ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ ที่พวกอำมาตย์ออกมาถล่มนิติราษฎร์ เพราะนี่คือสมรภูมิทางปัญญาไม่ใช่กำลัง
คือเห็นพวกอำมาตย์ระดมคนมาถล่มนิติราษฎร์แล้ว อาจทำให้หลายคนกังวล ว่าจะเพลี้ยงพล้ำฝ่ายอำมาตย์
ช่วง แรกผมก็กังวลเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมพอประเมินออกแล้วว่า ไม่มีผลมากมายอะไรนัก แต่จะส่งผลลบกับพวกอำมาตย์และฝ่ายต่อต้านการแก้ไข 112 มากกว่า
เพราะนี่คือ สมรภูมิทางปัญญา ไม่ใช่สมรภูมิทางการใช้กำลัง
ต่อให้ยกพวกออกมาหลายหมื่น ก็เปลี่ยนแปลงสภาพอับจนทางวิชาการไม่ได้
อัน ที่จริงการตอบโต้สมรภูมิทางความคิด สมรภูมิทางปัญญานี้ แค่มี "บทความดีๆ" มีเหตุมีผล แนวคิดมีหลักการและทฤษฎีรองรับแบบโต้แย้งทางวิชาการได้ยาก มีแค่บทความเดียว ก็สามารถยันนิติราษฎร์ถอยกลับไปติดกำแพงได้แล้ว หากมีบทความดีๆ ความคิดดีๆ อย่างที่ว่านั้นจริง
เพราะการตอบโต้ด้วย การด่าว่า ใช้กำลังขมขู่ ในที่สุดก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะมันหักล้าง Thesis (ข้อเสนอ) ของนิติราษฏร์ไม่ได้ ยิ่งยกพวกออกมา พวกที่สนับสนุนนิติราษฏร์ก็คงยกพวกออกมาเช่นกัน สุดท้าย ฝ่ายที่มีเหตุมีผลย่อมชนะในที่สุด
เรื่อง 112 ในทางทฤษฎีหลักการ ถึงอย่างไรมันก็ต้องแก้ไข ผมยังไม่เห็นข้อโต้แย้ง ที่มีน้ำหนักทางวิชาการใดๆ เลย ที่สามารถยันไม่ให้แก้ไขได้
จนวันนี้ "ก็ยังไม่มีข้อโต้แย้งนิติราษฏร์" ที่มีน้ำหนักทางวิชการเลย
อัน ที่จริงหากใครศึกษาทฤษฎีการเมือง ก็รู้ว่า มันไม่มี เพราะเรื่อง อนุรักษ์นิยม กับ ลิเบอร์รัล ลัทธิอำมาตย์กับประชาธิปไตย มันสู้กันในยุโรปมาตั้งแต่ปลายศตวรร์ที่ 17 (ราวๆ คศ. 1650 ขึ้นมา) แล้ว และผลสรุปก็เห็นชัดเจนในยุโรปแล้ว
ตอนนี้มันแค่เริ่มในประเทศไทย
ถึงอย่างไร พวกทหารก็คงแพ้ในทางการเมืองและการต่อสู้ทางความคิดอยู่ดี
หาก หัวหอกของฝ่ายทหารเป็นแค่ "ประยุทธ์ จันโอชา" ยิ่งแพ้เร็วมาก เพราะเชื่อมั่นในกำลัง และความรุนแรง แต่ดันมีอำนาจในศตวรรษที่ 21 ซึ่งโลกเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น นี่ไม่ใช่ยุคสงครามเย็น แบบสฤกษ์ ธนะรัช ที่จะสามารถใช้กำลังอย่างไรก็ได้