ที่มา ไทยรัฐ
อภิสิทธิ์
"ถังแตก" แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเขินกับคำคำนี้ สั่งกำชับในที่ประชุม ครม. ให้รัฐมนตรีเร่งทำความเข้าใจกับสังคม
ฉุดอารมณ์ประชาชนไม่ให้แตกตื่น
แต่จากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า ล่าสุดรัฐบาลได้เห็นชอบให้ออกพระราชกำหนดเพิ่มเพดานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดันทะลุขึ้นไปถึง 10 บาทต่อลิตร
พร้อมกับเพิ่มเพดานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่เป็น 85 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยราคาบุหรี่เพิ่ม 11-16 บาท ต่อซอง
อาฟเตอร์ช็อก ระลอกสองต่อจากคิวขึ้นภาษีเหล้า เบียร์
เคลียร์บัญชีรวมภาษีทั้งสองรายการใหญ่ 7.5 หมื่นล้านบาท บวกกับ 6.3 พันล้านบาท ตัวเลขรวมอยู่ที่ 8 หมื่นกว่าล้านบาท
ยังไม่นับคิวของร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท เบ็ดเสร็จ 8 แสนล้านบาท
หน้ามืด ถอนขนห่าน นักสู้กู้สิบทิศ แล้วแต่จะจินตนาการกันไป
แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี่คือยุทธศาสตร์ตามแผนปฏิบัติการ "ไทยเข้มแข็ง 2555" ของรัฐบาลประชาธิปัตย์
เดิมพันไพ่ใบสุดท้ายลุยไฟกู้วิกฤติเศรษฐกิจ
ถ้ารั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ก็ตัวใครตัวมัน
แต่สำคัญก่อนอื่นเลย ในยามคับขันเงินทองหายาก ต้องปะตูดกันอุตลุด นายกฯอภิสิทธิ์ยังต้องเจอกับรายการ "วัดใจ"
ล้วงอ้อยออกจากปากช้าง
โดยเฉพาะงบประมาณของทหาร ตามสัญญาณที่ถูกส่งออกมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะลูกพี่ใหญ่ 3 เหล่าทัพ ออกมาตีกันล่วงหน้าหลังมีข่าวต้องถูกปรับลดงบประมาณ ยืนยันย้ำเป็นนัย ในเมื่อกองทัพได้รับมอบหมายภารกิจเยอะ
ก็ต้องสัมพันธ์กับงบประมาณที่รัฐบาลจัดให้
และทวงกันนิ่มๆตามสไตล์ของ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พูดถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ออกตัวในส่วนของกองทัพอากาศ มีความเข้าใจดี เนื่องจากส่งผลกระทบกับทุกกระทรวง ทบวง กรม
แต่ในบางโครงการที่เป็นโครงการงบประมาณผูกพัน จะต้องได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ คงจะต้องมีการร้องขอให้รัฐบาล ทบทวนอีกครั้ง พร้อมทั้งจะชี้แจงให้รัฐบาล ได้เข้าใจถึงความจำเป็น ดังเช่นโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริฟเฟน ลอตที่ 2 เพื่อให้ได้จำนวนครบ 12 ลำ 1 ฝูงบิน
"ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวกระทบต่อศักยภาพของกองทัพ เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์จะต้องทันสมัย หากเราต้องป้องกันประเทศ อาวุธที่สู้กันไม่ได้หรือล้าสมัยไปสู้กันก็ไม่มีใครเขาเกรงใจ"
และก็ไม่ลืมย้ำ จะไม่ส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ
พูดแกมขู่แกมปลอบยังไงชอบกล
ยังไม่พูดถึงคนของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยืนยันความจำเป็นในการใช้งบประมาณเพื่อภารกิจกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงที่ดูแลอยู่ ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ ของพรรคภูมิใจไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงเกษตรฯ ของพรรคชาติไทยพัฒนา กระทรวงอุตสาหกรรม ของพรรคเพื่อแผ่นดิน
โดนตัด โดนรีดหัวจ่าย กร่อยไปตามๆกัน
แน่นอน โดยผลจากสถานการณ์ "ถังแตก" สัญญาณการต่อสู้ กับวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่อเค้าว่า จะเอาไม่อยู่ ในขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ ต้องประคองเกมควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล
ยื้อไม่ให้ "วงแตก"
แม้แต่เกมเบี่ยงกระแสกันทื่อๆ จับทางกันง่ายๆ
ล่าสุดทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาปูดข่าวฝ่ายคอมมิวนิสต์เก่าส่งกองกำลังที่ถูกฝึกเข้ามาป้วนเปี้ยนในเมืองกรุงแล้ว
ปั่นภาพม็อบแดงให้น่าหวาดเสียวกว่าวิกฤติเศรษฐกิจ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน