ที่มา Thai E-News
วีรกรรมจิกหัวซ้ำเสื้อแดงตอนสงกรานต์เลือดปี52-มินตรา โสรส (ภาพที่2) ซึ่งเป็นหญิงเสื้อแดงที่ถูกจิกหัวในเหตุการณ์ประท้วงสงกรานต์เลือดปี52 มีสีหน้าสลดหลังนักข่าวช่อง 7 สมจิตต์ นวเครือสุนทร (ภาพที่3-4) ตั้งป้อมเข้าข้างรัฐบาล โดยแทนที่จะทำหน้าที่สื่อกลาง กลับมาทำตัวเป็นคู่กรณีพิทักษ์รัฐบาลอภิสิทธิ์กล่าวหาว่าเธอถุยน้ำลายใส่ชาย คู่กรณี(ภาพแรก)ก่อนจึงถูกจิกหัว มาพูดเรื่องเท็จ มาผิดที่แล้ว จะมาสภาแถลงข่าวทำไม ควรไปแจ้งตำรวจมากกว่ามาแถลงข่าว และฯลฯ(ภาพข่าว:ASTVผู้จัดการ)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา ผู้จัดการ
2 กันยายน 2554
ย้อนไปดูวีรกรรมนักข่าวช่ิอง 7 จอมอื้อฉาวอคติเสื้อแดง เป็นองรักษ์พิทักษ์มาร์คมาต่อเนื่อง โดยหากย้อนไปช่วงเหตุการณ์"สงกรานต์เลือด2552"ที่มีเหตุการณ์จิกหัวผู้หญิง เสื้อแดงในเหตุการณ์ชุมนุมยังไม่หนำใจสื่อชั่ว มาแถลงข่าวสภาแทนที่จะรับฟังเจอรุมทึ้งตั้งป้อมจิกหัวซ้ำ ทั้งกล่าวหาว่าไปถ่มน้ำลายใส่ก่อนเลยโดนจิกหัว มาพูดเรื่องไม่จริงจะรับผิดชอบอย่างไร ไล่ไปแจ้งความโรงพักอย่ามาแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรม ส.ส.หญิงเพื่อไทยสุดกลั้นปรี๊ดด่าไม่เป็นกลางจะเข้าข้างกันยังไงก็เชิญ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2554 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. หลังจากที่นางอรุณี ชำนาญญา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในสภาว่ามีผู้หญิงเสื้อแดงถูกชายฉกรรจ์ทำร้ายกระชากผม จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อ 13 เม.ย. 2552เสร็จสิ้น นางอรุณี พร้อมด้วยนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.สัดส่วน และส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ได้นำตัวหญิงที่ปรากฏในภาพ โดยระบุว่าชื่อน.ส.มินตรา โสรส มาแถลงข่าวพร้อมภาพประกอบด้วย
โดยนายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำตัว น.ส.มินตรา มายืนยัน เพราะเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ทรงกิตติ จักรบาศก์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รวมทั้งชายที่กระทำความรุนแรง ที่เป็นผู้กระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าว นายกฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยทางพรรคและทีมกฎหมายของพรรคจะนำตัวนางมินตราและญาติ ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อเอาผิดกับบุคคลทั้ง 5 คน ตามกฎหมาย มาตรา 157 ว่าด้วยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำ
ด้านน.ส.มินตรา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวันเกิดเหตุบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตนถือธงไปกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เพื่อไปกราบขอร้องทหารไม่ให้ทำร้ายประชาชน เพราะประชาชนไม่มีอาวุธ แต่ชายคนดังกล่าวในภาพ ได้ถามว่า “ใครให้มึงมา ทักษิณใช่ไหม” ตนจึงได้ตอบไปว่า “มาเพื่อประชาธิปไตย เพราะทหารทำร้ายประชาชนมือเปล่า ฆ่าประชาชน” แล้วชายคนเดิม ได้โต้ตอบว่า “ทหารไม่มีปืน ไม่ฆ่าคน” ตนจึงเถียงว่า “ทหารฆ่าคน เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์” ชายคนดังกล่าว กล่าวว่า “มีหลักฐานหรือไม่” ตนจึงบอกว่า “เห็นทั้งปืน ระเบิด มีดสปาต้า” ชายคนดังกล่าว จึงกล่าวว่า “ปากดีนัก” พร้อมกับกระชากผมตนอย่างแรง
หญิงเสื้อแดงสงสัยคนจิกหัวเป็นสื่อเลยโดนสื่อแร้งทึ้ง
ในที่ประชุมแถลงข่าวนั้นปรากฎว่านางสาวสมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่อง 7 ถามว่าก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องบาดหมางกับชายคนดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ น.ส.มินตรา กล่าวว่า ไม่เคย ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ชายคนนี้ แต่งกายคล้ายสื่อมวลชน และอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชนด้วย
นัก ข่าวช่อง 7 จึงถามต่อว่านางมินตราได้ถุยน้ำลายใส่หน้าชายคนนั้นหรือไม่ น.ส.มินตรา กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น ทั้งนี้ ช่างภาพและผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ย้ำว่า มีพยานและหลักฐานที่เป็นบุคคลและภาพถ่าย ว่าน.ส.มินตราได้ถมน้ำลายใส่ผู้ชายคนดังกล่าวก่อน น.ส.มินตรา จึงย้ำอีกรอบว่าตนไม่ได้่ถ่ม และย้ำว่า “ตนรวยพอ ไม่จำเป็นต้องรับเงินใคร”
ผู้ สื่อข่าวช่อง7คนนี้จึงถามว่าทำไมไม่รอให้รัฐบาลชี้แจงให้เสร็จก่อน แล้วจึงมาชี้แจงข้อเท็จจริงกัน จากนั้น นางนฤมล ธารดำรง ส.ส.สมุทรปราการ ตะโกนด่าสื่อมวลชนคนนี้ด้วยความไม่พอใจว่า คุณเป็นใครมาโกรธอะไรพวกเรา เราแค่มาแถลงข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวหลายคนได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมรับฟัง
ซึ่ง ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นและเมื่อผู้สื่อข่าวช่อง 7 คนดังกล่าวได้เดินออกจากห้องแถลง เพื่อยุติการโต้เถียง แต่นางนฤมลได้เดินตามออกมา แล้วถามว่า “เป็นใคร อยู่ไหน” ซึ่งนางนฤมลได้เดินตามหาผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว และมายืนมองหน้า หลังจากนั้นการซักกถามก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยนำบุคคลดังกล่าวมาแถลง หากไม่เป็นความจริงจะรับผิดชอบอย่างไร
“ทุเรศ นักข่าวไม่เป็นกลาง จะเขียนเข้าข้างก็เขียนไป”เมื่อ ถามว่า ทำไมจึงไม่มีการประสานไปยังรัฐบาล เพื่อขอข้อมูลมาตรวจสอบความถูกต้องก่อนแถลงข่าว นายพร้อมพงษ์ ย้อนถามว่า ขอแล้วจะให้หรือ และตนก็มีหน้าที่เพียงพาคนมาชี้แจง ส่วนรัฐบาลก็มีหน้าที่ตอบและชี้แจงในส่วนของรัฐบาล กลุ่มผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ก็เป็นการเสนอข่าวเพียงด้านเดียว จึงทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวบางส่วนเดินออกจากห้องแถลงข่าว จากนั้นการแถลงข่าวก็ดำเนินการไปตามปกติ จนจบโดยนายพร้อมพงษ์ระบุว่าจะเดินทางไปแจ้งความ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงตรงนี้ได้มีผู้สื่อข่าวหญิงบอกว่า เป็นสถานที่ที่ควรไปที่สุด ทำให้นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมพูดเสียงดังว่า “พูดอย่างนี้ได้อย่างไร สื่อไม่เป็นกลาง เข้าข้างกัน” จากนั้นจึงได้เดินตามผู้สื่อข่าวมา พร้อมกับพูดว่า “ทุเรศ นักข่าวไม่เป็นกลาง จะเขียนเข้าข้างก็เขียนไป”จากนั้นผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ได้ชี้แจงว่าไม่ได้ว่าอะไร เพราะสิ่งที่พูดไปก็ถือว่าถูกต้องแล้ว แต่นางเปล่งมณี ก็ยังไม่พอใจอีกซึ่งทำให้บรรดาสื่อมวลชนบอกว่าหากมาแถลงข่าวแล้วไม่ฟังคำถาม ก็ไม่ควรมาแถลงข่าว จากนั้นผู้สื่อข่าวต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางสาวสมจิตต์ ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ซึ่งกล่าวชื่นชมนายอภิสิทธิ์ออกนอกหน้า เคยเขียนหนังสือเชียร์ 2 เล่ม ได้ใช้ทีศคติในทางตรงกันข้ามในการตามจิกนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนต้องเดินหนี ก่อปฏิกริยาไม่พอใจต่อคนเสื้อแดง จนพากันไปประท่วงให้ช่อง 7 ปลดพ้นหน้าที่ทำให้ 2 สมาคมสื่อออกแถลงการณ์ปกป้องกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงคุกคามสื่อ และว่านางสาวสมจิตต์ทหน้าที่เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน
นางสาวสมจิตต์กล่าวย้ำหลายครั้งว่าเธอทำหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ไม่เคยมีอคติต่อฝ่ายใด คนดูคนติดตามย่อมรู้เห็นเป็นอย่างดีว่า เธอคือมือชีพที่ไม่ได้มีอคติกับฝ่ายใด
ขณะ เดียวกันในเวลา 13.00 น.วันนี้ สมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ขอเชิญร่วมเดินทางไปยื่นหนังสือถึง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ณ สำนักงาน สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเพื่อเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาเช่นกัน และเราจะบอยคอตสินค้าต่้่างๆ ที่สนับสนุน
ขอเรียกร้องให้พี่ น้องประชาชนต่อไปเมื่อเราจะแถลงข่าวงานต่างๆ เราจะใช้สื่อที่เข้าข้างประชาชน และใช้ประชาชนด้วยกันในการเผยแพร่ข่าวสารกันเองตามหน้าเวปเพจเฟสบุค ทวิตเตอร์ วิทยุชุมชนของภาคประชาชน เวปไซด์ต่างๆ ป้ายคัตเอ๊าท์ และแผ่นพับ ใบปลิว
ในการเสนอข่าวสารของพวเรากันเอง พวกเราก็ทำกันเองได้
ที่ไปที่มาเรื่องนี้ อ่านข่าวนี้ประกอบ ดูกับตาอย่าฟังแต่'เขาว่า'คนเสื้อแดงคุกคามนักข่าว อนาถใจ2สมาคมสื่อขวัญอ่อนออกแถลงการณ์อีกแร๊ะ
**********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:
อนาถ!สื่อไทยมั่วตั้งแต่ต้นจนจบ ฮือต้านตัดสินรางวัลสุดนิ่มจิกหัวเสื้อแดงคว้าภาพยอดเยี่ยม
ลูกกระจ๊อกเหลืองกร่าง จิกหัวหญิงเสื้อแดงไม่พอเผยเคยยิงเสื้อแดง เหิมขู่ฆ่าเหมือนผักปลา