ที่มา Thai E-Newsผมได้รับแจ้งจากยามว่า “เข้าไม่ได้” เพราะผู้บริหารได้อนุญาตให้ทหารหนึ่งกองร้อย เข้ามาประจำอยู่ในธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เสียแล้ว..พฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็น “อธรรมศาสตร์” และผิดหลักการของการสถาปนาสถาบันแห่งนี้-ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ธรรมศาสตร์
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
16 มีนาคม 2553
ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ส่งจดหมายอีเมล์ฉบับหนึ่งถึงเพื่อนมิตรในหัวข้อเรื่อง"UnThammasat Act-อธรรมศาสตร์" มีเนื้อความกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารธรรมศาสตร์ขอให้เปิดพื้นที่บริการประชาชน ดังต่อไปนี้
หนึ่ง)ผมอ่านข่าวการ “ปิดธรรมศาสตร์” ด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง พฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็น “อธรรมศาสตร์” และผิดหลักการของการสถาปนาสถาบันแห่งนี้ ที่ว่าด้วย “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ที่มีมานับตั้งแต่สมัยของท่านปรีดี-อ.ป๋วย-อ.สัญญา ตลอดจนผู้สืบจิตวิญญาณธรรมศาสตร์อย่าง “ศรีบูรพา”
สอง) ผมมีเรื่องที่น่าเศร้าใจที่จะแจ้งว่า เมื่อค่ำวานนี้ ๑๔ มีนา ผมแวะจะเข้าไปทางประตู มธ. ด้านถนนพระอาทิตย์ เอารถเข้าไปจอด แต่ได้รับแจ้งจากยามว่า “เข้าไม่ได้” เพราะผู้บริหารได้อนุญาตให้ทหารหนึ่งกองร้อย เข้ามาประจำอยู่ในธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เสียแล้ว
ก่อนหน้านี้มีกลุ่มคนคณะหนึ่งลงชื่อใน จดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารธรรมศาสตร์ขอให้เปิดพื้นที่บริการประชาชน มีเนื้อหาดังต่อไปนี้
จดหมายเปิดผนึก
เรียน ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่อง ขอให้มหาวิทยาลัยเปิดพื้นทีให้บริการประชาชนผู้มาชุมนุม
เนื่องจากข้าพเจ้าที่เป็น กลุ่ม บุคคลตามรายชื่อข้างล่างนี้ พบว่าจากกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ประกาศจัดการชุมนุมใหญ่ในวัน ที่ 14 มี.ค. 2553 และผู้ชุมนุมทยอยเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. โดยปักหลักชุมนุมตั้งแต่บริเวณ สนามหลวงจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ผู้คนจำนวนมากที่ไปแสดงออกซึ้งความต้องการทางการเมืองอย่าง สันติ รวมทั้งผู้ที่ไปสังเกตการณ์ขณะนี้กำลังขาดแคลนสถานที่ในการทำกิจธุระจำเป็นส่วนตัวเช่นการใช้ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้น พื้นฐานอย่างหนัก
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้นอยู่ในที่ตั้งและพื้นที่ใกล้สถานที่ชุมนุมตลอดจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกบางประการที่ควรจะให้บริการแก่ประชาชนได้ แต่พวกข้าพเจ้ากลับพบว่ามหาวิทยาลัยได้เพิกเฉยกับการแสดง ออกทางการเมืองอย่างสันติของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยการปิดประตูมหาวิทยาลัย ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ซึ่งทำให้ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่ต้องการไปสังเกตการณ์และเรียนรู้การใช้สิทธิทางการเมืองของคนเหล่านั้นไม่ได้รับความ สะดวก แต่ในขณะเดียวกันภายในมหาวิทยาลัย กลับมีรถตำรวจ รถควบคุมผู้ต้องขังและรถพยาบาลของตำรวจจอดอยู่ เท่ากับว่ามหาวิทยาลัยได้เปิดพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว แต่ยังมิได้ให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดพื้นที่ให้กับการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มต่างๆ เสมอมา ทั้งนี้ด้วยเหตุผลด้านพื้นที่และเหตุผลด้าน อุดมคติที่ประชาคมธรรมศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือนักศึกษา ข้าราชการและลูกจ้างมักอ้างกันเสมอว่า "ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน" ทำให้มหาวิทยาลัยมีภาพลักษณ์เป็นเสมือนที่พึ่งของประชาชน ทุกกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยเสมอมาเช่น ได้เข้าไปพักผ่อน หรือใช้สาธารณูปโภคของมหาวิทยาลัยตามสมควรนอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยออกมาแถลงข่าวว่าจะให้ใช้พื้นที่บริเวณคอมมอนรูมคณะนิติศาสตร์เป็นที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้สื่อข่าวแต่ก็มิได้เปิด ให้บริการพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ดังว่าแต่อย่างใด
จากสถานการณ์การชุมนุมเห็นได้ชัดว่าการแสดงออกทางการเมืองหนนี้น่าจะยังดำเนินต่อไป พวกข้าพเจ้าฯ จึงใคร่ขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยทบทวนนโยบายและเปิดสถานที่เพื่อให้ประชาชนทั้งที่ไปชุมนุมและทั่วไปสามารถเข้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานได้ ทั้งนี้เพื่อให้ธรรมศาสตร์ ยังคงเป็น “ธรรมศาสตร์ของประชาชน” ตามที่ประชาคมธรรมศาสตร์มักกล่าว อ้างเสมอมา
ขอแสดงความนับถือ
กานต์ ยืนยง และผู้ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกฯลฯ
จดหมายชี้แจงการปิดธรรมศาสตร์ จาก ‘ปริญญา เทวานฤมิตรกุล’
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้แจงผ่านอีเมล์ส่วนตัวถึงผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกบางส่วน ถึงเหตุผลที่ธรรมศาสตร์ปิดทำการระหว่างการชุมนุมของ นปช.
เรียน ทุกท่านที่ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกครับ
ผมไม่ได้เข้าธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์มา ๔ วันแล้ว แล้วก็เพิ่งเช็คอีเมล์
จึงเพิ่งทราบว่ามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นครับ
ก่อนอื่นขออนุญาตอธิบายนิดนึงครับว่า
ช่วงนี้เป็นช่วงสอบปลายภาคของหลักสูตรที่มีการเรียนที่ท่าพระจันทร์
ปรากฏว่ามีนักศึกษาและผู้ปกครองมีความกังวลใจเรื่องการเดินทางในช่วงนี้
จึงได้ขอมหาวิทยาลัยให้เลื่อนสอบ
อธิการบดีจึงเห็นว่า ถ้างั้นก็งดเรียนด้วย งดการติดต่อราชการด้วย
ก็เลยกลายเป็นการปิดมหาวิทยาลัยไปเลย
ที่แรกก็ประกาศปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา พอถึงวันอาทิตย์ก็ประกาศปิดวันจันทร์และอังคารด้วย
ก็เลยเป็นที่มาของการปิดมหาวิทยาลัยจนใครต่อใครเข้าไปใช้ห้องน้ำไม่ได้ จนเป็นปัญหาเกิดขึ้นมาครับ
สำหรับเรื่องสื่อมวลชนนั้น เรายังให้เค้าใช้อยู่ครับ (ผมเป็นคนติดต่อให้เค้าเอง)
แต่เค้าไม่ไปใช้เอง เพราะเค้ามีที่อื่นที่สะดวกกว่า
อย่างไรก็ตาม ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ทุกท่านเรียกร้อง
เมื่อผมได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ผมจึงได้โทรหาอธิการบดีทันที
อาจารย์สุรพลตอบผมว่าในวันพรุ่งนี้ (วันอังคาร) คงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
แต่วันพุธถ้ามหาวิทยาลัยเปิด ก็น่าจะไม่เป็นปัญหาอะไร คือใครต่อใครก็เข้าไปได้ตามปกติครับ
ปัญหาคือ แล้วถ้ามีการปิดมหาวิทยาลัยต่อไปอีก จะเอาอย่างไร
ในกรณีดังกล่าว ผมฟังน้ำเสียงอธิการแล้ว ดูจะลำบากอยู่เหมือนกัน
เพราะดูอธิการบดีจะกังวลเรื่องปัญหาวินาศกรรม หลังจากที่มีเหตุเรื่อง M 79 ในวันนี้
เอาเป็นว่า ผมจะไปตามถามเรื่องนี้ให้อีกที ถ้าวันพุธมหาวิทยาลัยยังไม่เปิดนะครับ
ขอบคุณสำหรับจดหมายเปิดผนึก ผมจะส่งให้อธิการบดีอ่านในวันพรุ่งนี้
และขอโทษด้วยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงวิจารณ์จากท่านเป็นสิ่งที่ธรรมศาสตร์จะต้องรับฟังครับ
สุดท้ายไม่ว่าอธิการบดีจะตัดสินใจอย่างไร
ในฐานะที่เป็นรองอธิการบดี ผมก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
และพร้อมรับเสียงติเตียนทุกอย่างทุกประการครับ
ขอแสดงความนับถือ
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล