ที่มา มติชน
บรรเจิด ฟุ้งกลิ่นจันทร์
ครอบครัวฟุ้งกลิ่นจันทร์
นายณัทพัช อัคฮาค
นางพะเยา อัคฮาค
นายสมใจ เข็มทอง
รับชมข่าว VDO
http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1290080078
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม ร.102 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณีเมษายน-พฤษภาคม 2553
และกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค.53(ศปช.) จัดแถลงข่าว
กรณีที่ รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม ได้เข้าไปช่วยประกันตัวผู้ที่ถูกคุมขัง
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 53
ความเห็นต่อการดำเนินการของรัฐบาลในการช่วยเหลือประกันตัวผู้ถูกคุมขัง
จากกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
รายงานข้อมูลผู้ถูกจับกุมคุมขัง
และความเห็นต่อผลการสืบสวนสอบสวนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
กรณีผู้เสียชีวิต 89 ราย
โดยมีญาติของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรมจากรัฐบาล
และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยและชันสูตรพลิกศพทุกรายที่เสียชีวิต
นายบรรเจิด ฟุ้งกลิ่นจันทร์ บิดานายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์
ที่เสียชีวิตถูกยิงที่หน้าอก 6 นัด บริเวณสี่แยกคอกวัว กล่าวว่า
ดีเอสไอได้แถลงว่าคนเสื้อแดงถูกฆ่า
แต่การตายของประชาชนที่สี่แยกคอกวัวยังไม่ทราบว่าตายเพราะสาเหตุใด
อยากจะบอกนายธาริต (นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ) ว่า
ให้ช่วยหาความจริงออกมาโดยเร็วว่า
การตายของลูกชายที่ถูกยิง 6 นัดซ้อนนั้นเป็นฝีมือใคร
"ถ้านายธาริต ยังไม่รู้ว่าใครยิงลูกชายผม
ผมจะเอาศพไปพิสูจน์หาหลักฐานใหม่ตลอดเวลา
เพราะว่าศพของลูกชายผมยังไม่เผาพร้อมที่จะตรวจพิสูจน์ตลอดเวลา
กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายนยังไม่ได้เผาอีก 9 ศพ
รอการชันสูตรพลิกศพเหมือนกัน ลูกชายถูกทหารยิงที่สี่แยกคอกวัว หน้าร้านวังไข่มุก
อยากให้รัฐบาลชุดนี้หาความจริงว่าใครฆ่าลูกชาย
ผมทำใจไม่ได้เลยเพราะว่าพ่อแม่อยู่บ้านคิดถึงลูกตลอดเวลา
ถึงเวลาลูกจะกลับมา ทุกครั้งที่ลูกมาหมาจะหอน
เรารู้ว่าลูกมาหาก็เรียกลูกเข้าบ้านและเขามาเข้าฝัน
บอกคนที่บ้านให้ดูแลแม่อย่าทิ้งแม่เรื่องเหตุการณ์ทุกวันนี้จะจบแล้ว" นายบรรเจิดกล่าว
ขณะที่นางสุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์ มารดานายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า
วันที่ 10 เมษายน เป็นวันที่สูญเสียลูกชายนัดกันไว้ว่า
ตอนเย็นเจอกันที่สี่แยกราชประสงค์ เวลาประมาณบ่าย 3 โมง
ลูกชายดูทีวีเห็นทหารขอคืนพื้นที่เลยไปที่สี่แยกคอกวัว
ผลักดันกับทหารที่หน้าร้านไข่มุก โทรมาบอกแม่ตอนเกือบ 2 ทุ่ม ว่า
กำลังชุลมุนกับทหาร
พอผ่านไปแค่ 10 นาทีเพื่อนลูกชายโทรมาบอกว่าลูกชายถูกยิง
"เสียใจมากเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
ลูกชายเป็นเด็กดีไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้าทำงานช่วยพ่อแม่มาตลอด
วันหนึ่งออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วโดนทหารยิง
แม่ระบุเลยว่าเป็นทหารยิงลูกแม่
ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่เคยพบเคยเห็นรัฐบาลอะไรที่เป็นแบบนี้
อะไรหลายสิ่งหลายอย่างปกปิดประชาชน
มีแต่ความเท็จ มีแต่โกหก
ไม่อยากจะหวังอะไรกับรัฐบาลชุดนี้ ไม่รู้ว่าจะจบแบบไหน
แต่อย่างไรก็ขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ขอให้คนที่รับผิดได้รับโทษ
เพราะเขาตายเนื่องจากโดนทหารยิง
แล้วทหารก็ถูกสั่งมาให้มาสลายการชุมนุม
ทุกวันนี้บอกได้เลยว่าเจ็บใจ เสียใจ แค้นใจ เกลียดทหาร
พอเห็นแล้วรู้สึกเกลียดเพราะเขาฆ่าลูกเรา" มารดานายเทิดศักดิ์กล่าว
มารดานายเทิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า
ครอบครัวเราเป็นรากหญ้าคนจน ค้าขายอาหาร
ลูกชายพยายามดิ้นรนเรียนให้จบปริญญาตรี
คณะวิทยาศาสตร์ จากสถาบันราชภัฏพระนคร
เพื่อจะได้มีหน้าที่การงานที่ดีเก็บเงินมาเปิดร้านให้พ่อแม่ค้าขาย
รัฐบาลทำกับเราแบบนี้บอกตรงๆ สิ้นหวัง
ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาทดแทนลูกเราได้
แม้จะชดเชยเงินให้ก็ทดแทนความรักไม่ได้
ลูกชายเห็นความไม่ถูกต้องก็ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย
เขาเป็นเด็กที่สนใจการเมืองและรักความถูกต้อง
ทางด้านนายณัทพัช อัคฮาค น้องชาย น.ส.กมนเกด อัคฮาด
หรือน้องเกดอาสาพยาบาลของร่วมด้วยช่วยกัน
ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่า
ดีเอสไอออกมาแถลงเรื่อง 6 ศพในวัดปทุมฯ สามารถแยกได้ว่า
มีแนวโน้มว่าทหารเป็นคนยิงเจ้าหน้าที่เป็นคนกระทำการ
และอีกส่วนหนึ่งได้แยกออกมาว่า 3 ใน 6 ศพ ยังไม่ได้ข้อยุติ
โดยการตายอาจมีสาเหตุจากทหาร
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) หรือ คนชุดดำตามที่รัฐบาลได้กล่าวอ้าง
ซึ่งได้สร้างความสับสนให้กับญาติผู้เสียชีวิตที่ได้รับฟังการแถลงมาก
กรณีที่ว่าหัวกระสุนมาจากบนลงล่าง 3 ศพ
จากส่วนที่ส่งคืนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีแนวโน้มว่ากระสุนมาจากบนลงล่าง
ขอถามว่าอีก 3 ศพที่เหลือไม่ได้มาจากบนลงล่างใช่หรือไม่
"ถ้ามองในแง่การเมืองก็คงจะเป็นโจรชุดดำยิงออกมาจากวัดอีก
นี่คือสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง
ถ้าสัปดาห์หน้าจะแถลงแบบนี้อย่าแถลงดีกว่า
เพราะสิ่งที่เราอยากรู้ คือ ผลชันสูตร
เพราะว่าเราไปขอที่ไหนก็ไม่มีใครให้
ขอที่สถาบันนิติเวชก็ไม่ให้ ลงไปที่ตำรวจท้องที่ก็บอกว่าไม่มี
ส่งไปที่ดีเอสไอก็บอกว่ามีผลต่อทางคดีให้ดูไม่ได้
ในเมื่อผมเป็นญาติผู้เสียชีวิตโดยตรงผมเชื่อว่า
ผมมีสิทธิ 100 % สามารถที่จะรับรู้ว่าเป็นอย่างไร" นายณัทพัช กล่าว
น้องชายน.ส.กมนเกด กล่าวต่อว่า
ดีเอสไอแถลงว่า 2 ศพน่าจะเกิดจากฝีมือ นปช.เป็นคนยิง
แต่ถามว่า 6 ศพจากวัดปทุมฯหลักฐานชัดเจน
ภาพจากบนรางรถไฟฟ้า คลิปวิดีโอ ปลอกกระสุนปืนบนรางรถไฟ
พยานหลักฐาน พยานบุคคลที่ไม่เคยพูดถึง หลักฐานขนาดนี้ยังไม่มั่นใจ
ใครเป็นคนกระทำเรื่องปลอกกระสุนก็หายเงียบไป
การที่ดีเอสไอออกมาพูดครั้งนี้ ใครก็พูดได้
ออกมาพูดเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ทำอย่างเดียวคือ
โจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง คือ การแถลง 2 ศพที่เชื่อว่า นปช.เป็นคนทำ
แต่ถามว่าผู้ได้รับผลกระทบตรงๆ 89 ศพ
ประชาชนส่วนใหญ่ได้อะไรบ้าง ได้อะไรจากผลการแถลงครั้งนี้ คำตอบ คือ ไม่
"บอกอย่างเดียวว่าน่าจะเป็นฝีมือทหาร
พูดตรงๆคืออยากให้ดีเอสไอเปิดผลชันสูตร ชี้แจงออกมาเลยว่าจะเป็นผลเช่นไร จากไหน
เพราะมันค่อนข้างที่จะชัดเจนซึ่งสรุปออกมาหมดแล้ว
แค่ชี้แจงว่าเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง และอีกส่วนหนึ่งที่ออกมาบอกว่า
เป็นการกระทำของทหารของเจ้าหน้าที่รัฐ
ถ้าเกิดเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุแล้วทำให้คนอื่นเสียชีวิตแล้วไม่ต้องรับโทษ
สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลได้ จะเอากันอย่างนี้ใช่ไหม
ทหารฆ่าใครไม่ผิดใช่ไหม ประชาชนฆ่ากันได้
ถ้าไม่พอใจฆ่ากันไม่ผิด ถามว่าตีค่าประชาชนเป็นเงินหรือยังไง
ประชาชนมีค่าแค่ 4 แสน
ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้มาหรืออย่างไร"
น้องชายพยาบาลอาสากล่าว
นายณัทพัช ยังได้ตั้งคำถามอีกว่า
ประเทศนี้เป็นประเทศของประชาชนหรือของทหาร
ที่สามารถกระทำการแบบนี้ได้เคยเห็นหัวประชาชนตาดำๆที่เสียภาษี
ให้ซื้ออาวุธแล้วมาไล่ฆ่าพวกเขาแล้วบอกว่าไม่ผิด
ถ้าอยากได้การชดเชยก็ให้มาเรียกร้องแล้วส่วนที่เหลือจะเรียกร้องยังไง
เพราะคนตายไปแล้วอะไรจะชดชีวิตได้
ขณะนี้ ศพของ น.ส.กมนเกดและศพอื่นๆ
ยังไม่ได้ถูกแถลงออกมาว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
ซึ่งอาจจะอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ
แต่อยากให้ดีเอสไอเปิดเผยผลการชันสูตรทั้งหมด
และขอให้รัฐบาลกลับไปทบทวนคำว่า "ทหารทำเกินกว่าเหตุแล้วไม่ผิด"
ขอให้กลับไปทบทวน พูดตรงๆ มันไม่เป็นธรรมกับประชาชน
ถ้ารัฐบาลยังยืนยันจะพูดแบบนี้ ทางญาติก็ไม่ยอมและจะทำให้ถึงที่สุดเท่าที่ทำได้
ทางด้านนางพะเยา อัคฮาค มารดาน.ส.กมนเกด กล่าวว่า
ดีเอสไอแถลงออกแต่ละหัวข้อนั้นเลือกใช้ภาษาที่สับสน
แต่พวกเราก็ไม่ได้สับสนตามสิ่งที่เขาแถลงออกมา
มันไม่ได้เป็นผลดีกับประชาชนเลย
มันเป็นผลดีกับพวกเขามากกว่า
เพราะคำแถลงการณ์ยังออกมาแบบมั่นใจว่า นปช. ฆ่ากันเอง
รู้สึกว่าจะจงใจเกินไปหรือเปล่าที่จะให้ประชาชนสับสน
โดยการยกเอาคดีเบาๆ ขึ้นมาแถลงก่อน
แต่อะไรที่มีหลักฐานชัดๆข้อมูลจริงๆกลับไม่กล้าแถลงเอาของเบาๆมาผสมแล้ว
ให้คนเห็นว่านปช. ฆ่ากันเอง
อย่าง 6 ศพวัดปทุม มีหลักฐานพร้อมประชาชนทั้งประเทศรู้
แต่ไม่กล้าเอาหลักฐานมาแถลง
เลือกจุดที่ไม่แน่นอน ไม่มีหลักฐานชัดเจน มาแถลงเป็นการซื้อเวลาเท่านั้นเอง
"ถ้านายธาริต จริงใจต้องแถลงออกมาตรงๆ
เพราะมีหลักฐานทุกส่วน กรุณากล้าที่จะชี้ประเด็นตรง ๆ ว่าศพไหนตายยังไง
อย่าเข้าข้างรัฐบาลเกินไป อย่าเอาใจรัฐบาลเกินไป
แต่ดิฉันก็ดีใจที่มีคำแถลงออกมาถ้าดิฉันไม่ได้มอบครกกับสากให้ไป
คำแถลงคงไม่ออกมาเร็วขนาดนี้" นางพะเยากล่าว
นายสมใจ เข็มทอง พี่ชายนายมงคล เข็มทอง อาสาสมัครมูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง
ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. กล่าวถึง
คำแถลงของของดีเอสไอว่าตามที่นายธาริต แถลงออกมาแบบนี้
เป็นการใส่ร้ายป้ายสี นปช. เพราะว่าหลักฐานที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้พิสูจน์เรียบร้อยแล้วว่า
กรณี 6 ศพ มีคลิป มีภาพถ่ายที่ระบุชัดว่า จุดนี้ถูกยิงมาจากบนลงล่าง
"ผมกล้ายืนยันด้วยว่าเป็นทหารยิง เพราะทหารเข้ามากระชับพื้นที่
ทำไมต้องนำอาวุธสงครามเข้ามาด้วย เพราะคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธมีมือเปล่ากับหนังสติ๊ก
ขอถามว่าดีเอสไอทำได้แค่นี้หรอ เป็นถึงระดับหน่วยพิเศษมีความสามารถแค่นี้เหรอ
หลักฐานที่ให้ไปไม่เพียงพอหรืออย่างไร แล้วขอผลชันสูตรก็ไม่กล้าให้ ไม่กระเตื้อง
ถามว่านายธาริต 2 มาตรฐานหรือเปล่า
ขอร้องว่าอย่าเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ศักดิ์ศรีอยู่ตรงไหน
คุณคิดว่าคุณรับตำแหน่งหน้าที่แล้วจะทิ้งหรืออย่างไร
เพราะเงินรายได้คุณมาจากภาษีประชาชน
ขอให้คิดตรงนี้ด้วยไม่ใช่คิดว่าจะทำอะไรก็ทำได้ ต้องเห็นใจประชาชนด้วย
ผมได้เห็นแถลงการณ์ออกมาแล้วเสียใจมาก
น้องผมเสียชีวิตในวัด
ทุกครั้งที่เขาออกมาช่วยเหลือประชาชนเป็นการ์ดอาสามูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง(ชูใบรับรอง)
เขาออกมาช่วยเหลือทุกคนไม่แบ่งสี การที่นายธาริต พูดแบบนี้มันดูถูกกันหรือเปล่า
สุดท้ายนี้ขอสู้ต่อไปทุกรูปแบบ" นายสมใจ กล่าว