ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
วันนี้หากเป็นสงคราม (จริงๆ มันก็คือสงคราม ที่จริงสงครามมันเป็นแค่เครื่องมือชนิดหนึ่งของการต่อสู้กันทางการเมือง) การเมืองไทย จากสงครามที่คิดว่าจะชนะได้ในเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นสงครามยืดเยื้อไปเรียบร้อยแล้ว
จากที่ต่อสู้กับทักษิณ และอิทธิพลของทักษิณ
วันนี้ กลายเป็นการต่อสู้กับ "ปัญญาชน" ในประเด็น "เสรีภาพในการแสดงความเห็น" เสรีภาพในการคิดและความเชื่อ เป็นประเด็นทางอุดมการณ์ไปเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ จะด่าว่า "ปัญญาชน" ตั้งแต่ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่ก่อนหน้านี้สัก 3-4 ปีที่แล้ว เป็นพวกตรงข้ามกับทักษิณ แล้วสลับมาอยู่ตรงกลาง วันนี้กลายเป็นหนึ่งใน 112 คน ที่เป็นแนวรบใหม่ในการต่อสู้กับอำมาตย์
หนึ่งสงคราม สองแนวรบ แนวรบทักษิณกับผู้ศรัทธาทักษิณ แนวรบนักวิชาการปัญญาชนก้าวหน้า สองแนวรบแรงๆ ทั้งสิ้น
แนว รบปัญญาชน ควรที่จะต่อสู้กันด้วยปัญญาในโลกยุค "ข้อมูลข่าวสาร" แต่กลับเลือกใช้ "การปิดกั้นสถานที่" การใส่ร้ายกันเหมือนนักการเมือง
วันนี้ ไม่มี "ผีคอมมิวนิสต์" จะปลุกผีตัวไหนมา ผีตัวไหนก็ไม่น่ากล้าต่อประชาชนแล้วในวันนี้ นอกจากปีอำมาตยาธิปไตย ที่น่ากลัวเป็นที่สุดสำหรับประชาชน
จะรับมืออย่างไร ใช้กำลังดิบๆ ชนอย่างนั้นหรือ
วันนี้ โลกเชื่อมโยงกันด้วยระบบอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ข่าวสารปิดกั้นไม่ได้ "สารที่ทรงไว้ซึ่งปัญญาของนิติราษฎร์ ต่อต้านไม่ได้ด้วยกำลังหรือการบิดเบือน เพราะพวกอำมาตย์ปิดกั้นข่าวสารไม่ได้อีกต่อไป"
ไม่ให้เขาใช้ห้อง ประชุมธรรมศาสตร์ นิติราษฏร์อาจประยุกต์ใช้ "เทคโนโลยี Youtube จัดแถลงการณ์ที่ไหนแล้วให้ "คุณม้าเร็ว Speedhorse ไปถ่ายทอดให้ก็ได้ ผู้เข้าร่วมประชุมในห้องจริงๆ ไม่ต้องมากก็ได้สัก 30-40 คนก็พอ เพื่อซักถามประเด็น แล้วถ่ายทอดผ่านเว็บ ผ่านยูทูปต์ ผมว่ามันก็ได้ผลพอๆ กัน
มันไม่จำเป็นต้องใช้หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ก็ได้
แนะนำให้ไปจัดแถลงการณ์ต่อไปที่ ร้านอาหาร "บ้านประภัสสร" หรือร้านอาหารใหญ่ๆ ที่ไหนสักแห่งก็ได้
ผมว่ามีร้านอาหารเสื้อแดงที่เต็มใจให้จัดถมเถไป
วันนี้แนวรบขยายตัว ยิ่งสู้ยิ่งขยายศัตรูออกไปเรื่อยๆ
ผู้รักประชาธิปไตย และเสรีภาพ ย่อมมีอยู่อย่างไม่สิ้นสุด
ยิ่งปิดกั้นเสรีภาพ มันยิ่งขยายตัว
ยิ่งขมขู่ คนก็ยิ่งสู้