WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, January 31, 2012

ตัดสินอีกคดีทหารซ้อมเหยื่อดับ ศาลปกครองสั่งชดใช้กว่า 5 แสน

ที่มา ประชาไท

ศาลปกครองสงขลา สั่งสำนักนายกฯ ชดใช้ให้แม่อัสฮารี สะมาแอ กว่า 5 แสนบาท คดีทหารซ้อมทรมานจนตาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2555 ที่ห้องพิจารณาคดี 1 ศาลปกครองสงขลา นายโสภณ บุญกูล ตุลาการผู้แถลงคดี ขึ้นนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีนางแบเดาะ สะมาแอ มาดาของนายอัสฮารี สะมาแอ ผู้เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงกลาโหม กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึง 4 เป็นเงินรวมประมาณ 1,000,000 บาท ฐานการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 คดีหมายเลขดำที่ 39/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 14/2555

โดยมีผู้ฟ้องคดีและทนายมาศาล ส่วนตัวแทนผู้ถูกฟ้องคดีไม่มาศาล แต่มีเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จำนวนหนึ่งมาร่วมฟังคำพิพากษา

ศาลพิพากษาสรุปว่า พิพากษาให้สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดแก่ผู้ฟ้องคดีเป็นเงินจำนวน 534,301.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 497,500 บาท นับตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด และให้ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึง 3

ศาลพิพากษาสรุปว่า คดีนี้ ผลการตรวจร่างกายนายอัสฮารีจากแพทย์ระบุว่า มีรอยช้ำที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง แพทย์ระบุว่าไม่น่าจะเกิดจากการลื่นล้ม ประกอบกับผลการตรวจร่างกายผู้ที่ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายด้วย จึงเชื่อว่านายอัสฮารีถูกทำร้ายร่างกาย โดยผลการตรวจสมองของโรงพยาบาลสิโรรส พบว่านายอัสฮารีมีเลือดคั่งในสมอง จึงถูกส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา แต่เนื่องจากนายอัสฮารี ไม่มีบัตรประชาชน ประกอบกับติดต่อญาติไม่ได้ โรงพยาบาลศูนย์ยะลาจึงไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากไม่มีญาติยินยอม นายอัสฮารีเสียชีวิตในวันต่อมา

ศาลพิพากษา สรุปว่า นายอัสฮารี ถูกทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กับหน่วยเฉพาะกิจที่ 13 ร่วมกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรปะแต่ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา จับกุมบริเวณสวนยางพารา หมู่ที่ 5 บ้านจาเราะซีโป๊ะ ตำบลสะเอะ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จากนั้นนำไปสอบสวนที่ศูนย์วิวัฒน์สันติ ในค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมาคืนวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 เจ้าหน้าที่นำตัวนายอัสฮารี ไปส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี จากนั้นถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จนกระทั่งเสียชีวิตในวันต่อมา

นางแบเดาะ เปิดเผยว่า พอใจกับคำพิพากษา และจะไม่ขออุทธรณ์ในส่วนที่ศาลมิได้พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าขาดแรง งานในครัวเรือน เป็นเงิน 576,000 บาท

ทนายจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า ในส่วนของคดีไต่สวนการตายของนายอัสฮารี ที่ศาลจังหวัดยะลา ขณะนี้การพิจารณาคดียังสิ้นสุด โดยศาลนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องปากสุดท้ายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.00 น.