ที่มา บางกอกทูเดย์
ร่วมระลึก ‘สมัคร-เสธ.แดง’เพียบ
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
สมเด็จ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงประพันธ์เอาไว้ในหนังสือ “กฤษณาสอนน้องคำฉันท์” เพื่อเตือนสติ เตือนใจคนทั้งหลายให้ฉุกคิด และหวนระลึกว่า ความดีเท่านั้นที่คงทนและเนิ่นนาน
จะยิ่งใหญ่แค่ไหน จะมีอำนาจเพียงใด หากไร้ซึ่งคุณธรรมความดีแล้วไซร้ ก็อย่าคิดว่าอำนาจและผลประโยชน์ที่กอบโกยหรือยึดกุมนั้น จะช่วยให้คนจดจำในแง่ดีได้
ในขณะที่แม้ว่าจะถูกพิษการเมืองเล่นงาน หนักหนาสาหัสเพียงใด หากว่ามีผลงาน มีคุณงามความดีเป็นที่ปรากฏชัด แม้จะสูญเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ก็ยังคงมีคนจดจำจารึก และกล่าวขวัญถึง
ก็ ดูอย่างนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ล่วงลับ แม้ว่าโค้งสุดท้ายในเวทีการเมือง จะถูกสงครามการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองเล่นงานเสียยับเยิน ถึงขั้นถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพียงเพราะทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ “ชิมไปบ่นไป”
ซึ่งจริงๆก็เป็นรายการโทรทัศน์ที่ทำงานนานก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำ!!!
แต่ หลังจากตัดสินใจมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ตัดสินใจทค่จะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยหวังว่าจะแก้ปัญหาทางตันของประเทศชาติ ที่เกิดขึ้นภายหลังการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
แต่สุดท้ายนายสมัคร ที่แม้จะเป็นนักการเมืองมาชั่วชีวิต แต่ก็ยังต้องกลายเป็นเหยื่อการเมือง ในสงครามการเมืองแย่งชิงอำนาจในครั้งนี้
แต่คนไม่น้อยยังคงรักและชื่นชอบนายสมัครอยู่ไม่เสื่อมคลาย
เมื่อ วันที่ 14 พฤศจิกายน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จไปในการพระราชทานเพลิงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
มีบุคคลสำคัญ ทั้งนักการเมือง ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมพิธีจำนวนมาก อาทิ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง นายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งผู้แทนจากเหล่าทัพอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมงานโดยบางส่วนสวมเสื้อสีแดงเข้ามาในงานด้วย
ทั้งนี้ มีการแสดงโขนหน้าไฟเรื่อง "รามเกียรติ์" ตอนนางลอย หน้าเมรุด้วย
ซึ่ง ภายในงานมีการแจกหนังสือที่ระลึกในพิธีพระราชทานเพลิงให้กับผู้ที่มา ร่วมงาน จำนวน 1 หมื่นชุด โดยใส่ในถุงผ้าสีดำที่มีลายเซ็นของนายสมัคร ภายในถุงผ้าประกอบด้วยหนังสือ 3 เล่ม ดังนี้
1. ชื่อ "รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ น ชีรติ" แปลว่า "รูปกายสังขารย่อมแตกดับสลายแต่ชื่อเสียง เกียรติคุณความดีหาแตกดับไปไม่" เนื้อหาภายในเล่มเป็นชีวประวัติและผลงานของนายสมัคร
2.หนังสือปกแข็ง ภายในเล่มรวมภาพพิธีสวดพระอภิธรรม พร้อมคำไว้อาลัยของบุคคลสำคัญๆ
3.หนังสือ ชื่อ “ข้าวสำรับ” เป็นหนังสือรวมสูตรอาหารที่เป็นเคล็ดลับสูตรเฉพาะของนายสมัคร จำนวน 52 เมนู อาทิ เมนูที่ 14 โครงไก่ต้มฟัก เป็นต้น และแจกพระเครื่องเนื้อสัมฤทธิ์คือพระพุทธชนะมาร ที่จัดสร้างสมัยที่นายสมัครดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปี 2551 และเจ้าแม่กวนอิมเนื้อผง
ปรากฏว่ามีประชาชนเดินทางมาร่วมงานไว้ อาลัยหลายพันคน ทำให้การจราจรรอบวัดติดขัดอย่างมาก โดยทั้งในและรอบงานมีตำรวจ ทหาร และหน่วยปราบจลาจลสนธิกำลังมารักษาความปลอดภัยโดยรอบ
ขณะที่ บรรยากาศช่วงหนึ่งในงานเกือบเกิดการจลาจลขึ้น ในระหว่างที่มีการแจกหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิง เพราะมีประชาชนต้องการหนังสือจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดแจกน้อย จนเจ้าหน้าที่ต้องประกาศยุติการแจกชั่วคราว ก่อนเริ่มแจกอีกครั้งมีทหาร และตำรวจมาจัดคิว
อนึ่ง นายสมัคร สุนทรเวช เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 อายุ 74 ปี
นี่คือมุมสะท้อน ที่นักการเมืองในยุคปัจจุบันควรจะต้องนำไปเป็นแง่คิด
ขณะ เดียวกันในวันที่ 14 พฤศจิกายนเช่นกัน ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงประมาณ 500 คน ก็ได้มีการรวมตัวจัดกิจกรรมรำลึกการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง โดยมีนางสาวขัตติยาหรือน้องเดียร์ และนางสาวกิตติยา สวัสดิผล ลูกสาว ร่วมทำกิจกรรมด้วย
ปรากฏว่ามีตำรวจจากหน่วยปราบจลาจล 1 กองร้อย มารักษาความปลอดภัย ซึ่งการจัดกิจกรรมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับ พิธี เริ่มด้วยกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงนำผ้าสีแดงขนาด 5 คูณ 5 เมตร เป็นตราสัญลักษณ์ของกลุ่มมาวางที่พื้น แล้วนำนกสีแดงโปรยทั่วผืนผ้า โดย น.ส.ขัตติยา นำรูปเสธ.แดงมายืนอยู่ที่แผ่นผ้า เพื่อร่วมกันกล่าวคำไว้อาลัยให้กับเสธ.แดง และร่วมร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น.
จากนั้น น.ส.ขัตติยาเดินถือรูปเสธ.แดงไปวางยังจุดที่เสธ.แดงถูกยิงเสียชีวิต คือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม แล้วจุดเทียนไว้อาลัย
ทั้งนี้น.ส.ขัตติยากล่าวว่า ขอขอบคุณกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ไม่นึกว่าจะมาร่วมกันมากขนาดนี้
ที่ สำคัญ น.ส.ขัตติยา ยืนยันว่าพ่อจะไม่เสียชีวิตอย่างสูญเปล่า เพราะน.ส.ขัตติยาจะขอเป็นหนึ่งในผู้เรียกร้องให้ผู้ที่สั่งฆ่าออกมารับผิด ชอบ
ปัญหาก็คือว่าจนถึงวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเสียชีวิตของ เสธ.แดง เท่านั้นที่ยังเงียบ ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่แม้กระทั่งกรณีผู้เสียชีวิต 91 ศพ จากเหตุการณ์พฤษภาอำมะหิต โดยเฉพาะกรณีการยิงกราดกระหน่ำเข้าไปในวุดปทุมวนาราม จนกระทั่ง น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบลอาสา ที่เข้ามาช่วยดูแลผู้เจ็บป่วยหรอบาดเจ็บ ต้องมาถูกยิงเสียชีวิต เป็น 1 ใน 6 ศพปริศนา
ที่วันนี้ยังคงไม่มี ความคืบหน้าใดๆเลย แม้ว่า นางพะเยาว์ อัคฮาด พร้อมด้วย นายณัทพัช อัคฮาด มารดาและน้องชายของ น.ส.กมนเกด จะพยายามเรียกร้องและจ้ำจี้จำไชกับทาง ดีเอสไอ สักเพียงใดก็ตาม
ขนาดสุดทน จนถึงกับมีการนำครกกับสาก หวังไปมอบให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) โดยข้างครกเขียนข้อความว่า “คอป.” ส่วนสากเขียนว่า “ดีเอสไอ”
แต่จนวันนี้ทุกอย่างยังคงเงียบ ราวกับว่ามีขั้วอำนาจที่ต้องการให้เรื่องเหล่านี้ กลายเป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง!!!