ที่มา thaifreenews
โดย Porsche
by akausa
อำมาตย์มันส่งฆาตกรผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ไปปกครองตำรวจและประชาชนทั่ว ภาค 5
อันมี 8 จังหวัดคือ ภ.จว.น่าน, ภ.จว.พะเยา, ภ.จว.ลำปาง, ภ.จว.ลำพูน, ภ.จว.เชียงราย, ภ.จว.เชียงใหม่, ภ.จว.แพร่ และ ภ.จว.แม่ฮ่องสอน
แล้วก็กองบัญชาการตำรวจภาค 5(สำนักงานตั้งอยู่ที่เชียงใหม่)นี่แหละที่เป็นแหล่งรีดไถอันดับ 1
ทั่วทั้งภาคเหนือตอนบน
บ่อนการพนัน หวยเถื่อน โต๊ะแทงบอล ซ่องโสเภณี(มาในรูปของอาบอบนวด คาราโอเกะ) และผู้กระทำผิดกฎหมายต่างๆแม้เล็กน้อยจะโดนรีดไถทั้งนั้น
อันนี้ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามประชาชนในจังหวัดเหล่านั้นได้ รับรองว่า 6 ใน 10 คน เห็นด้วย
สมคิด บุญถนอมและพวกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ตั้งแต่ปี 2533 ตอนนั้น มียศแค่ พ.ต.ท.
เวลาล่วงเลยมาเกือบ 20 ปีจนคดีจะหมดอายุความจึงจะมาฟ้อง นัยว่าโดนทางการซาอุฯกระทุ้งเอา
ระหว่างนั้นจนบัดนี้ สมคิด บุญถนอม ก็ยังได้ดีในราชการตำรวจมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยศ พล. ต.ท. ในปัจจุบัน
พอไอ้สมเจตน์ผู้พี่ได้เป็นใหญ่ ก็ส่งผู้น้องมาเสวยสุข อยู่ที่ภาค 5 กระทำตัวเป็นขี้ข้าอำมาตย์เต็มร้อย
อะไรก็ไม่ว่า เมื่ออัยการสั่งฟ้องแล้ว หรือแม้แต่พัวพันในคดี ก็น่าจะมีคำสั่งให้พักราชการ
หรือไม่ก็เจ้าตัวต้องพิจารณาตัวเอง
นี่กลับยังอยู่ในตำแหน่งหน้าตาเฉย ฉะนั้นสมแล้ว ที่เสื้อแดงเชียงใหม่ระดมพลกันขับไล่
ภาคเหนือโดนกดขี่มากอย่างนี้…ก็น่าจะปลดแอกจากรัตนโกสินท์เสียให้รู้แล้วรู้รอด
เรามีความชอบธรรมทุกประการ…เป็นอานาจักรเป็นประเทศนานเท่าอยุธยาเป็นนั่นแหละ
ไม้ได้มีหัวรุนแรงอะไร…แต่เกลียดพวกอำมาตย์ พวกอภิสิทธ์ชนจริงๆ
อยากจะอ่านเรื่องราวของสมคิดอีกก็เชิญครับ :
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม
เพศ ชาย
วันที่เกิด 25 มีนาคม 2495
อายุ 57
พ. ต.อ.ทวี สอดส่อง สะบัดปากกาก่อนพ้นเก้าอี้ อธิบดีดีเอสไอ ขออนุมัติศาลออกหมายจับ
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 พร้อม 2 พ.ต.อ.คนสนิท คดีอุ้มนักธุรกิจ ซาอุฯ มอบหมายให้
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 13.30 น.
วันที่ 13 ตค. แต่ศาลให้ออกหมายเรียกแทน ผู้การมือปราบกร้าวกลับพร้อมสู้เพื่อปกป้องสิทธิเต็มที่
ชื่อ-สกุล พลตำรวจโท สมคิด นามสกุล บุญถนอม
วันเกิด : 25 มีนาคม 2495ที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ครอบครัว : เป็นบุตรของ นายสุชล และ นางสวง บุญถนอม (เสียชีวิตแล้วทั้งคู่)
การศึกษา : โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 28
การทำงาน /ตำแหน่งหน้าที่ :
16 กุมภาพันธ์ 2552 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5
และอื่นๆอีก อย่าไปสนใจเลย
ที่มา : http://board.kapook.com/viewthread.php?tid=9826
*****************************************************************
วันที่ 12 มกราคม 2553 14:04
ฟ้อง'พล.ต.ท.สมคิด'กับพวกฆ่าซาอุฯ-ศาลนัด29มี.ค.
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อัยการยื่นฟ้องศาล"ผบช.ภ.5–ผกก.สภ.สบเมย-กก.สภ.น้ำขุ่น-2ตร.นอกราชการ" อุ้มฆ่าพระญาติเจ้าชายไฟซอล "แหวน"หลักฐานใหม่ ศาลนัดตรวจหลักฐาน29มี.ค.
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 12 ม.ค. 53 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี นายตำรวจนอกราชการ และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ ประกอบอาชีพรับจ้าง
ผู้ต้องหาที่ 1-5 คดีร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ (Mr.Mohammad Al - Ruwaily) นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย พระญาติ...ไฟซาล ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 2533 เข้าพบนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ สั่งคดี โดยนายธนพิชญ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แจ้งให้ พล.ต.ท.สมคิด กับพวกซึ่งเป็นผู้ต้องหาทราบว่า คณะทำงานอัยการ พิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
ต่อมา เวลา 10.30 น. นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้นำจำเลยทั้งหมดมาเบิกตัวยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญาที่ตนได้กระทำไว้ , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 , 289 , 309 และ 310
โดยคำฟ้องอัยการ ระบุฟ้องความผิดจำเลยทั้งห้า สรุปว่า เมื่อประมาณปี 2530 เกิดความขัดแย้งขึ้นอย่างรุนแรงระหว่างรัฐบาลซาอุ ฯ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนนีย์ กับรัฐบาลประเทศอิหร่าน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ เนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนา รวมทั้งสาเหตุที่รัฐบาลซาอุฯ ทำการปราบปรามสลายการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกลุ่มมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่มาแสวงบุญที่เมืองเมกกะห์ ประเทศซาอุฯ ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่านเสียชีวิตจำนวนมาก
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่นักการทูตของรัฐบาลของประเทศซาอุฯ ในประเทศต่างๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ม.ค.32 เกิดเหตุคนร้ายลบฆ่านักการทูตของสถานเอกอัครราชทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย เสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดที่บริเวณ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตซาอุฯ ได้แจ้งขอร้องต่อรัฐบาลไทย ให้ดูแลรักษาความปลอดภัยแก่สถานเอกอัครราชทูตซาอุฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่นักการทูต อย่างเต็มที่ และแจ้งเตือนถึงกรมตำรวจในขณะนั้น และกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในเรื่องดังกล่าวหลายครั้ง
แต่ต่อมาวันที่ 1 ก.พ.33 เกิดเหตุคนร้ายลอบฆ่านักการทูตซาอุฯ อีก 2 ครั้ง ทำให้ นักการทูตของซาอุฯ เสียชีวิตรวม 3 ราย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตยานนาวา กทม. รัฐบาลไทยขณะนั้นสั่งการให้ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อธิบดีกรมตำรวจ ดำเนินการติดตามและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ ต่อมาระหว่างวันที่ 12-15 ก.พ.33 ต่อเนื่องกัน พล.ต.ท.สมคิด จำเลยที่ 1 ขณะนั้น มียศเป็น พ.ต.ท. ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก. กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครใต้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล , พ.ต.อ.สรรักษ์ จำเลยที่ 2 และ พ.ต.อ.ประภาส จำเลยที่ 3 มียศ ร.ต.อ. ดำรงตำแหน่ง รอง สว. ส่วน พ.ต.ท.สุรเดช จำเลยที่ 4 ยศ ร.ต.ท. ดำรงตำแหน่ง รอง สว. และ จ.ส.ต.ประสงค์ จำเลยที่ 5 ยศ จ.ส.ต. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ฆ่านักการทูตซาอุฯ ดังกล่าว โดยจำเลยทั้งห้า กับพวก ร่วมกันลักพาตัว นายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุฯ ประกอบธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศซาอุฯ เนื่องจากจำเลยทั้งห้า เข้าใจว่า นายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนักการทูตซาอุฯ เพราะมีความขัดแย้งกันเรื่องจัดส่งแรงงานไทย
โดยจำเลยทั้งห้าบังคับนำตัว นายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ ไปหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังไว้ที่โรงแรมฉิมพลี แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กทม. บังคับข่มขื่นใจใช้กำลังประทุษร้าย ชกต่อย และทำร้ายร่างกายโดยวิธีการต่าง ๆ มีวัตถุประสงค์ เพื่อซักถามข้อเท็จจริง เพื่อให้นายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่านักการทูตซาอุฯ ซึ่งจำเลยทั้งห้ามีเจตนาฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ จนถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดความผิดของตนในความผิดที่จำเลยร่วมกันลักพาตัวนายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ มาหน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้น ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ดังกล่าวมา
นอกจากนี้จำเลยทั้งห้า ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยทำร้ายร่างกายนายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ โดยวิธีการต่างๆ และร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ จนถึงแก่ความตาย สมดังเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และได้ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ โดยนำศพของ นายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ ไปเผาทำลายภายในไร่ ท้องที่ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อปิดบังการตาย หรือปิดบังสาเหตุของการตาย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตยานนาวา , แขวงและเขต บางกะปิ , แขวงคลองตัน เขตพระโขนง และที่ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เกี่ยวพันกัน
ต่อมา วันที่ 24 พ.ย.52 จำเลยทั้งห้าได้พบกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนแล้ว ซึ่งการสอบสวนรรวบรวมพยานหลักฐานพนักงานสอบสวนได้ยึดแหวนของนายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ ที่สวมใส่อยู่ขณะเกิดเหตุจำนวน 1 วง เป็นของกลาง โดยชั้นสอบสวนจำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ ท้ายคำฟ้องอัยการขอให้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย
และสั่งให้คืนแหวนของกลางให้กับทายาทของนายโมฮัมเหม็ด อัลรู-ไวลี่ ด้วย
ทั้งนี้ ศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.119/2553 ซึ่งศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งห้าฟังเพื่อสอบคำให้การ ปรากฏว่าจำเลยทั้งห้า ให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี โดยแถลงว่าจัดเตรียมทนายความไว้เรียบร้อยแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 29 มี.ค.นี้ เวลา 09.00น.
ต่อมา นายกมล ทรงเจริญ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของจำเลยทั้งห้า ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อขอประกันตัว พล.ต.ท.สมคิด กับพวกทั้ง 5 คน โดยยื่นเงินสดคนละ 500,000 บาท
ภายหลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด กับพวกแล้ว นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากที่นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดีนี้ โดยมีรองอัยการสูงสุด 2 คน ( นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล และ ร.ท.มนัส อุบลทิพย์ ) และตนซึ่งเป็นอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ดูแลการสั่งคดี ซึ่งจากการพิจารณาสำนวนพยานหลักฐาน รวมทั้งหลักฐานใหม่ที่ได้รวบรวมไว้ในสำนวนแล้ว คณะทำงานอัยการมีมติ เห็นว่าผู้ต้องหาทั้งห้า มีความผิด ซึ่งพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้จึงมีความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด ผบช.ภ.5 พร้อมพวกรวม 5 คนดังกล่าว
อย่างไรก็ดีที่ พล.ต.ท.สมคิด และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนดีเอสไอ นายธนพิชญ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และนายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ฟ้องกลับ ในความผิดฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการทำสำนวนหลักฐานนั้น นายธนพิชญ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ ซึ่งตนพร้อมจะแก้ต่างสู้คดีตามพยานหลักฐาน
เมื่อถามว่า เกรงว่าสุดท้ายคดีนายอัลรู-ไวลี่ จะจบเหมือนกับคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และรองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือไม่นั้น นายธนพิชญ์ กล่าวว่า พฤติการณ์คดีทั้งสองไม่เกี่ยวข้องกัน ขอให้อย่าเอาไปโยงกันเพราะเป็นคนละคดีกัน ซึ่งคดีนี้อัยการเห็นว่าพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ครบถ้วนแล้วจึงสั่งฟ้อง ขณะที่พยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นแหวนของนายอัลรู – ไวลี่ ที่รวบรวมไว้ในชั้นสอบสวนก็ตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนแล้ว
"เบื้องต้นได้รายงานความเห็นสั่งฟ้อง พลตำรวจโทสมคิด พร้อมพวกรวม 5 คน ต่อนายจุลสิงห์ อัยการสูงสุดแล้ว ส่วนนายกรัฐมนตรี คาดว่าน่าจะทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนแล้ว" นายธนพิชญ์ กล่าว
********************************
"สมคิด"มอบตัว คดีอุ้มอัลรูไวลี่
"พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม" พร้อมลูกน้องเก่ารวม 5 คน เข้ารับทราบข้อหาคดีอุ้ม"อัลรูไวลี่"จาก ดีเอสไอแล้ว 3 ข้อหาหนัก กักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่า ทำลายศพ แยกห้องสอบเครียดร่วม 2-3 ชั่วโมง ต่างให้การปฏิเสธ ขอสู้ในชั้นศาล หัวหน้าพนักงานสอบสวนมั่นใจพยานหลักฐานใหม่ที่ได้มา มีทั้งพยานบุคคลในและต่างประเทศ ขณะที่"สมคิด"ลั่นพร้อมท้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แฉดีเอสไอจะเอา"ป๋าลอ"ออกจากคุกมาเป็นพยานด้วย โฆษกดีเอสไอแถลง รับคดีเพชรซาอุฯ หาย เป็นคดีพิเศษแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ. สรรักษ์ หรือ สมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก. สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท. สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ เข้าพบพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติ...ไฟซาล ซึ่งหายตัวไปนานกว่า 19 ปี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีฆ่านายอัลรูไวลี่ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ และแยกสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง
พ.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า ตามแนวทางการสอบสวนของดีเอสไอ ซึ่งตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เชื่อว่านายอัลรูไวลี่เสียชีวิตแล้ว การสอบสวนยังพบพยานหลักฐานเพียงพอให้เชื่อว่าพล.ต.ท.สมคิดกับพวก เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลใต้ ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกบุคคลทั้ง 5 ให้มาพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาหน่วงเหนี่ยวกักขังนายอัลรูไวลี่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นทำลายศพ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 5 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะให้การต่อสู้คดีในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้เป็นที่วิจารณ์ว่าเป็นปา...่สร้างข่าว พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ดีเอสไอทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ มีอัยการมาร่วมสอบสวนตั้งแต่เริ่มต้นคดี คดีนี้ไม่สามารถสร้างหลักฐานหลอกลวงได้ เพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ ดีเอสไอขอยืนยันว่าไม่มีการสร้างกระแสหรือสร้างละคร แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่า อัยการจะเห็นด้วยกับสำนวน การสอบสวนของดีเอสไอ รวมทั้งเมื่อคดีไปถึงศาล จะมีการพิจารณาลงโทษตามแนวทางการสอบสวนหรือไม่ ในส่วนของดีเอสไอทำได้เพียงเร่งสรุปสำนวนคดี สั่งฟ้องภายในกลางเดือนธ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะประสานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งพักราชการผู้ต้องหาที่เป็นนายตำรวจระดับสูงไว้ระหว่างการพิจารณาคดีนี้หรือไม่ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะต้องหารือร่วมกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอก่อน เพราะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นตำรวจมากว่าค่อนชีวิต ที่สำคัญดีเอสไอไม่มีหน้าที่สั่งพักราชการตำรวจ หากดำเนินการอย่างใดลงไป อาจส่งผลกระทบกลับมายังดีเอสไอได้ สำหรับผู้ต้องหาที่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ ดีเอสไอจะไม่ควบคุมตัวไว้ หลังรับทราบข้อกล่าวหาจะปล่อยตัวกลับทันที
"ผมยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานใหม่ เป็นคำให้การของพยานบุคคลที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ หากคดีนี้มีความคืบหน้า เชื่อว่าทางการไทยและซาอุฯ จะสามารถฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตได้อีกครั้งหนึ่ง แรง งานไทยก็จะได้เดินทางไปทำงานในซาอุฯ ซึ่งเป็นตลาดแรงงานใหญ่ได้" พ.ต.อ.สุชาติกล่าว
ทางด้านพล.ต.ท.สมคิด กล่าวภายหลังเข้ามอบตัวและให้การกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอนานกว่า 3 ชั่วโมงว่า ตนพร้อมอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอ เพื่อเป็นหลักประกันให้สังคมรับทราบว่าตำรวจที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่มีสิทธิพิเศษ และไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย โดยตนยืนยันว่าบริสุทธิ์ เพราะเคยถูกดำเนินคดีนี้มาแล้ว การที่ดีเอสไอนำมาสอบสวนใหม่ โดยอ้างว่าคดีมีพยานบุคคลและพยานวัตถุ เพิ่มเติม ตนจึงไม่ขัดข้อง และดีใจที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าไม่ใช่คนร้ายลอยนวล ก่อนที่คดีจะขาดอายุความใน 4 เดือนข้างหน้า
ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ดีเอสไอนำตัวพ.ต.ท.สุวิชัย แก้วผลึก จำเลยในคดีฆ่าขบวนการต่อต้านลาว หลบหนีโทษจำคุกตลอดชีวิต คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ มาเบิกความลับหลังจำเลย ไม่ให้โอกาสตนได้ตั้งทนาย ความซักค้าน โดยอ้างต่อศาลว่าเป็นพยานปากสำคัญ หากไม่เร่งสอบคำให้การจะส่งผลเสียหายต่อคดี และภายหลังการเบิกความ ก็ไม่ควบคุมตัวพ.ต.ท.สุวิชัยส่งเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาล แต่กลับปล่อยตัวไป ซึ่งการทำงานดังกล่าวอาจไม่ตรงไปตรงมาตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สมคิด กล่าวอีกว่า การสอบสวนของดีเอสไอ ยังพยายามทำหนังสือขอปล่อยตัวชั่วคราวพล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จำเลยที่ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลหลายครั้ง โดยอ้างว่าจะนำตัวพล.ต.ท.ชลอออกมาช่วยสืบสวนในคดีนี้ พร้อมทั้งทำคำรับรองว่าดีเอสไอจะดูแลจำเลยไม่ให้หลบหนี โดยมีมาตรการคุ้มครองพยานเสริมด้วย ซึ่งในประเด็นของพล.ต.ท.ชลอนั้น ตนไม่แน่ใจว่ามีการต่อรองแลกเปลี่ยนอะไรกันหรือไม่ ดังนั้น ตนจึงทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังสำนักงาน ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ
"ผมไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับพยานในคดีนี้ ในอดีตพยานปากนี้เคยให้การเลื่อนลอยว่า ได้ยินลูกน้องของผมพูดกันในวงสุราว่าได้นำตัวนักธุรกิจชาวซาอุฯ ไป แต่เมื่อสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้อง พบว่าพยานปากนี้ให้การลอยๆ เท่า นั้น ดังนั้นการนำพยานปากเดิมซึ่งกลับคำให้การใหม่ มาใช้รื้อฟื้นคดี จึงไม่น่าจะถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผมจะฟ้องกลับเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองจนถึงที่สุด" พล.ต.ท.สมคิดกล่าว
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ แถลงผลการประชุมคดีพิเศษประจำเดือนพ.ย.ว่า สืบเนื่องจากนายเกรียงไกร เตชะโม่ง ถูกดำเนินคดีอาญา กรณีลักทรัพย์เครื่องประดับและอัญมณี รวมทั้งสิ่งของมีค่าอื่น จากพระราชวังเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อับดุลอาซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยในการติดตามและนำทรัพย์สินส่วนหนึ่งคืนทางการซาอุฯ นั้น ปรากฏว่ายังมีทรัพย์สินบางรายการที่ยังสูญหาย ซึ่งประเทศซาอุฯ ได้ร้องขอให้ประเทศไทยให้ติดตามทรัพย์สินดังกล่าว เบื้องต้นผู้ครอบครองจะมีความผิดฐานรับของโจร โดยบอร์ดกคพ.พิจารณาแล้ว เห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุฯ จึงมีมติให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ
วันเดียวกัน นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์ให้นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ปี 2533 เป็นบุคคลสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่า หากดีเอสไอแจ้งความประสงค์กลับมาว่าจะให้ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อ ขณะที่ตามกฎหมายจะครบการยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ อัยการต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 30 วัน
ที่มา :http://board.postjung.com/445495.html
อยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม :
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/897
http://hilight.kapook.com/view/42528
http://www.moj.go.th/th/cms/detail.php?id=10047
http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTEzNDI4OCZudHlwZT10ZXh0
http://serichon.com/board/index.php?topic=30496.0
และอีก 86,100 หัวข้อสำหรับ พล ต.ท. สมคิด บุญถนอม. ที่นี่ :
http://www.google.com/search?hl=en&source=hp&q=%E0%B8%9E%E0%B8%A5+%E0%B8...
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/17103