ที่มา ประชาไท
Sat, 2012-08-25 08:37
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ แจ้งว่า อังคาร กัลยาณพงศ์
กวีซีไรท์และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 1.30 น.
วันนี้ (25 ส.ค.) โดยมีกำหนดอาบน้ำศพที่วัดตรีทศเทพ เวลา 17.00 น.
โดยจะมีการสวดอภิธรรม 7 คืนก่อนรอรับพระราชทานเพลิงศพ
เนชั่นแชนเนลรายงานเพิ่มเติมว่า อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์ วัย 86 ปี เสียชีวิตแล้ว โดยจะมีพิธีอาบน้ำศพเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น. วัดตรีทศเทพ และจะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 7 วัน
อังคาร กัลยาณพงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของกำนันเข็ม และนางขุ้ม กัลยาณพงศ์ ในวัยเด็กร่างกายเคยเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้ มีหมอมารักษาด้วยสมุนไพรจนหาย
เรียน ชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดใหญ่และโรงเรียนวัดจันทาราม เรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนพระพุทธเจ้าหลวงอุปถัมภ์และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วไปเรียนที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรมมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นศิษย์ของศิลปินใหญ่อย่างเช่น ศ. ศิลป พีระศรี. อ, เฟื้อ หริพิทักษ์,จึงได้ติดตามและร่วมมือกับอาจารย์ในด้านศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์
ความ เป็นกวีนั้นเป็นพรสวรรค์ที่อังคารเชื่อมั่นและฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม เมื่อออกจากมหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว ได้ร่อนเร่เรียนรู้และสร้างสรรค์การวาดภาพและเขียนบทกวี ได้มีโอกาสคุ้นเคยกับศิลปินและกวีร่วมยุคสมัยหลายคน มีผลงานบทกวีปรากฏในหนังสือ "อนุสรณ์น้องใหม่" มหาวิทยาลัยศิลปากร กระทั่งได้พบกับสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้ก่อตั้งกและเป็นบรรณาธิการคนแรกของ "สังคมศาสตร์ปริทัศน์" บทกวีของอังคาร กัลยาณพงศ์ จึงได้พิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง มีผลงานที่จัดพิมพ์สร้างความตื่นตัวตื่นใจให้กับวรรณกรรมไทยมาเนิ่นนาน เช่น กวีนิพนธ์ (2507), ลำนำภูกระดึง (2512), สวนแก้ว (2515), บางกอกแก้วกำสรวลหรือนิราศนครศรีธรรมราช (2512) อันเป็นเล่ม
ใน ปี 2532 ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์ ซึ่งเป็นกวีร่วมสมัยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น จินตกวี ผู้ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านวรรณศิลป์และทัศนศิลป์
อังคาร กัลยาณพงศ์ ได้สมรสกับคุณอุ่นเรือน มีบุตรชาย 1 คน บุตรสาว 2 คน คือ ภูหลวง อ้อมแก้ว และวิสาขา กัลยาณพงศ์ โดยสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมและงานประพันธ์ทั้งร้องกรองและร้อยแก้วเป็นอาชีพ
ที่มา:
https://www.facebook.com/sulak.sivaraksa/posts/10151041435162798
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=647050&lang=T&cat
เนชั่นแชนเนลรายงานเพิ่มเติมว่า อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์ วัย 86 ปี เสียชีวิตแล้ว โดยจะมีพิธีอาบน้ำศพเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น. วัดตรีทศเทพ และจะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 7 วัน
อังคาร กัลยาณพงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของกำนันเข็ม และนางขุ้ม กัลยาณพงศ์ ในวัยเด็กร่างกายเคยเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้ มีหมอมารักษาด้วยสมุนไพรจนหาย
เรียน ชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดใหญ่และโรงเรียนวัดจันทาราม เรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนพระพุทธเจ้าหลวงอุปถัมภ์และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วไปเรียนที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรมมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นศิษย์ของศิลปินใหญ่อย่างเช่น ศ. ศิลป พีระศรี. อ, เฟื้อ หริพิทักษ์,จึงได้ติดตามและร่วมมือกับอาจารย์ในด้านศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์
ความ เป็นกวีนั้นเป็นพรสวรรค์ที่อังคารเชื่อมั่นและฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม เมื่อออกจากมหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว ได้ร่อนเร่เรียนรู้และสร้างสรรค์การวาดภาพและเขียนบทกวี ได้มีโอกาสคุ้นเคยกับศิลปินและกวีร่วมยุคสมัยหลายคน มีผลงานบทกวีปรากฏในหนังสือ "อนุสรณ์น้องใหม่" มหาวิทยาลัยศิลปากร กระทั่งได้พบกับสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้ก่อตั้งกและเป็นบรรณาธิการคนแรกของ "สังคมศาสตร์ปริทัศน์" บทกวีของอังคาร กัลยาณพงศ์ จึงได้พิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง มีผลงานที่จัดพิมพ์สร้างความตื่นตัวตื่นใจให้กับวรรณกรรมไทยมาเนิ่นนาน เช่น กวีนิพนธ์ (2507), ลำนำภูกระดึง (2512), สวนแก้ว (2515), บางกอกแก้วกำสรวลหรือนิราศนครศรีธรรมราช (2512) อันเป็นเล่ม
ใน ปี 2532 ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์ ซึ่งเป็นกวีร่วมสมัยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น จินตกวี ผู้ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านวรรณศิลป์และทัศนศิลป์
อังคาร กัลยาณพงศ์ ได้สมรสกับคุณอุ่นเรือน มีบุตรชาย 1 คน บุตรสาว 2 คน คือ ภูหลวง อ้อมแก้ว และวิสาขา กัลยาณพงศ์ โดยสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมและงานประพันธ์ทั้งร้องกรองและร้อยแก้วเป็นอาชีพ
ที่มา:
https://www.facebook.com/sulak.sivaraksa/posts/10151041435162798
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=647050&lang=T&cat