ที่มา มติชนออนไลน์
"จตุพร"ขู่นำ"ภาพ-เสียง"ทหารสังเวยชีวิตป้องนายกฯมาเผยแพร่ ศิริราชแถลงศพ"อภินพ"กะโหลกแตก ถูกกระทบกับของแข็งอย่างแรงมีรอยร้าวยาว 5-7เซนติเมตร มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มไขสันหลังชัดเจน รอผลตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้ออีก7วัน พท.ตั้ง3ปมสงสัยการตายทหารนายกฯรู้ผลชันสูตรยันไม่เกี่ยวรบ.
คลิกอ่าน - เปิดผลชันสูตรศพพลทหาร"อภินพ"ดับคาบ้าน "มทภ.1"
ชี้ถูกกระทบกับของแข็งอย่างแรง
รศ.นพ.วิสูตรเปิดเผยว่า ผลการตรวจพบว่า ส่วนที่บริเวณคอมีรอยช้ำที่ต้นคอ (ด้านหลังของคอ) มีการแตกของกะโหลกศีรษะ โดยเนื้อส่วนฐานของศีรษะด้านซ้ายมีรอยร้าวต่อเนื่องจากด้านซ้ายไปถึงบริเวณกึ่งกลางกะโหลกศีรษะยาว 5-7 เซนติเมตร ( ซม.) พบมีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มไขสันหลังบริเวณต้นคอชัดเจน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต คือกะโหลกศีรษะส่วนหลังแตก ทำให้เลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่กดเนื้อสมอง ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยกดที่เกิดจากเลือดยุบลงไปทับเนื้อสมองความลึกประมาณ 0.5 ซม. เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งดูจากเนื้อสมองที่เหลืออยู่จากการผ่าศพครั้งแรก
"คณะแพทย์สรุปเบื้องต้นว่า สาเหตุที่ทำให้พลฯ อภินพ เสียชีวิต เกิดจากกะโหลกศีรษะแตกเป็นรอยยาว มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่ยังคงค้างอยู่และเลือดกดเนื้อสมองเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเป็นร่องรอยชัดเจนจากการผ่าตัดตรวจครั้งนี้"
เมื่อถามว่ากะโหลกแตกหมายถึงมีของแข็งมากระทบใช่หรือไม่ รศ.นพ.วิสูตรกล่าวว่า ต้องมีของแข็งมากระทบ หรือผู้ตายไปกระทบของแข็ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดในขณะนี้ ซึ่งกะโหลกบริเวณดังกล่าว เป็นการแตกร้าวเป็นรอยยาวแบบครั้งเดียว ซึ่งการกระทบที่ทำให้กะโหลกแตกได้นั้นถือว่าเป็นการกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร แต่ต้องดูในข้อเท็จจริงด้วยว่าตำแหน่งและสภาพของการถูกกระทบกระแทกเป็นอย่างไร ซึ่งแพทย์ตอบไม่ได้ อาจจะต้องอาศัยพนักงานสอบสวนไปดูในที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นอย่างไร
รอผลตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้ออีก7วัน
เมื่อถามว่าระยะเวลาที่ผู้ตายถูกกระทบที่กะโหลกรวมทั้งรอยแผล ตอบได้หรือไม่ว่าถูกกระทบอย่างไร รศ.นพ.วิสูตรกล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ อยู่ที่ทีมแพทย์จะต้องเอาชิ้นเนื้อแต่ละส่วนไปทำการตรวจอีกครั้ง ซึ่งจะรู้ว่าแผลแต่ละจุดเกิดเร็วหรือช้า เพราะถ้าเกิดเพียงสั้นๆ จะไม่เกิดอันตราย แต่ถ้าเกิดล่วงมานานแล้ว ก็อาจเกิดปฏิกิริยาแห่งชีวิตได้ที่จะแสดงให้เห็นได้ ซึ่งต้องรอผลจากการผ่าตัดชิ้นเนื้อภายใน 7 วันเป็นอย่างช้า ขณะที่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ชัยภูมิ เข้าร่วมรับฟังด้วยกล่าวว่า ผลชันสูตรฯเห็นได้ว่า บาดแผลผู้เสียชีวิต มีโอกาสทั้งจากการถูกทำร้ายและการหกล้ม ส่วนตัวเชื่อว่า หากหกล้มต้องล้มแรงมากซึ่งจะทำการประสานกับญาติจะพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งยืนยันว่าการทำหน้าที่นักการเมืองก็เพียงเพื่อช่วยให้ราษฎรคนหนึ่งที่มาร้องทุกข์สบายใจ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอกล่าวว่า ได้กำชับดีเอสไอ สืบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของพลทหาร อภินพอย่างเป็นกลางตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ต้องการเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร หากผลสืบสวนเป็นความสลับซับซ้อนมากก็เสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)รับเป็นคดีพิเศษก็ได้ หากไม่พบความสลับซับซ้อน ก็ยุติเรื่องได้
พท.ตั้ง3ปมสงสัยการตายทหาร
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เดิมทีพรรคเพื่อไทยและญาติของพลทหาร อภินพได้รับอนุญาตให้เข้าสังเกตการณ์การชันสูตรศพจากหัวหน้าภาควิชาแพทยศาสตร์ รพ.ศิริราช แต่ภายหลังมีคำสั่งจากคณบดี คณะแพทยศาสตร์ไม่อนุญาต ถือเป็นความผิดปกติอย่างมาก
"พรรคตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิตไว้ 3 ประเด็น คือ 1.ภายหลังเกิดเหตุมีการส่งพลทหาร อภินพไปรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี แต่ภายหลังเสียชีวิตกลับได้รับในมรณะบัตรจาก รพ.พระมงกุฎเกล้า 2.ข้อสงสัยจากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และแม่ทัพภาคที่ 1 ออกระบุว่า พลทหาร อภินพศีรษะฟาดพื้นและเสียชีวิต แต่เมื่อไปดูใบมรณะบัตรเขียนว่าคอหัก และเมื่อญาติไปตรวจศพกลับพบมีบาดแผลที่มือและร่างกาย และ 3.การจัดพิธีศพ ที่ทางกองทัพไม่ให้เกียรติจัดพิธีอย่างสมศักดิ์ศรี และเร่งจัดฌาปนกิจแบบลุกลี้ลุกลน จนครอบครัวต้องนำศพไปซ่อนไว้และนำมาฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากนี้จะพยายามต่อสู้ให้ญาติได้รับความกระจ่างจากสาเหตุการตายต่อไป" นายกฯรู้ผลชันสูตรยันไม่เกี่ยวรบ.
เวลา 19.25 น. ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับทราบผลการชันสูตรของ รพ.ศิริราชแล้ว โดยเข้าใจว่าตรงกับผลการชันสูตรของ รพ.รามาธิบดี ที่บอกว่าผู้เสียชีวิตได้รับแรงกระแทกและมีเลือดออก คงเป็นอาการของคนที่หมดสติไปและฟื้นมาช่วงหนึ่ง เสร็จแล้วเข้าใจว่ามีเลือดออกในสมองและทำให้เสียชีวิต สำหรับแรงกระแทกนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ คงมีการตรวจสอบต่อไป รวมทั้งเรื่องการส่งข้อความสั้นด้วย
"ไม่เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไปเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมตรงไหน และเกี่ยวได้อย่างไร เพราะเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำ 14 เมษายน โดยไม่ได้พักอยู่ที่นั่นแล้ว และเหตุการณ์ต่างๆ ก็ยุติแล้ว ดังนั้นจะมีเหตุผลอะไรที่จะเข้าไปเอาชีวิตของคนคนนี้"
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านพยายามโยงว่าการตายของพลทหารอภินพเพราะนายกฯไปพักที่บ้านพักรับรองนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "อ๋อ แล้วไงครับ ผมก็ยังมองไม่เห็นว่าเป็นความรุนแรงที่เกิดจากฝ่ายรัฐบาลได้อย่างไร" เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่าการกระทบด้วยของแข็งนั้นอาจจะเป็นเพราะถูกตี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รพ.ศิริราชไม่ได้สรุปอย่างนั้น แต่ตนก็ไม่รู้สึกกังวลว่าจะถูกนำไปขยายความ ถือเป็นเรื่องตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป
โฆษก"มาร์ค" ชี้พท.มุ่งดิสเครดิตรบ.
ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้พรรคเพื่อไทยว่า เรื่องนี้ญาติของพลทหาร อภินพไม่ติดใจ แต่กลับมีคนไปยุแหย่ ที่น่าสงสัยคือทำไม ส.ส.พรรคเพื่อไทยถึงเจ้ากี้เจ้าการสนใจมากกว่าญาติของพลทหาร อภินพถึงขนาดนำศพมาผ่าพิสูจน์ รวมถึงการเสนอตัวเข้าร่วมพิสูจน์ศพซึ่งถือว่าขัดระเบียบปฏิบัติของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ขอตั้งข้อสังเกตว่าการย้ายที่พิสูจน์ศพไปให้หน่วยงานอื่นเป็นการหวังประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ถือเป็นการสร้างเรื่องหวังดิสเครดิตรัฐบาล
นายเทพไทกล่าวอีกว่า พรรคได้รับข้อมูลมาว่ามีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงไปหว่านล้อมชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บจากถูกลูกหลงการปะทะระหว่างชาวบ้านนางเลิ้งกับคนเสื้อแดง ในวันที่ 13 เมษายน เข้าพักที่ รพ.รามาธิบดี ซึ่งมีความพยายามหว่านล้อมให้ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นการ์ดเสื้อแดงและถูกทหารยิง แต่ชายดังกล่าวปฏิเสธรับข้อเสนอของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีหลักฐานเป็นนามบัตรที่ให้ไว้ ในนามบัตรระบุชื่อ 3 หน่วยงานคือ สมาพันธ์ประชาธิปไตย มูลนิธิญาติวีรชนประชาธิปไตย และมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย
"พรรคพบว่าทั้ง 3 องค์กรมีตัวแทนอยู่บนเวทีของคนเสื้อแดง แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดง ที่พยายามหาเหตุให้เกิดผลเสียกับรัฐบาล และเชื่อว่าคงไม่จบแค่เรื่องศพของพลทหาร อภินพ แต่มีความพยายามอื่นอีกเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลต่อไป ขณะนี้ทราบแล้วว่าคนที่นำนามบัตรดังกล่าวมาให้เป็นใครและรัฐบาลก็มีข้อมูลในส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ได้รับบาดเจ็บ" นายเทพไทกล่าว
ผบ.ทบ.เชื่อการเมืองมุ่งบิดเบือน
ที่กองทัพบก เวลา 17.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การเสียชีวิตของพลทหารอภินพกองทัพยินดีที่จะให้มีการผ่าศพพิสูจน์เพราะข้อเท็จจริงคือข้อเท็จจริง กองทัพเข้าใจความรู้สึกของมารดาและญาติ หากจะพิสูจน์โรงพยาบาลไหนก็ยินดี ซึ่งมีความพยายามของนักการเมืองบางกลุ่ม ต้องการนำเรื่องเสียชีวิตของพลทหารมาผูกโยงการเมือง
"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. บอกว่า ทุกสิ่งสามารถพิสูจน์ได้ด้วยความคิดเห็นของแพทย์ สำหรับสิ่งที่สังคมตั้งข้อสงสัยกรณีที่นายกรัฐมนตรีเข้าไปปฏิบัติภารกิจแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและไปพักที่บ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 และมีพลทหารส่งข้อความสั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นใครก็รู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เป็นใครต้องทำอย่างนั้นเป็นปกติ แต่เป็นประเด็นที่นักการเมืองบางคนอาจพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง" โฆษกทบ.ระบุ