ที่มา ไทยรัฐ
อภิสิทธิ์ - กรณ์
เรื่องของวาสนานำพา กับคนชื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จังหวะเหมาะ ได้ประเดิมเที่ยวปฐมฤกษ์สองคิวติดๆ ในวันเดียวกัน
ตั้งแต่รถไฟฟ้า ไปยันเครื่องบิน
เช้ามืด นายกฯอภิสิทธิ์ เป็นคนแรกที่ใช้บัตรโดยสารผ่านเข้าสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่และเดินเข้าสู่ขบวนรถ เพื่อเดินทางไปยังสถานีสุรศักดิ์
ประเดิมเที่ยวปฐมฤกษ์ รถไฟฟ้าส่วนต่อสายสีลม
ต่อมาในช่วงสาย นายกฯอภิสิทธิ์ และคณะชุดใหญ่ ได้บินลัดฟ้าไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามโปรแกรม Working Visit ไปเช้ากลับดึก
และก็เป็นอะไรที่พิเศษกว่าทริปปกติ เพราะคิวนี้นายกฯอภิสิทธิ์ได้ใช้บริการเที่ยวบินพิเศษของกองทัพบกไทย ออกเดินทางโดยเครื่องบินแบบ "แอมเพรีย" รุ่น อีอาร์เจ 135 ที่กองทัพบกเพิ่งจัดซื้อเข้าประจำการในปลายปี 2551
นับเป็นการนำขึ้นบินเป็นครั้งแรกของเครื่องบินลำหรู
ให้มันรู้ไปเลยว่า ใครเป็นใคร
แต่ไม่ว่า "เส้นใหญ่แค่ไหน" โดยเงื่อนไขทางการเมืองของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จุดพลิกผันมันอยู่ที่จำนวนมือหนุนในสภา
ถ้าเสียงไม่แน่นก็เจ๊ง
ก็อย่างที่เห็น ประชาธิปัตย์ยังต้องพึ่งจมูกเพื่อนในการหายใจ ยืดอายุรัฐบาล
ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่มีรายการต่อสายด่วน "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการรัฐบาล และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ มือประสานสิบทิศ ส่งเทียบเชิญแกนนำระดับ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ตัวแทนพรรคเพื่อแผ่นดิน
มานั่งโต๊ะกินข้าวเคลียร์ใจที่บ้านพิษณุโลก
เหตุเกิดหลังคิวที่นายกฯอภิสิทธิ์ปะทะคารมกับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ค่ายภูมิใจไทย ว่าด้วยปมระบายข้าวโพด ติดพันนัวเนียกับรายการที่พรรคร่วมรัฐบาลคาใจที่ถูกตัดงบประมาณในกระทรวงเศรษฐกิจที่รับผิดชอบ
ประกอบกับอาการยึกยักแยกบทกันเล่นของคนประชาธิปัตย์ กั๊กเกมแก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรมนักเลือกตั้งบ้านเลขที่ 111 บวก 109
เมื่อเล่นบท "เขี้ยว" ใส่เพื่อน ก็เลยระแวงเพื่อน "เขี้ยว" กลับ
โดยการประคับประคองสัมพันธภาพ "ชั่วคราว" ประชาธิปัตย์จำใจต้องเรียก "ผู้มีบารมีนอกสภา" ของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลมาเป่ากระหม่อม
กล่อมให้กล้ำกลืนฝืนทนกันต่อไป
เพราะมันไวไป ถ้าจะหักกันตั้งแต่ด่านแรก การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบการกู้เงิน 8 แสนล้านบาท ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในวันจันทร์ต้นสัปดาห์หน้า
กฎหมายการเงินถ้าโดนคว่ำกลางสภา "อภิสิทธิ์" ตกเก้าอี้โดยอัตโนมัติ
อดกันถ้วนหน้า ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ
แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยเดิมพันของพรรคประชาธิปัตย์ที่สูงกว่าเพื่อน กับคำถามนักข่าว กรณีภาคเอกชนบางส่วนเสนอให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นขุนคลัง แทนนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง
เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้
"เทพเทือก" ต้องรีบเบรก คงยังไม่ถึงขนาดนั้น ยืนยัน นายกรณ์ ยังทำได้ดีอยู่ โดยเฉพาะการชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ก็ชัดเจน ทำให้คนฟังสบายใจ ยังมีขีดความสามารถในการทำงานได้เต็มร้อย
"คุณกรณ์ถือเป็นความหวังของเราคนหนึ่ง"
กับประโยคหลังนี่แหละที่น่าเอะใจ เพราะโดยสถานการณ์ที่เซียนการเมืองอ่านหมากกันไว้ ภายใต้เงื่อนไขเดิมพันอนาคตพรรคประชาธิปัตย์
ถ้าถึงบทสรุปที่ "อภิสิทธิ์" ยื้อเศรษฐกิจไม่ไหว พิสูจน์น้ำยาขุนคลัง "กรณ์" บ้อท่า ในขณะที่ "หล่อเล็ก" อย่างนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ก็วูบไปกับคดีรถดับเพลิง
มองไปในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหลือใคร
หมดตัวขายในสต๊อกแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน