WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, April 29, 2009

รายงานพิเศษ: เสียงจากเตียงพยาบาล ชะตากรรม ของ ‘ด่านหน้า’ สามเหลี่ยมดินแดง

ที่มา ประชาไท

เสียงจากผู้ชุมนุม 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 เมษายน 2552 และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกจนถึงวันให้สัมภาษณ์คือวันที่ 27 เมษายน พวกเขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาประสบ และแรงผลักดันที่ทำให้เขาเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนยังไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานภาครัฐในเรื่องการจ่ายค่าชดเชยแต่อย่างใด แม้ทางโรงพยาบาลระบุจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ขณะเข้าสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้แสดงตัวเป็นสื่อมวลชนต่อพยาบาล ในภายหลังจึงถูกพยาบาลต่อว่าเนื่องจากพยาบาลระบุว่าต้องส่งรายงานให้กับ ผอ.โรงพยาบาลด้วยหากมีสื่อมวลชนเข้าสัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตพยาบาลให้การดูแลพวกเขาอย่างดี เป็นกันเอง และก่อนหน้านี้มีผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนบ้าง ทั้งนี้ รายชื่อและข้อมูลของพวกเขาก็ได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อครั้งไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 25 เมษายน

สนอง พานทอง

ช่างซ่อมรถ อายุ 34 ปี

ข้อมูลเฉพาะ: พื้นเพสนองเป็นคนบุรีรัมย์ แต่มาเป็นช่างซ่อมรถอยู่ที่ กทม. เป็นสิบปีแล้ว โดยเป็นลูกจ้างอยู่ที่อู่ของญาติแถวถนนวิภาวดีรังสิต ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ซึ่งเขาระบุว่าเป็นกระสุนขนาด 9 มม. เข้าที่ลูกสะบ้า (หัวเข่า) ด้านขวา เข้าทำการผ่าตัดแล้ว 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่อยู่โรงพยาบาล เนื่องจากบาดแผลติดเชื้อ เพราะการกระโดดลงไปหลบทหารในคูน้ำครำ

“พอทหารเริ่มสลาย ผมอยู่ตึกพีเอ็ม ไปหาเพื่อน ยังไม่ทันดับเครื่องรถ เพื่อนบอกสลายแล้ว ก็เลยพากันบึ่งมา มาถึงแก๊สน้ำตามันเริ่มจางแล้ว เห็นมีรถเมล์จอดขวาง ก็เดินมาเรื่อยผ่านรถเมล์ ปรากฏว่าทหารก็ยิงปืนขึ้นฟ้ารัวๆ พวกเราก็หมอบลงกับพื้น แล้วก็คลาน หมอบ คลาน หมอบ คลาน อย่างนี้ พอเงียบไปซักพัก เหมือนเขายิงหมดแม็กแล้วก็เปลี่ยนกระสุน เงียบไปซักพัก ก็ลุกขึ้นวิ่งใส่เขาเลย บางคนก็วิ่งไปหลบตามต้นไม้ไป วิ่งเข้าใส่เขาด้วยกำปั้นเปล่าๆ นี่แหละ พอชุดที่สองดัง ก็มีเพื่อนเราโดน ที่เห็นๆ คือเลนฝั่งขวาที่มีเกาะกลางกั้น มีร่วงหลายคน ทีนี้มันเลยกลายเป็นความโกรธ เอ๊ะ กูมามือเปล่านะ มึงยังยิงพวกกูอีกเหรอ ที่เราขว้างเราก็มีแค่หินกับไม้ คุณคิดดูว่าไม้ ระยะขว้าง 10 กว่าเมตร มันจะแรงได้แค่ไหน เขาก็มีโล่”

“ตอนที่ผมโดนยิงนี่ วิ่งไปวิ่งมา ไปอยู่ห่างไม่เกิน 20 เมตร คิดดูรถทัวร์คันนึงยาว 12 เมตรนะ ผมเข้าใกล้จนเห็นเลยว่าทหารตั้งอยู่ 3 แถว แถวแรกเป็นไอ้เณรถือโล่ แถวสองนี่ปืน แถวสามตามเก็บ มันจะมีรถยีเอ็มซีวิ่งตามตูดมาห่างๆ ที่ผมโดนยิงก็คือว่า ผมจะเข้าไปดึงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง คุณเห็นกระสุนที่เขายิงขึ้นฟ้าไหม เขาเรียก กระสุนสองวิถี ก็คือกระสุนจริงนั่นแหละ กระสุนนี้มันมีสารอะไรบางอย่าง พอยิงแล้วมันจะมีเป็นแสงด้วย ปกติมันจะยิงขึ้นฟ้า แต่ผมอยู่หลังต้นไม้ เห็นมันมีอยู่ 2 นัดที่วิ่งมาในแนวราบ แล้วเด็กหนุ่มที่เดินหน้าผม เขาถอดเสื้อแล้วก็ก้าวขาจากฟุตบาทลงไปบนถนน ผมก็เป็นห่วงเขาก็เลยจะดึงเขาเข้ามาหลบ พอก้าวไปเขาก็โป้งเข้าขาผมเลย”

“ผมก็ตะโกนว่า เฮ้ย ผมโดนยิง พวกเราก็รีบเข้ามาช่วย เอามอเตอร์ไซด์มา ผมบอก โอ๊ย ขึ้นไม่ได้หรอก ผมโดนยิงขา โดนยิงลูกสะบ้า ขยับขาไม่ได้ ก็พยายามเก็บไม้แถวนั้นจะเอามาดามกัน ระหว่างนั้นทหารก็กรูเข้ามาอีก ทุกคนก็หนีหมด เหลือไอ้รัก (ไม่ทราบสะกดอย่างไร-ประชาไท) อยู่คนหนึ่ง เพื่อนผม มันไม่ได้โดนยิงโดนอะไร มันทิ้งผมไม่ได้ พอกอดคอผมได้มันก็พาผมโดดลงน้ำครำ สัญชาตญาณเอาตัวรอด ทั้งๆ ที่รู้ว่าหนีลงน้ำก็ไม่รอดหรอก ทหารมาก็ยิงตามลงไปอีก 2 นัด แต่ไม่โดน แล้วเขาก็ลากผมขึ้นมา ผมบอก พี่ ผมโดนยิง เขาบอกเดี๋ยวกูเอาส่งโรงบาล เขาก็มาส่งจริงๆ โรงบาลนี้แหละ”

“พอมาถึงปุ๊บ พวกพลเปลเขาก็เตรียมจะเอาผมลง มันก็ออกรถเลย แล้วก็เอาผมไปขังไว้ที่ พล 1 ร.อ. จนถึงแปดโมงเช้า โดยไม่ได้ปฐมพยาบาลอะไรเลย แล้วมันก็ลากผมออกมาสอบ ลากนะ หิ้วปีกสองข้างลากมา ขาก็ถูกับพื้น เลือดก็ไหล แล้วก็วางผมกองไว้กับพื้น (เสียงเริ่มสั่น) เขาก็จะสอบ แต่พอดีเห็นสภาพผมไม่ค่อยไหวแล้ว ไม่มีสุนัขตัวไหนมันพูดอะไรเลย เผอิญทหารเสนารักษ์เขาผ่านมา เขาก็เลยปฐมพยาบาลให้ ห้ามเลือด เขาก็ถามว่าทำไมไม่เอาผมไปส่งโรงบาลก่อน เขาโดนหนักนะ นั่นแหละ มันถึงได้เลิ่กลั่กๆ กัน แล้วก็มีนายทหารคนหนึ่งเข้ามา ในชุดเครื่องแบบสนาม แกก็บอก เออ น้องใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่จะดูแลให้เต็มที่ แต่พี่ไม่มีอำนาจสั่งการอะไรนะ แล้วก็โทรหาระดับนาย นาน (เน้นเสียง) กว่ารถพยาบาลจะมารับผม รถพยาบาลก็ไม่ใช่ด้วย เป็นรถทหารนั่นแหละ แล้วก็เอามาส่ง ผมผ่าตัด 4 รอบแล้ว มันติดเชื้อ เพราะน้ำครำน่ะ....”

“ทำไมเราต้องขอพูดว่าสื่อไม่เป็นกลาง ก็สื่อไม่เป็นกลางจริงๆ แล้วผมก็ไม่เข้าใจแกนนำ คุณก็ไปที่ช่องสามเลยสิ เอาผมไปก็ได้ สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา เนี่ยอ่านข่าวที่นักข่าวเขาเสนอตามรัฐปาวๆ อะไรก็แดงผิดๆ นักข่าวเนชั่นมา ผมก็ตะเพิดไปแล้ว จะคุยทำแพะอะไร พวกเดียวกับสนธิ (ลิ้มทองกุล) ทั้งนั้น เด็กที่มาทำข่าวทำข่าวไปดี แต่พอไปถึงกอง บก.มันคนละเรื่องมาตลอด ผมก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ แกนนำเขาคิดยังไง ต่อสู้ยังไงแค่ชิงพื้นที่ทางสื่อก็ยังไม่ได้ ทั้งๆ ที่เรามีความจริงทั้งนั้น แต่เรากลับสู้เขาไม่ได้ ไม่เข้าใจ อย่างไทยรัฐ ก็ไปไล่จี้ดิ เอาผู้เสียหายเข้าไปเลย”

“หรือพวกที่เขียนเชียร์ประชาธิปัตย์อย่างนู้นอย่างนี้ แต่ถามว่าคนที่เขารักทักษิณเขาผิดหรือ นายกฯ ประเทศไทยมีมากี่คน มีเคยมีซักครั้งไหมที่ประชาชนเรียกร้องให้กลับมาแบบนี้ ฉะนั้น กรุณาเอาหัวแม่ตีนคิดหน่อยว่าเหตุมันเพราะอะไร แสดงว่าเขาก็ต้องมีส่วนดี และเพราะความไม่เป็นธรรมที่ผ่านมาใช่ไหม ก็ไม่รู้เหมือนกันพวกแกนนำคิดอะไร ไปเรื่อยๆ ไม่ on time, on target เลย ช่องสามเนี่ย (ชี้ไปที่โทรทัศน์ ที่กำลังเปิดรายการข่าวช่อง 3-ประชาไท) ผมมีทั้งลูกกระสุน มีใบรับรองแพทย์ ผมเอาแน่ แกนนำไม่เอา ผมเอาเอง”

“ยังไม่ได้เจอแกนนำใครเลย มีหมอเหวง (โตจิราการ) มา 3 นาทีก่อนผมผ่าตัด กับครูประทีป (อึ้งทรงธรรม) ก็มา พวกแกนนำ พวกเขาเป็นไอดอล มาให้กำลังใจซักหน่อยก็ดี หลายๆ ครั้งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย นี่พูดไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่มันไม่ค่อยมีหรอกที่แกนนำจะมาโดนยิงอย่างเรา เขาเป็นผู้นำทางความคิดก็เข้าใจ แต่ผมก็อยากเจอพวกวีระ (มุสิกพงศ์) ณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) จตุพร (พรหมพันธุ์) ถามว่าท้อมั้ย ก็นิดหนึ่ง แต่ยังไงก็ต้องสู้ต่อ”

“ถามว่าออกมาสู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ ตัวหรือใจล่ะ ถ้าใจก็ตั้งแต่บัง (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ออกมาปฏิวัติแล้ว แต่ตัวออกมาสู้ก็ตั้งแต่มีการยิงที่วิภาวดีซอย 3 ตั้งแต่นั้นมาก็สู้เต็มตัวมาตลอด อย่างน้อยได้คุยได้ระบายอะไรกับคุณบ้างมันก็ดีขึ้นนะ”

“ผมยังรอโอกาสเปิดว่าจะมีใครซักคนมาให้เราพูดความจริงว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง เห็นอะไรมาบ้าง ต่อหน้าต่อตาเรา คุณเชื่อไหมว่าผมฝันมา 2 คืนติด สตาร์ทที่เดียวกันและจบลงที่เดียวกันเด๊ะ เหมือนฉายซีดี ทุกคนยืนอยู่ยังไง ใครเดินยังไง ใครล้มยังไง ใครขว้างก้อนหินยังไง เหมือนกันเป๊ะสองคืนมาแล้ว”

“ถ้าผมทำอาชีพนักข่าว ผมจะเก็บภาพพวกนี้ ผมคงรุ่ง แต่บังเอิญผมไม่มีความรู้ตรงนี้ นักข่าวก็พอมีตอนนั้น แต่เขากลัว เข้าไม่ถึงด้านหน้าหรอก”

“ถามว่าผมมาสู้เพื่ออะไร ก็กฎหมายมันสองมาตรฐาน ปากก็พูดปาวๆๆ ไม่สองมาตรฐาน ไม่สองได้ยังไง ก็ยิงซอย 3 เห็นอยู่โต้งๆ จับก็ไม่จับ ตำรวจก็อยู่ ทะเบียนเจ้าของก็มีให้ ยังไม่จับเลย แต่มาแหกปากบอกว่ามาตรฐานเดียวกัน บ้ารึเปล่า วันๆ นึงจบอ๊อกฟอร์ดมา ไม่ทำไร นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อคิดคำพูดสวยๆ ผมถามว่าอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) มานั่งกับผม แล้วพูดกันภาษาบ้านๆ กับผม ให้ผมถามเลย ผมอยากรู้มันจะมีปัญญาตอบไหม อ๊อกฟอร์ด อ๊อกเหล็กอะไรน่ะ คุณให้สัมภาษณ์ว่ากระสุนกระดาษ กระดาษพ่อกระดาษแม่มึงเหรอเล่นเสียสะบ้ากูทะลุเลย ผมพูดแล้วอารมณ์มันขึ้นทุกที”

“คุณคิดว่ายังไงคุณก็ถูก เอะอะอะไรก็ไม่ได้รับรายงาน แสดงว่าคุณเป็นนายกฯ ที่ไม่ได้ลงพื้นที่เลยนี่หว่า อย่างนี้ลูกน้องสอพลอหน่อย บอกไม่มีอะไร ก็ไม่มีหมด พูดมาได้ว่าเช็คจากโรงพยาบาลทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้วไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน เอาสมองส่วนไหนให้สัมภาษณ์ คนอย่างนี้เหรอจะเป็นผู้บริหารประเทศ”

“บอกคนเสื้อแดงสู้เพื่อทักษิณคนเดียว สำหรับผม ถ้าผมบอกว่า ใช่ล่ะ นายกฯ ผ่านมากี่สิบคน มันมีคนที่ยิงตรงเป้าไหม ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมากี่สมัย เป็นนายกฯ เยอะกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป เคยมีความคิดแบบนี้บ้างไหมล่ะ ที่มันเป็นอย่างนี้เพราะมันอิจฉา เขาดีแต่ปั้นคำพูดสวยหรูทุกอย่าง ถนัดแต่เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เหตุผลเรื่องการขายหุ้นก็อธิบายหมดแล้ว ก็ยัง 'ขายชาติๆ' พอ 'ขายชาติ' ไม่ได้แล้วก็ 'ไม่จงรักภักดี' พูดได้แค่นี้”

“ผมบอกให้ ถ้าผมเกิดและโตในสมัยทักษิณอยู่ สมองระดับผม รับรองไปได้ไกลกว่าเป็นช่างซ่อมรถ เพราะผมเรียนเก่งแต่เด็ก แต่บ้านจนมาก ถ้ามีเงิน มีโอกาส มันไปได้ไกลกว่านี้ สมัยทักษิณผมก็เห็นว่าอนาคตลูกหลานสดใสมากขึ้น อาจจะได้ไปหนึ่งอำเภอหนึ่งนักเรียนนอกบ้างก็ได้ ฝันไว้ แต่ตอนนี้มันสลายทุกอย่าง คุณไม่ต้องการให้คนจนโงหัวได้ คุณไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของคนจนชาวรากหญ้าหรอก ที่เขารักทักษิณเพราะมันมีเหตุให้รักให้ชอบ เพราะมันเข้าใจคนจน อภิสิทธิ์มาบริหาร คิดได้ยังไง ผู้ประกันตนเงินเดือนไม่เกิน 15,000 รัฐบาลให้ 2,000 แล้วยายมีขายไก่ ตาใสขายแกง แล้วผมซ่อมรถเนี่ย จะมีสิทธิได้กับเขาไหม แค่นี้คุณยังไม่มีสมอง ไม่เอารากหญ้าเลย คุณจะไปให้ทำเ_ย อะไรเงินเดือนตั้ง 15,000 ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับรัฐบาลชุดนี้”

“ผมโกรธ โกรธมาตั้งแต่มันปฏิวัติ ตอนนั้นเศรษฐกิจก็ยังดีๆ ไม่ได้แย่นะ กำลังจะเป็นผู้ให้กู้แล้ว คุณลองถามพวกแม่บ้าน มอเตอร์ไซด์ พวกแท็กซี่ พวกอะไรต่อมิอะไร เขารักเขาชอบทักษิณเพราะอะไร ผมเป็นคนที่โกรธแล้วช้างจะตัวเท่ามดเลย แต่ผมไม่ได้จะโกรธอะไรง่ายๆ ปกติจะเฮฮา แต่มันหลายเรื่องหลายราวเหลือเกินที่ผ่านมา”

ศุภสิทธิ์ คนโทสิมพลี

ช่างเหล็กไซท์งานก่อสร้าง อายุ 46 ปี

ข้อมูลเฉพาะ: พื้นเพเป็นคนปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เป็นช่างเหล็กในไซท์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง เริ่มติดตามการเมืองมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร และร่วมชุมนุมตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยไม่ได้เห็นหัวกระสุน แพทย์ระบุว่าเป็นลูกซองสั้น ปัจจุบันแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ยังติดต่อญาติมาเซ็นรับรองไม่ได้

“ผมก็มาชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ที่มาชุมนุมสามเหลี่ยมดินแดงเพื่อกดดันรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิก 50 แล้วเอา 40 มาใช้ เพราะปัจจุบันมันยังไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ผมก็เลยเข้ามาชุมนุม”

“มาชุมนุมตั้งแต่เดือนมกรามาแล้ว ผมทำงานที่กรุงเทพฯ แกนนำเขาจะประกาศว่าจะชุมนุมที่ไหนบ้าง ผมติดตามตลอด และไปตลอด ที่เขาออกไปต่างจังหวัดผมไม่ได้ติดตาม เพราะต้องทำงานในกรุงเทพฯ พอเขานัดชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 26 มีนา ผมก็เลยเข้ามาที่สนามหลวงครั้งหนึ่ง แล้วก็ยกขบวนกันเข้าไปที่รอบทำเนียบฯ ผมมาคนเดียว ไซท์งานนั้นชวนเพื่อนก็ไม่มีใครมา ผมทำงานก่อสร้าง เป็นช่างเหล็ก ผมมาทุกวัน เลิกงานก็มา วันนั้นก็กลัวเขามาสลาย และกลัวมือที่สองที่สามเข้ามาทำร้าย แต่ผมก็ยังทำงานอยู่ เพราะถ้าผมไม่ทำก็จะไม่มีรายได้อะไร ที่ผมไปไม่ได้มีค่าจ้างอะไรเลย ค่ารถเมล์ก็ต้องออกเอง เสื้อแดงไม่มีการจ้างใครทั้งนั้น ใครมีอุดมการณ์ที่จะกอบกู้ประชาธิปไตยก็เข้าร่วมได้หมด”

“ที่สามเหลี่ยมดินแดง ก็คือ แกนนำเขาประกาศรับอาสาสมัคร คืนนั้นจำนวน 50 คนเอง ผมก็มา แต่ปรากฏคนมากันร้อยสองร้อยคน ตอนนั้นผมรู้ว่าทหารจะต้องมาสลายจุดนี้แน่นอน ผมตั้งเป้าหมายในความคิดของผมเองว่าเขาจะโจมตีจุดไหนๆ เพราะที่วิภาวดีมีทหาร ถ้าเขาไม่เข้าเส้นพหลโยธิน ก็จะเข้าทางสามเหลี่ยมดินแดงเข้าไปถนนศรีอยุธยา จุดนี้ ผมก็เลยมาเฝ้าสังเกตการณ์ ก็ไม่ได้หลับเลย อ่อนเพลียมาก ไม่ได้นอนตั้งหลายคืน ผมก็เอนกายตรงสนามหญ้าสามเหลี่ยมดินแดง แต่หูผมฟัง คอยฟังรถถัง รถถังจะมาแบบไหนผมรู้ ถนนนี่เสียงจะดังเหมือนฟ้าผ่า ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม มาเลยแหละถ้าเป็นรถถัง ผมก็หูแนบดินไว้ แต่ก็ไม่มีวี่แวว”

“จนถึงตีสี่ แกนนำก็ประกาศว่าขณะนี้เวลาศูนย์สี่นาฬิกา ผมก็ยังได้ยินอยู่นะ ทีนี้ซักครู่นึง ก็มีม้าเร็วที่เป็นมอเตอร์ไซด์เสื้อแดง เขามาแจ้งว่าทหารเข้ามาแล้ว พวกผมก็เลยพากันลุก ตั้งหน้ากระดาน เพื่อจะไปป้องกันทหาร ไม่ให้มาสลายกลุ่มเสื้อแดงที่สามเหลี่ยม พวกผมก็ตั้งหน้ากระดาน มีคนวิ่งเข้าไป ใกล้จะถึงแล้ว ทหารเขายิงปืนไล่พวกผมเลย ขึ้นฟ้าหรือลงดินก็ไม่รู้แหละ แต่มันเข้าใกล้กันมาก แล้วเขาก็เขวี้ยงแก๊สน้ำตาเข้ากลุ่มเสื้อแดง เป็นคล้ายๆ ถังดับเพลิงอันเล็กๆ สีขาวๆ อะลูมิเนียม เต็มถนนไปหมดเลยทีนี้ ผมก็โดน แสบตาเหมือนกัน ดีที่ผมพกน้ำมา แต่บังเอิญบุญ เทพยดาฟ้าสางอะไรไม่รู้ ลมพัดกลับไปทางกลุ่มทหาร ทหารต้องร่นถอยกำลัง”

“พวกผมก็เคลียร์อยู่ในสนาม ตอนนั้นยังไม่เห็นคนเจ็บ เห็นแต่คนกุมหน้า ถอยกันหมดแล้ว แต่ผมไม่ถอย พอผมล้างหน้าแล้วก็สู้ต่อ ยังมีคนสู้ต่อ ก็ตั้งหน้ากระดานสู้ทหารอีก ไม้คนละท่อนเข้าสู้ทหาร ตอนนั้นคิดว่ายังไงเขาต้องเอาเราแน่ เพราะเสียงปืนลั่นแล้ว ถ้าเขาไม่ยิงปืนวันนั้น ก็คงจะพอเจรจากันได้ ด่านทหารกับด่านพวกผม ผมจะอธิบายว่าเรามาชุมนุมเพื่อกดดันเรียกร้องประชาธิปไตยกับรัฐบาล ไม่ได้มีทิฐิอะไรที่จะมาทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับทหารเลย ทหารถือปืนมาแบบนี้ มาถึงเหมือนเตรียมการมาฆ่าประชาชน ตอนนั้นผมบันดาลโทสะแล้ว ถือไม้วิ่งเข้าสู้ทหารเลย ยิงแก๊สน้ำตาก็ยิงแล้ว ยิงก็ยิงแล้ว เราดาหน้าเข้าไปใหม่ มีประมาณ 6-7 คน”

“ที่มากันเป็นร้อยอยู่ด้านหลังหมดแล้ว โดนแก๊สน้ำตา ฟูมฟายกันแล้ว แต่พวกผมไม่สนแล้ว ยังไงเขาก็ต้องฆ่าเรา ตายก็ตาย ต้องสู้ ตอนนั้นทหารก็ยังไม่หยุดยิง ยังยิงอยู่อย่างนั้น ยิงไม่หยุดไม่หย่อน วิ่งเข้าสู้ แต่ตอนหลังผมคิดว่าคงสู้ไม่ไหวแล้ว กำลังคนผมน้อย ผมเริ่มใจอ่อน แล้วจะวิ่งหนีทหาร วิ่งเข้าไปหลบในปั๊มน้ำมันเชลล์ ห่างทหารไม่เท่าไหร่ แล้วเขาก็ยิงตามผมมา ผมก็ล้ม ไปไม่ไหว ก็นำพาชีวิตผมกระเสือกกระสนเข้าไปในปั๊มน้ำมัน ไปหลบที่ต้นดอกไม้ต้นหนึ่ง กระเสือกกระสนด้วยขาเดียว มือกุมขาอีกข้างหนึ่ง กระดูกผมแตก โดนยิงตรงหน้าแข้งขวา กระดูกแตกร้าวมาด้านบน ผมก็ไปซุกอยู่ตรงต้นไม้ ทหารก็รุดหน้าไป หางแถวก็ผ่านมา ตรงหางแถวก็จะมีแพทย์ทหารแล้วก็มีหน่วยคุมด้านหลังอีก เขาเห็นก็เข้ามาทำร้ายผม ตีผม เข้าไปตีจนผมคิดว่าจะตายคาที่อยู่ตรงนั้น แต่ซักพักหนึ่งยังฟื้นสติขึ้นมาได้ ตีปุงปังเลย ใช้กระบอง ตีผมเสร็จก็ลากผมออกมาถนนใหญ่ ถอดรองเท้า เอกสารที่ผมคาดเอวอยู่เอาของผมไปหมด กางเกงก็ตัดของผมทิ้ง ทีนี้ก็จับขึ้นเปลทหารยกขึ้นรถ แต่ก็ยังดี เขายังมีจิตใจไม่พาผมหนีไปลพบุรี แต่พามาโรงพยาบาลนี่”

“ก็มาเจรจากับผอ.อยู่พักหนึ่ง ผอ.ก็รับ ยังไงเขาก็คงจะช่วยชีวิตผม รออยู่ชั่วโมงสองชั่วโมงก็ได้ผ่าตัด เสร็จก็เอาผมพักฟื้นจากยาสลบ ผมก็ยังมึนๆ งงๆ มาอยู่บนตึกเกือบเจ็ดโมงแล้วมั้ง สว่างโล่แล้ว เสียงปืนยังไม่หยุดเลย ผมไม่รู้เลย แต่ประเมินว่าคนตายเยอะแน่ ก็เสียงปืนยิงไม่หยุดตั้งสองสามชั่วโมงขนาดนั้น”

“ของผมผ่าตัดแล้วก็เอ็กซเรย์พบกระดูกหักแล้วก็แตกร้าวขึ้นมาด้านบนเป็นเสี่ยง ท่าน ผอ.ก็มาบอกตอนพักฟื้นว่า ไม่เป็นไร โรงพยาบาลจะรักษาจนหาย ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ผมก็ชื่นใจ แพทย์ผ่าออกมาชันสูตร แล้วมาบอกว่ากระสุนลูกซองสั้น ผมก็ไปโต้กับนายแพทย์อีกครั้งหนึ่งว่า ทหารจะพกปืนลูกซองสั้นเหมือนเอกชนนี่เป็นไปไม่ได้ ทหารต้องติดอาวุธสงครามเท่านั้น ผมไม่เห็นหัวกระสุน ผอ.ท่านเก็บไว้เลย ไม่ให้ผมดูเลย แต่มาบอกว่าเป็นลูกซองสั้น ผมคิดว่าไม่เป็นอาก้า ก็เอ็ม 16 หรือไม่ก็ 9 มม. ของทหารสัญญาบัตรที่จะพกได้ พวกสัญญาบัตรนี่เขาจะมีกุญแจ วิทยุ ปืนสั้น ปืนยาว”

“ตอนผมมานี่เขาเอาใส่รถมาคนเดียวโดดๆ เลย ตอนนั้นไม่กลัวแล้ว ตายเป็นตายแล้วจิตใจผม ผมโส (ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่มีพะวง สู้ตาย) ตั้งแต่ตอนเอากระบองมาตีผม ตอนนั้นทำใจแล้ว มันมืดไปเลย แต่มันยังไงไม่รู้ มันยังโงกเงกๆ ขึ้นมาได้ ทหารแพทย์ที่มีกากบาทสีแดงด้านซ้ายเอาผมมาส่ง ผมมารอคิวเข้าห้องผ่าตัด เพราะทหารก็โดนเหมือนกัน เขาเอาทหารเข้าก่อน ผมก็ไม่ทราบว่าเขาโดนอะไร กลุ่มฝ่ายขวาก็บุกสู้กับทหารด้วยไม้เหมือนกัน กลุ่มนี้มี 20 กว่าคน”

“อ้อ ตอนอยู่ในปั๊มก็มีเพื่อนเสื้อแดงยืนหลบกระสุนอยู่เหมือนกัน ยืนกันโหงกเหงกๆ อยู่ ผมก็มองเห็นสองคน เลยกวักมือเรียกให้มาช่วย เขาก็อุ้มผมขึ้นจริงๆ สองมือผมก็กอดขาผมไว้ แล้วทหารก็กรูมา ตีผมด้วย ตีคนอุ้มด้วย บอกให้วาง แล้วเพื่อนผมยังร้องว่า ผมจะเอาเพื่อนผมเข้าโรงบาล “วางเดี๋ยวนี้เลย” ทหารก็ขู่ เขาก็วางผมลง แล้วก็ตีผมอีก สุดท้ายก็มารักษาตัวที่นี่ ตอนตกฟากเข้า 13 แล้ว”

“วันนี้วันที่ 27 แพทย์ให้อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่วันที่ 24 ทีนี้ต้องรอญาติมาเซ็นออกแล้วก็ไปเข้าเฝือกที่บ้าน ต้องรักษาเป็นปีหมอบอก แต่ญาติไม่รู้เรื่องรู้ราว พ่อแม่แก่ๆ อยู่ที่บ้าน ญาติในกรุงเทพฯ ก็มีหลานที่เขาได้รู้ข่าวจากโทรทัศน์ก็มาเยี่ยมวันก่อน แต่ผมไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ ปากกาก็ไม่มี สมุดก็ไม่มี กำลังเจ็บ และคิดว่าจะได้ออกจากโรงบาลเอง ก็เลยติดต่อกันไม่ได้ แต่เขาคงพยายามรายงานพ่อแม่พี่น้องผมที่บ้านนอก แต่ผมติดต่อไม่ได้เพราะว่าไม่มีเบอร์ใครไว้”

ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 29 เมษายน 2552

ที่มา ประชาไท

การเมือง

ให้ประกัน14เสื้อแดงล่มประชุมอาเซียน

(28เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี แกนนำนปช.ทยอยเดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 หลังศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับคดีมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กรณีบุกเข้าล้มการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ทพัทยา

โดยกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 200 คน นำรถเครื่องขยายเสียงและดอกไม้มาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง และมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยกว่า 100 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจแล้วมีนายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

สำหรับรายชื่อผู้เข้ามอบตัวเบื้องต้นประกอบด้วย 1.นายนิสิต สินธุไพร 2.นายสำเริง ประจำเรือ อายุ 44 ปี 3.นายนพพร นามเชียงใต้ 4.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ 5.นายสมญศฆ์ พรมมา 6.นายสิงทอง บัวชุม 7.นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี อายุ 42 ปี 8.นายวรชัย เหมะ อายุ 55 ปี 9.พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ อายุ 66 ปี 10.นายพายัพ ปั้นเกตุ 11.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ 12.นายธรชัย ศักมังกร 13.นายศักดา นพสิทธิ์ 14.นายวัลลภ ยังตรง ส่วนนายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง กับ นางศิริวรรณ์ นิมิตรศิลปะ ยังไม่ได้มาเข้ามอบตัว

ด้านตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆให้ทางสาธารณอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อการจราจร และกระทำการให้ปรากฏต่อประชาชนอันด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือ ติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

ร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุม ร่วมกันบุกรุกโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันเดินแถวหรือเป็นขบวนแห่ หรือเป็นขบวนใดๆในลักษณะที่เป็นการขีดขวางการจราจร ร่วมกันวางตั้ง ยืน หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประ การใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร

หลังจากนั้นโดยนายนที สุทินเผือก หรือ กรุง ศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 และนายสมคิด บาลไธสง สส.อุดรธานี ได้ใช้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกันตัวแกนนำที่เข้ามอบตัว 2 คน ส่วนที่เหลือใช้เงินสดคนละ 5 แสนบาท ประกันตัวออกไป

ที่มา: http://www.komchadluek.net

ครม.เห็นชอบร่างพรฎ.ปิดสมัยประชุม

วอร์รูมปชป.เชื่อ ทักษิณใช้ยาแรงไม่ได้ผลจึงกลับลำ จวก ลิ่วล้อทำเป็นกระบวนการ จี้ต้องเปิดเผยตรงไป-ตรงมา อย่าบิดเบือนเพื่อประเด็นการเมือง ขอฟังจตุพร"ก่อนให้อกสิทธิ์คุ้มครอง พร้อมเคาะแล้ว8อรหันต์กก.ปรองดองและแก้ไขรธน. เพื่อไทยมีมติเสนอตั้งกมธ.วิสามัญสอบสลายเสื้อแดง ปลัดกห.ระบุเสื้อแดงตกยุคใช้รูปแบบคพท.เคลื่อนไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 28 เม.ย. ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ. 2552 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 10,600,000 บาท โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2552

วอร์รูมปชป.เชื่อทักษิณใช้ยาแรงไม่ได้ผลจึงกลับลำ

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่ารัฐบาลโยนความผิดว่าสนับสนุนการใช้ความรุนแรงและแนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยสันติวิธี และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนใช้ความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ตนคิดว่าเรื่องนี้สอดรับกับความพยายามของหลายฝ่ายในการที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงสันติภาพ หลังการก่อเหตุจลาจลและใช้ความรุนแรง ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผ็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่งจะยุติลงไปนั้น

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการพูดหลังจากการใช้วิธีการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ และคนเสื้อแดงที่เข้าร่วมการชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มีการเตรียมการโดยตัวการที่จะใช้วิธีการสร้างความหวาดกลัวและความรุนแรง เพื่อล้มอำนาจรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง การกลับคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อว่าสังคมจะยังคงมีวิจารณญาณและข้อเท็จจริงของบทบาทพ.ต.ท.ทักษิณก็พูดชัดเจนในคืนวันที่ 10 เมษายน เวลา 21.00 น. หลังจากที่การชุมนุมได้เคลื่อนตัวไปสู่การปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและการจราจรในหลายจุดทั่วกทม. ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็รับทราบว่ามีแนวโน้มการก่อการจลาจลในหลายจุด พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดชัดเจนว่า เราต้องไม่ยอมแพ้ เพราะผมแพ้ไม่ได้ ถ้าผมแพ้ประชาชนก็แพ้ ผมเป็นคนนำการต่อสู้ ผมมาจากประชาชนมีเสียงมากมาย ถ้าผมยอมวันนี้ แสดงว่าประชาชนไม่มีทางสู้อีกแล้ว

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนส่วนรวมในประเทศอยากเห็นมากกว่าได้ยิน ในวันนี้คือพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณที่มาจากการตัดสินใจ ที่จะยุติการกระทำที่กระทบต่อภาพลักษณ์ที่ต่างชาติ และนานาชาติในโลกมีต่อสถาบันต่างๆ ในประเทศไทย และมีส่วนในการหนุนให้เกิดความไม่สงบในประเทศ เพราะแนวทางของพรรคและรัฐบาลปัจจุบัน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกกระบวนการ ที่จะสร้างความสมานฉันท์และความสงบเรียบร้อย แต่มีเงื่อนไขว่ากระบวนการนั้นจะไม่สามารถดำเนินการในส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณผลักดัน 3 อย่างคือ 1.ยกความผิดอาญา 2.มีส่วนร่วมกับกระบวนการที่ล้มล้างหรือลดความน่าเชื่อถือสถาบันหลักของประเทศ 3.กระบวนการที่ใช้วิธีการของการสร้างความรุนแรงทุกรูปแบบ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงคำกล่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ว่าจะใช้กองกำลังติดอาวุธหรือแนวทางของผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองของบุคคลบางคนที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องการสูญเสียจากเหตุการณ์ชุมนุม ทั้งการสร้างหลักฐานเท็จหรือเคลื่อนไหวที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองจากความสูญเสียของประชาชน เช่น กรณีพลทหารอภินพ เครือสุข ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา มีความพยายามเข้าแทรกแซงกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและไม่ได้ทำโดยลำพัง มีการสร้างกระแสข่าวโดยต่อเนื่อง

พรรคมองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองมากกว่าเจตนาจริงในการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะในอดีตกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวในขณะนี้ ไม่เคยออกมารักษาความถูกต้อง ต่อกรณีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกรณีนายสมชาย นีละไพจิตร หรือชิปปิ้งหมู น้องโบว์และฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ เพราะฉะนั้น ณ วันนี้ตนก็คิดว่าสิ่งที่สำคัญคือ ข้อมูลที่แท้จริงสมควรที่จะได้รับการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรบิดเบือนเพื่อวัตถุประสงค์การเมือง

ปชป.ขอฟังจตุพร"ก่อนให้อกสิทธิ์คุ้มครอง

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคได้หารือถึงญัตติที่จะนำเข้าสู่การประชุมสภา ในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ คือ การพิจารณาขออนุญาตจากสภาในการดำเนินคดีกับนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยพรรคประชาธิปัตย์จะค่อยดูท่าทีของนายจตุพรไปก่อน

ปชป.เคาะแล้ว8อรหันต์กก.ปรองดองและแก้ไขรธน.

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ตัวบุคคลจำนวน 8 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นผู้คัดเลือกจากผู้เสนอตัว ประกอบไปด้วย นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 8 นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.กทม.นายนิพนธ์ วิศิษฎ์ยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 7 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช นางผุสดี ตามไท ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก

ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิอีกสองคน ที่ประชุมได้หารือเพื่อให้กรอบเพียงสถาบันต่างๆ เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็น นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ทั้งนี้เนื่องจากต้องนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งประสานไปยังพรรคฝ่ายค้านด้วย เพื่อไม่ให้ตัวบุคคลซ้ำซ้อนกัน คาดว่ารายชื่อทั้งหมดจะส่งถึงมือนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ภายในวันที่ 29 เมษายน

ส่วนนพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคเห็นด้วย กับการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เพื่อความปรองดองและสมานฉันท์และแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวต้องคำนึงถึง 2 หลักการ คือ การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างหลากหลาย โดยมีความเป็นอิสระและเป็นกลาง และต้องมีอำนาจหน้าที่ในการแก้ปัญหาเชิงระบบ ไม่ได้ดูถึงปัญหาตัวบุคคล เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ ซึ่งภาระกิจดังกล่าวจะต้องมีการดำเนินการใน 4 เรื่องคือ

1.การเสริมสร้างและการรักษาความสงบในการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ 2.รับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน 3.พิจารณาระบบกฎหมายทั้งหมด โดยต้องเชื่อมโยงถึงความถูกต้องคงความเป็นนิติรัฐ รักษานิติธรรม และ 4.พิจารณาสาระการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในระหว่างการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ สภาจะต้องชะลอการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเพื่อให้คณะกรรมการได้ศึกษาภาพใหญ่ของสังคมได้

ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ติดใจขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าว แต่ติดใจเรื่องขององค์ประกอบของคณะกรรมการที่ประกอบด้วย ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 30 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคการเมือง แต่มีภาคประชาชนน้อยมาก รวมถึงภาคของผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากภาคการเมือง จึงอาจไม่มีความเป็นอิสระจากการเมือง ทั้งนี้ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีตัวแทนจากภาคประชาชนเพิ่มขึ้น

เพื่อไทยมีมติเสนอตั้งกมธ.วิสามัญสอบสลายเสื้อแดง

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอสภาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการสลายการชุมนุมของรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 เม.ย. และมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อยื่นตรวจสอบการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 เม.ย. โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นประธานคณะทำงานเพื่อดำเนินการ เพื่อยื่นเรื่องต่อองค์การสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ปลัดกห.ระบุเสื้อแดงตกยุคใช้รูปแบบคพท.เคลื่อนไหว

พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีแนวคิดจะใช้ความเคลื่อนไหวแบบคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศ (คพท.) ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าคงทำไม่ได้ เพราะบ้านเมืองเปลี่ยนยุค เปลี่ยนสมัยแล้ว อีกทั้งเชื่อว่าแนวคิดดังกล่าวคนส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมรับ และยอมรับไม่ได้ บ้านเมืองเราเดินมาไกลแล้ว ใครที่มีแนวคิดดังกล่าว ก็คงเป็นคนที่ตกยุค

ที่มา: http://www.komchadluek.net

เศรษฐกิจ

ครม.อนุมัติงบชดเชยใช้น้ำฟรี เกือบ 3 พันล้าน

ครม.อนุมัติงบฯ เกือบ 3,000 ล้านบาท ชดเชยมาตรการใช้น้ำฟรี บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ พร้อมกันนี้ ยังอนุมัติเพิ่มเติมครอบคลุมกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

นายศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (28 เม.ย.) อนุมัติงบประมาณ เพื่อเป็นค่าชดเชยค่าใช้น้ำประปาที่อยู่อาศัย ของระบบประปาเทศบาล และระบบประปาขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน วงเงินรวม 2,985.7 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แบ่งเป็นเงินชดเชยค่าน้ำประปาที่อยู่อาศัย ของระบบประปาเทศบาล 540 ล้านบาท และเงินชดเชยค่าน้ำประปาที่อยู่อาศัย ของระบบประปาองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 2,445.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รายงานให้ ครม.ทราบว่า กระทรวงได้สำรวจข้อมูลระบบประปาหมู่บ้าน ที่อยู่ในความดูแลของเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล และระบบประปา ที่องค์การบริหารส่วนตำบลดำเนินการ ในลักษณะการพาณิชย์ พบว่า มีระบบประปารวมทั้งสิ้น 29,967 แห่ง มีผู้ใช้น้ำที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือ 4,605,027 ราย คิดเป็นเงินค่าน้ำรวมประมาณ 254.691 ล้านบาทต่อเดือน

นายศุภรักษ์ กล่าวต่อว่า ครม.ได้อนุมัติเพิ่มเติมให้มาตรการดังกล่าว ครอบคลุมกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่เช่าอาศัยในอาคารชุดหรือห้องเช่าในเขตบริหาร ของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2552 ครม.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ความช่วยเหลือ โดยรัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่ายการใช้น้ำ สำหรับประเภทอยู่อาศัย และผู้เช่าที่อยู่อาศัยที่มีปริมาณการใช้น้ำระหว่าง 0-30 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในเขตการใช้น้ำ ของระบบประปาเทศบาล และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการช่วยเหลือ และไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องนำเงินรายได้อุดหนุนจากรัฐบาล ไปจัดบริหารสาธารณะด้านต่างๆ กระทรวงมหาดไทยจึงขอให้ ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวนดังกล่าวด้วย

ที่มา: http://www.thairath.co.th

เอสเอ็มอีดิ่งสุดรอบ5ปี คลังค้ำเงินกู้หมุนจ่ายภาษี3หมื่นล.

สสว.คาดจีดีพีเอสเอ็มอีปี 52 ตกแน่ 2% รายได้กำไรร่วงไม่หยุด แนวโน้มเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ย ผลการดำเนินงานรูดต่ำสุดในรอบ 5 ปี จับตากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ ยานยนต์ ด้าน ครม.ให้ บสย.ค้ำเงินกู้ 100% หมุนจ่ายภาษี 3 หมื่นล้าน เงื่อนไขมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน

นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. พบผลกระทบจากความกังวลและความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่ไตรมาส 4/51 ถึงปัจจุบัน อาจส่งผลต่อการดำเนินงานในปีนี้ โดยอัตราการขยายตัว (จีดีพี) ของเอสเอ็มอีปี 52 จะปรับลดลง 2% หรือมีมูลค่าเพียง 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจำนวนผู้ประกอบการอยู่ที่ 2.4 ล้านราย ลดลง 0.06% และจำนวนแรงงาน 8.91 ล้านราย ลดลง 2.74% ส่วนการส่งออกจะมีมูลค่าเพียง1.58 ล้านล้านบาท ลดลง 6.41% รายได้สุทธิลดลงจาก 5.92 ล้านล้านบาท เหลือ 5.78 ล้านล้านบาท หรือ 2.33% กำไรสุทธิลดลงจาก 0.251 ล้านล้านบาท เหลือ 0.229 ล้านล้านบาท หรือ 8.51%

"การปรับลดลงของรายได้และกำไรสุทธิ ตลอดจนผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ได้ส่งผลต่อดัชนีผลตอบแทนจากการดำเนินงาน ผลิตภาพแรงงานและความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและจะต่ำสุดในรอบ 5 ปี" นายภักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานอาจลดลงจาก 4.24% เหลือ 3.98% ด้านผลิตภาพแรงงาน (มูลค่าเพิ่มต่อจำนวนแรงงาน) ลดลง 4.71% หรือจากผลิตภาพแรงงานที่ทำได้ประมาณ 77,200 บาทต่อคนต่อปีในปี 51 ลดลงเหลือ 73,500 บาทต่อคนต่อปีในปี 52 ส่วนความสามารถในการชำระหนี้ลดลงจาก 2.74% เหลือเพียง 2.59%

นอกจากนี้ สสว.ยังร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาประจำภูมิภาคสำรวจผู้ประกอบการ 4,200ตัวอย่างทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการยังมีความกังวลด้านเศรษฐกิจสูงถึง 98.66% ปัญหาการเมือง 97.21% การบริโภคภายในประเทศที่ลดลง 96.23% แม้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเริ่มดำเนินการ แต่ต้องใช้เวลาแก้ไขต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ปีกว่าจะฟื้น

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หนังและผลิตภัณฑ์หนัง ผลิตภัณฑ์พลาสติก แก้วและเซรามิก เฟอร์นิเจอร์ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์ยางเหล็ก โลหะ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และบริการเสริมสุขภาพ สปา

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการสินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลของเอสเอ็มอี เพื่อเสริมสภาพคล่อง เพราะใกล้ถึงฤดูชำระภาษีนิติบุคคล ซึ่งต้องยื่นแบบเสียภาษีในเดือน พ.ค.นี้ โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน 100% แก่เอสเอ็มอีที่ขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ วงเงินค้ำประกันรวม 1 หมื่นล้านบาท เงื่อนไขการกู้เงิน คือระยะเวลาการให้สินเชื่อ 1 ปี ปลอดหนี้ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี จ่ายชำระรายเดือน แต่ไม่กำหนดวงเงินค้ำประกันต่อราย และผู้มาขอก่อนรับสิทธิ์ก่อน เพื่อชำระภาษีได้ทันในเดือน พ.ค.นี้

ที่ผ่านมา ธุรกิจเอสเอ็มอีเสียภาษี 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งปกติผู้ประกอบการที่เสียภาษีล่าช้าต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน แต่ถ้ากู้ไปชำระภาษี ดอกเบี้ยถูกกว่ามากและ บสย.ไม่คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันและสถาบันการเงินตีเช็คให้กรมสรรพากรโดยตรง

ที่มา: http://www.thaipost.net

ครม.เพิ่มมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีเผยที่ประชุมครม.อนุมัติ 2 โครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร

วานนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบเพิ่มเติมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว 2 เรื่องคือ 1.การดูแลโครงการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบในวงเงิน 5,000 ล้านบาท 2. จัดให้มีระบบประกันภัยสำหรับชาวต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ทั้งนี้ในส่วนของสินเชื่อนั้นรัฐบาลจะดูในเรื่องส่วนต่างของดอกเบี้ยและการค้ำประกันไขว้

ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะทำให้การเคหะแห่งชาติขาดทุนเกือบ 10,000ล้านบาท ที่ประชุม ครม.จึงได้มอบหมายให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมา โดยทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาในโครงการดังกล่าวต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th

ต่างประเทศ

เวเนฯสั่งถอนทูตจากเปรูฉุนให้ผู้นำฝ่ายค้านลี้ภัย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (28 เม.ย.) ว่า รัฐบาลเวเนซูเอลาสั่งถอนเอกอัครราชทูตของตนประจำกรุงลิมา เมืองหลวงของประเทศเปรู เดินทางกลับประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจกรณีรัฐบาลเปรูยอมรับลี้ภัยการเมืองให้แก่ นายมานูเอล โรซาเลส ผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญทางการเมืองของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ เมื่อครั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเมื่อปี 2549 แต่นายโรซาเลส พ่ายแพ้ และกลับมาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองมาราไซโบ เมืองใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศทั้งนี้

อัยการเวเนซูเอลา อยู่ระหว่างยื่นฟ้องนายโรซาเลส ข้อหาทุจริตคอรัปชั่น โดยพบว่านายโรซาเลส ร่ำรวยผิดปกติและไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของเงินรายได้ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดซูเลีย ทางภาคตะวันตกระหว่างปี 2543 ? 2547 ขณะที่นายโรซาเลส อ้างว่านั่นคือเงินคืนภาษี ทั้งยังระบุว่าตนตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของนายชาเวซและไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการพิจารณาคดี จึงต้องขอลี้ภัยอยู่ในเปรู หลังเดินทางเข้าเปรูในฐานะนักท่องเที่ยวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนรัฐบาลเปรู ชี้แจงสาเหตุยอมรับนายโรซาเลสด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกำลังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวเนซูเอลากับเปรูมึนตึงต่อกัน รัฐบาลเวเนซูเอลาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีต่อนายโรซาเลส คือเรื่องการเมือง ทั้งยังสั่งออกหมายจับนายโรซาเลส แต่คำสั่งดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติ ขณะที่เหล่าพันธมิตรของนายโรซาเลส พยายามเรียกร้องชี้แจงถึงความพยายามต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของนายโรซาเลส โดยระบุนายโรซาเลส ควรได้รับสิทธิเดินทางได้ทั่วโลก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความจริงเกี่ยวกับรัฐบาลนายฮูโก ชาเวซ

ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลเปรูยอมรับคำขอลี้ภัยการเมืองของนายเอดูอาโดลาปี อดีตผู้ว่าการจังหวัดหนึ่งของเวเนซูเอลา หลังนายเอดูอาโด ถูกข้อกล่าวหาทุจริตคอรัปชั่นในเวเนซูเอลา ถูกจับขังคุก แต่หลบหนีออกจากคุกได้และขอลี้ภัยเข้าเปรูด้วยข้ออ้างเดียวกันคือไม่ได้รับ ความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในเวเนซูเอลา

ที่มา: http://www.thairath.co.th

'หม่อง'คุมเข้ม จับตาฝ่ายค้าน ถกรับเลือกตั้ง

รัฐบาลทหารพม่าสั่งคุมเข้มจับตาการประชุมพรรคฝ่ายค้านของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันอังคาร ซึ่งจัดขึ้นเพื่อกำหนดท่าทีของพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้า

เนียน วิน โฆษกของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เปิดเผยว่า สมาชิกพรรคที่เข้าประชุมราว 100 คน จะร่วมกันกำหนดจุดมุ่งหมายของพรรคในการเลือกตั้งปีหน้า แต่คงไม่มีการตัดสินใจประเด็นที่ว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ ทั้งนี้ การประชุมมีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน เริ่มมาตั้งแต่วันจันทร์ และมีตัวแทนพรรคที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2533 เข้าร่วมหารือด้วย

"เราร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องกิจกรรมของพรรค สภาพการเมืองโดยทั่วไป รัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้ง" โฆษกพรรคเอ็นแอลดีเผยต่อ

นอกจากนี้ พรรคฝ่ายค้านยังได้เรียกร้องซ้ำให้รัฐบาลทหารทบทวนเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ ที่พวกเขาเชื่อว่าผ่านการลงประชามติเมื่อปีที่แล้วมาได้อย่างไม่ชอบธรรม ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญดังกล่าวมีเนื้อหาเกื้อหนุนการกุมอำนาจปกครองประเทศของทหาร และปิดกั้นไม่ให้นางซูจีมีบทบาททางการเมือง

รัฐบาลทหารพม่าสั่งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มบริเวณใกล้กับสำนักงานพรรคเอ็นแอลดี ทุกแห่งในนครย่างกุ้ง นอกจากนี้ ยังส่งตำรวจนอกเครื่องแบบประจำการอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนเพื่อจับตาการประชุมที่มีขึ้น พร้อมกับขนตำรวจปราบจลาจลเตรียมพร้อมในพื้นที่อีก 4-6 คันรถ

ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าพยายามเร่งกวาดล้างนักการเมืองฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอย่างหนัก หวังขจัดเสี้ยนหนามก่อนการเลือกตั้งในปี 2553 จะมาถึง

ที่มา: http://www.thaipost.net

ความมั่นคง

บิ๊กกลาโหม ไทย-เขมรตีกอล์ฟก่อนถกปัญหาพรมแดน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ (28 เม.ย.) อ้างการเปิดเผยของ พลเอกเนียง พัต นายทหารระดับสูงของกัมพูชา ว่า ในวันเดียวกันนี้ พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย และพลเอกเตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกรอบตีกอล์ฟร่วมกัน ที่เมืองเสียมราฐ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือกัมพูชา โดยมีนายทหารอื่นๆ ร่วมก๊วนด้วย

การใช้กีฬานำการทูตด้วยการออกรอบตีกอล์ฟครั้งนี้มีขึ้น ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะ เปิดการเจรจาเรื่องปัญหาพรมแดนในวันพุธที่ 29 เม.ย. ซึ่งนายวาร์ คิม ออง ประธานคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา เผยว่า การเจรจาจะมุ่งเน้นเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทพรมแดน

ที่มา: http://www.thairath.co.th