ที่มา Voice TV
อิทฤทธิ์แซนดี้ เหลือกำลัง ซัดสหรัฐฯอ่วมอรทัย CNN รายงานยอดคนตาย
11 ราย ขณะที่ตัวเลขไม่เป็นทางการพุ่งถึง 58 ศพ สูญเสียใหญ่หลวง
ตลาดหุ้นสหรัฐต้องปิดอีกครั้งในรอบ 27 ปี
วันนี้ (30 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแอตแลนติก ซิตี
รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า แม้พายุเฮอริเคนแซนดี้
จะอ่อนกำลังลง ซึ่งการก่อตัวของพายุครั้งนี้ มีอีกชื่อว่า "แฟรงเก้นสตอร์ม"
หรือ "ซูเปอร์สตอร์ม" เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่รัฐนิวเจอร์ซีย์แล้ว ในวันนี้
พร้อมสร้างสถิติก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 13 ฟุต
รายงานของศูนย์เตือนภัยพายุหมุนแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ระบุว่า
ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 07.00 น. เช้าวันที่
30 ต.ค. ตามเวลาในไทย พายุลูกดังกล่าวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วลมศูนย์กลาง
135 ก.ม./ชม. เข้าสู่ชายฝั่งเมืองแอตแลนติก ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์
ส่งผลให้เกิดฝนตกกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน และลมกระโชกแรงจนต้นไม้หักโค่น
ไล่ตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ไปจนถึงรัฐเมน
นอกจากนี้ อิทธิพลรุนแรงของพายุทำให้ประชาชนในแถบตะวันออกของสหรัฐกว่า 2.8
ล้านคน ใน 11 รัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตัน ประสบภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า
รวมถึงมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ศพ ในจำนวนนี้ 1 ศพพบในเขตควีนส์
ของนครนิวยอร์ก เป็นชายซึ่งเสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ล้มทับ อย่างไรก็ตาม
ยังพบว่ายอดรายงานผู้เสียชีวิต อย่างเป็นทางการ อ้างการรายงานจาก CNN
ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯจำนวน 11 ราย ในแคนาดา 1 ราย
แต่ขณะเดียวกันมีรายงานไม่เป็นทางการว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจจะถึง 58 รายแล้ว
เอ็นเอชซีประเมินด้วยว่า
การที่พายุยังคงมีเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าพายุเฮอริเคน แม้จะอ่อนกำลังลงบ้าง
เกิดจากการที่ที่พายุเคลื่อนตัวเข้ารวมกับมวลอากาศเย็นในมหาสมุทร
จึงอาจทำให้เกิดหิมะตกหนักได้เช่นกัน
โดยรัฐเวอร์จิเนียอาจต้องเผชิญหิมะตกหนักถึง 3 ฟุต ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า
มีเครนก่อสร้างในแมนฮัตตันหักเสียหาย เจ้าหน้าที่เข้าควบคุม
เบื้องต้นคาดว่า อาจเกิดจากกระแสลมแรงพัด
แต่ไม่พบรายงานผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ทางการนครนิวยอร์กประกาศตัดกระแสไฟฟ้าในเขตแมนฮัตตันตอนล่าง
ที่มีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 6,500 คน
เนื่องจากเริ่มมีน้ำท่วมขังในพื้นที่แล้ว
พร้อมกับประกาศห้ามมิให้ประชาชนออกนอกเคหะสถานเด็ดขาด
ส่วนตลาดหลักทรัพย์นครนิวยอร์กประกาศปิดทำการต่ออีก 1 วัน
โดยเปิดการซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เน็ทเท่านั้น
นับเป็นการปิดทำการครั้งแรกในรอบ 27 ปี หลังพายุเฮอริเคน "กลอเรีย"
ถล่มสหรัฐเมื่อปี 2528
ส่วนสายการบินชั้นนำของโลกหลายสายยังคงระงับให้บริการเที่ยวบินสู่สหรัฐ
โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มีจุดหมายปลายทางสู่ภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น บริติช
แอร์เวย์ส, เวอร์จิ้น แอตแลนติก, กาตาร์ แอร์เวย์ส, เอมิเรตส์,
ลุฟท์ฮันซ่า, แควนตัส และเตอร์กิช แอร์ไลน์ส, ขณะที่ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส
หนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศระงับเที่ยวบินในประเทศ 3,700
เที่ยวบิน จนถึงวันที่ 31 ต.ค. ส่วนอเมริกัน แอร์ไลน์ส และเดลต้า แอร์ไลน์ส
ระงับเที่ยวบินเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของประเทศ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนายมิตต์ รอมนีย์ 2
ผู้สมัครตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.
ต่างระงับการเดินสายรณรงค์หาเสียงที่เหลือทั้งหมด
โดยโอบามาเดินทางจากรัฐฟลอริดากลับไปยังทำเนียบขาว และแถลงทันทีว่า
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่าง
เต็มที่
พร้อมกับขอร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
และให้คำมั่นว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่ทอดทิ้งประชาชน
และจะให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ
ขณะที่รอมนีย์ซึ่งอยู่ที่รัฐโอไฮโอ
ได้บริจาคเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเพื่อเริ่มกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พร้อมกับเปิดรับบริจาคสิ่งของที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง "วิกตอรี่
เซ็นเตอร์" ของเขาแล้ว
ส่วนการรายงานความเสียหาย เบื้องต้นคาดการณ์ว่า เหตุการณ์พายุถล่มครั้งนี้
จะทำให้เสียหายมากถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันกว่า 60 ล้านคน หรือราว 1 ใน 5 ของประเทศ.
Source : Time News Feed
เพื่อไทย
Tuesday, October 30, 2012
'แซนดี้'ไม่สิ้นฤทธิ์ ถล่มนิวยอร์กจมบาดาล
by
pakornr
30 ตุลาคม 2555 เวลา 11:33 น.