ที่มา ประชาไท
Sun, 2012-08-26 14:06
คนเราไม่จำเป็นต้องรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเพื่อที่จะรู้สึกเจ็บปวดกับครอบครัวผู้อื่นที่เดือดร้อนและเป็นทุกข์
อากงไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นเหยื่อของสังคมที่เห็นดีเห็นงามกับกฎหมายอันไม่ชอบธรรมที่ปิดหูปิดตา ปิดปากประชาชนและกักขังจองจำผู้ที่แสดงความเห็นต่างด้านลบเกี่ยวกับสถาบัน กษัตริย์ อย่างไม่พอเพียง ถ้าวันนี้เราไม่ต่อต้าน กฎหมาย ม.112 อากงอาจมิใช่ศพสุดท้ายและครอบครัวอื่นก็อาจต้องหลั่งน้ำตาเหมือนครอบครัว ญาติมิตรของอากง ณ ค่ำคืนนี้
เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว ผมมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่งในวงทานอาหารกับทูตต่างชาติ
ส.ส. กทม. ท่านนี้บอกผมกับผู้ร่วมวงอาหารเป็นภาษาอังกฤษว่า ว่าด้วย ม.112 นั้น หากใครมิได้แสดงความเห็นด้านลบเกี่ยวกับสถาบันฯ ต่อสาธารณะ ก็ไม่เดือดร้อน ได้ยินเช่นนั้นผมก็รู้สึกทนไม่ได้ แล้วโต้กลับไปว่า อย่างกรณีอากง แกต้องมาติดคุกจนตายเพียงเพราะถูกตัดสินว่าส่ง SMS หยาบๆ 3-4 ครั้งให้คนๆ เดียว อันได้แก่เลขาส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นั่นถือว่าเป็นการแสดงออกต่อสาธารณะหรือ?
ถ้าเลขาส่วนตัวนายอภิสิทธิ์จะมีเมตตาเพียงสักเล็กน้อย ก็คงไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ เพราะข้อความไม่ได้ไปขึ้นบนจอช่อง 3 ให้คนอ่านดูกันทั้งประเทศ หากขึ้นจอมือถือเล็กๆ ของตัวแกเท่านั้นเอง (นี่ยังไม่นับรวมข้อถกเถียงที่ว่าตกลงอากงเป็นคนส่ง SMS เหล่านั้นจริงหรือไม่ หรือคำตัดสินของศาลยืนบนพื้นฐานการตรวจสอบว่าอากงกระทำผิดจริงจนปราศจากข้อ สงสัยใดๆ จริงหรือไม่)
การมาพูดวันนี้ ผมทราบดีว่ามีคนกล่าวหาผมและท่านอื่นที่ได้รับเชิญให้มาพูดในที่นี้ มา ‘หากินกับศพกับความตาย’ ของอากง หากคำเหล่านี้ออกมาจากปากผู้ที่เป็นห่วงเป็นใยอากงจริง ผมคงรับพอฟังได้ แต่ข้อกล่าวหาเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของบรรดาคนรักเจ้าอย่างไม่รู้จักพอ เพียงที่สนับสนุน ม.112 และหลายคนก็ยังได้เคยแสดงความสะใจกับการติดคุกและการตายของอากง วันนี้พวกเขายังเสแสร้งทำเป็นห่วงผู้ที่เสียชีวิตจากกฎหมายเผด็จการที่พวก เขาสนับสนุนปกป้องอย่างแข็งขัน
ผมไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จักอากงเป็นการส่วนตัว เพื่อที่จะรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกของคนตระกูลตั้งนพกุล วันใดที่ผู้คนรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดได้กับเฉพาะคนที่เรารู้จักหรือสนิทสนม วันนั้นสังคมคงสิ้นหวัง
ผมอยากถามในที่นี้ว่าความเมตตาในหมู่ผู้ที่อ้างว่าเทิดทูนบุรุษอัน ประเสริฐแต่ตรวจสอบและวิพากษ์ไม่ได้ มีหรือไม่กับคนที่เห็นต่างทางการเมือง?
แต่ผมคงไม่ได้คำตอบ ณ ที่นี้ในคืนนี้ เพราะพวกเขาคงมิได้สนใจกับการเสียชีวิตของชายแก่ๆ ผู้หนึ่งที่เราเรียกว่า อากง ภายใต้ ‘กฎหมาย’ ที่พวกเขาสนับสนุนปกป้อง
ขอให้อากงที่ผมไม่เคยรู้จักไปสู่สุคติ และขอให้อาม่า (ป้าอุ๊) และลูกหลานพบกับความสงบในชีวิตตามเท่าที่พอจะได้ในสังคมที่เสมือนคุกยักษ์ ทางความคิดของประชาชนผู้เห็นต่างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
ป.ล. คำไว้อาลัยเขียนขึ้นเพื่อพูดในงานฌาปนกิจศพอากง ณ วัดลาดพร้าว วันที่ 25 สิงหาคม 2555 ในฐานะแขกรับเชิญ