์กรการกุศล] แต่มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองแฝงอยู่ด้วยเช่นนี้
จะทำลายการดำรงตนที่เหมาะสมของสถาบันกษัตริย์
โดยเฉพาะการอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางหรือไม่”
ศาสตราจารย์ม.กลาสโกว์ กล่าว




อนึ่ง ในปี 2552 มูลนิธิในราชูปถัมป์เพื่อสิ่งปลูกสร้าง (the Prince’s Foundation for the Built Environment)
ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการการกุศล (Charity Commission) หลังจากได้รับการร้องเรียนว่า
มูลนิธิดังกล่าว ใช้อิทธิพลส่วนพระองค์แทรกแซงการออกแบบสิ่งปลูกสร้างแห่งหนึ่งในลอนดอน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ คณะกรรมการฯ ได้ชี้แจงว่า ไม่มีการกระทำใดๆ
ของมูลนิธิที่อยู่นอกเหนือจุดมุ่งหมายทางการกุศล

ข่าวจากประชาไท

http://www.prachatai3.info/journal/2011/08/36692