WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 25, 2008

เบิกร่อง [25 ก.พ. 51 - 20:49]

จากนี้ไปคงได้เห็นอะไรดีๆมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ เข้าบริหารประเทศเต็มตัว นอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจที่ดูจะเน้นเป็นพิเศษ ไล่มาตั้งแต่นายกฯและบรรดารัฐมนตรีก็ประกาศนโยบายเฉพาะตัวกันเพียบ

นี่เป็นด้านหนึ่งที่ต้องรอดูฝีมือว่าจะแน่สักแค่ไหน?

แต่ในความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและแน่นอนก็คือ การโยกย้ายข้าราชการไม่ว่าหน่วยงาน ไหนก็ตาม แม้แต่ในกองทัพก็น่าสนใจไม่น้อย ตำรวจก็น่าสนใจไม่น้อย

นายกฯประกาศชัดเจนไปแล้ว ข้าราชการที่ถูกกลั่นแกล้งในยุค คมช.จะต้องได้รับความเป็นธรรม และก็ได้ผลทันตาเมื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรียุติธรรม ประเดิมเก้าอี้ด้วยการ ย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

ครับ...ไม่มีเซอร์ไพรส์ เพราะเชื่อว่าถูก “เด้ง” แน่

แต่ทีเด็ดมันอยู่ที่ว่า นายสมพงษ์กล้าหาญชาญชัยเปิดประตูสำคัญเป็นคนแรก จากนี้ไปรายต่อไปมันก็ง่ายเข้า เพราะมีคน “เบิกร่อง” ไว้แล้ว

ปลัดกระทรวงยุติธรรมที่กำลังพยายามขอโอนกลับไปเป็นผู้พิพากษา แต่ดูเหมือนเงื่อนไขยังไม่อำนวย เพราะคงรู้ตัวล่วงหน้าแล้วว่าจะรายถัดไป

อีกรายก็คือ ผบ.ตร. ที่ชื่อ “เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ที่มาจาก คมช.เต็มตัว และคาดกันว่าน่าจะถูกปลดเป็นรายต่อไป แต่ดูเหมือนว่ารายนี้ไม่ใช่ธรรมดา เพราะมีการต่อสายกันมานานแล้ว และผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ได้เข้มข้นแต่อย่างใด

มีแต่หาเสียง โกยคะแนนจากตำรวจ สร้างภาพพจน์ใหม่ หาการเมืองมาเป็นพวก ภาพมือปราบหายไปอย่างน่าประหลาด คดีตำรวจพิฆาตชาวบ้านถึงเพียบ

นั่นเพราะจะตัดช่องน้อยเอาดีทางการเมืองในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

ในแวดวงกองทัพซึ่งจะต้องมีการโยกย้ายกลางปีคือเมษายนที่จะถึงนี้ แม่ทัพนายกองก็เตรียม พร้อมที่จะพิจารณาเรื่องนี้ภายใต้ กติกาใหม่ที่จะมีคณะกรรมการ 7 คนตัดสิน ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วจะมั่นคงแค่ไหนที่จะไม่ให้การเมืองเข้าแทรกได้

แต่เชื่อว่าคงจะมีการพูดคุยกันก่อนเบื้องต้นในสถานการณ์ ทางการเมืองที่ต้องการประนีประนอมมากกว่าจะเผชิญหน้า

นายกฯสมัคร สุนทรเวช ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม ดูเหมือนจะเล่นบทกลมกลืนกับ เหล่าทัพได้อย่างดี ดังนั้น จะมี “ลูกเกรงใจ” เกิดขึ้นแน่ เพราะกองทัพแม้จะถอยไปแล้ว แต่ก็ยังกลัวเช็กบิลเหมือนกันและการจะสู้กับการเมืองจากนี้ไป

บอกตรงๆว่ายาก...

ขณะเดียวกัน วันนี้ภาพชัดเจนใน คมช.ก็คือ ความแตกแยกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยถึง ความขัดแย้งระหว่างเพื่อน ความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. กับ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร แกนนำคนสำคัญ ดีที่ว่าไม่ฟาดปากกันเองในระหว่างมีอำนาจ ดังนั้น คงจะไม่มีน้ำยาไปทำอะไรได้แล้ว แม้ประธาน คมช.ยังติดต่อขอสมานฉันท์กันไปแล้ว

ระยะอันใกล้นี้เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะต้องเดินทางกลับประเทศไทย อย่างแน่นอน เพราะน่าจะเป็นเงื่อนไขที่ดีที่สุดแม้จะต้องเข้ามาต่อสู้คดีก็ตาม ดังนั้น หากกองทัพไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็น่าจะเอื้อประโยชน์

ที่สำคัญก็คือ คงจะทำให้การเมืองคลี่คลายมากขึ้น โดยเฉพาะรัฐบาลที่จะสามัคคีกันมากขึ้น เมื่อตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว ปัญหาในพรรค ปัญหาในรัฐบาลคงชัดเจนขึ้น ไม่คลุมเครืออย่างทุกวันนี้

เตรียมตัวรับสถานการณ์กันได้แล้ว.

"สายล่อฟ้า"

คอลัมน์ กล้าได้กล้าเสีย