ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
เห็นคำพูดของนายกนก ที่พูดผ่าน facebook ว่าพวกที่เสนอแก้ไข 112 นั้น พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรืออย่างไร
ได้เห็นข้อความนี้ ผมนึกภาพสมัยที่ผมเรียนอยู่ใช้ประมาณ ป.2-ป4 โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ที่บ้านนอกได้เลย คือ นักเรียนชาย
เกเร ทะเลาะกัน อีกคนหนึ่งว่า ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน (แต่ออกเสียงสำเนียงลาวนะครับ "บ็อกลูกพ่อแม่บ่สั่งสอน") อีกคนก็สวนกล้บ
มาทันที่ว่า "สอนโว๊ยแต่กรูบ่จำ มีอีหยั๋งบ่" (สอนแต่กรูไม่จำ มีอะไรไหม)
เป็นคำตอบที่สะใจดี
คือ คำถามแบบนี้ มันเป็นคำด่ากัน ไม่ใช่การโต้แย้งกันด้วยเหตุด้วยผลแต่อย่างใด ผมไม่นึกว่า "คนระดับที่เป็นพิธีกรข่าวชื่อดัง" จะออกอาการแบบนี้ มันเหมือนคนจนตรอกสิ้นท่า เรื่องการโต้แย้งด้วยเหตุผลนะครับ เหมือนนักเลงอันธพาลด่าคู่ปรปักษ์ เพราะหมดปัญญาที่จะตอบโต้
ตอนนี้ เหมือนเป็นโรคระบาดในหมู่ พวก "ปัญญาชนสายอำมาตย์" เลย เป็นปัญญาชนจอมปลอม กันทั้งนั้น พอต้องใช้งานสู้กับนักวิชาการอย่าง คณะนิติราษฏร์ ดันทำตัวกลายเป็นอันธพาลไปเสียนี่
บางคนอุตส่าห์ได้ไปเรียนนอกได้ปริญญาด็๋อกเตอร์กลับมา แทนที่จะเอาปัญญามา กลับกลายเป็นอันธพาลไปเสียฉิบ ออกนอกเหตุผลไปเฉยเลย
อันธพาลสาย พธม. นะมีมากแล้ว
มีทหารอีกเป็นกองทัพ มีศาล ทั้งขโยง
แต่ที่ต้องการคือนักวิชาการ และปัญญาชนที่จะไปโต้แย้งทางปัญญากับคณะนิติราษฎร์
ไม่ได้ต้องการอันธพาล ไปตอบโต้เขา