ในอารมณ์ของคนที่มีอันต้องซัดเซพเนจรจากแผ่นดินมาตุภูมิ พลัดพรากครอบครัวอันเป็นที่รักไป 1 ปี 5 เดือนกว่าๆ ถึงขนาดก้มลงกราบแผ่นดินทันที ณ นาทีที่กลับมาเหยียบอยู่บนผืนปฐพีไทย น้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน
ชีวิตพลิกผันจากวันที่เดินทางออกนอกประเทศไทยในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่กลับมาต้องถูกตำรวจประกบพาตัวไปมอบตัวต่อศาล ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือเหมือนอาชญากรทั่วไป
โดนการเมืองเล่นซะอ่วมอรทัย
ก็ไม่น่าแปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะประกาศเลิกเล่นการเมือง ย้ำแล้วย้ำอีกเป็นสิบๆรอบ ได้ยินกันไปทั่วโลก
แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่ออยู่ดี
ไม่ต้องพูดถึงยี่ห้อพันธมิตรม็อบไล่ “ทักษิณ” ที่ไม่มีหน้าที่เชื่อคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว และในอารมณ์ใกล้เคียงกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่โดยจุดยืนไม่มีทางวางใจคำพูดของอดีตนายกฯง่ายๆ
ที่น่าสนใจก็คือพวกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย มุมมองของสื่อมวลชนต่างประเทศ สะท้อนจากบทวิเคราะห์ของนายโจนาธาน เฮด นักวิเคราะห์และผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเทพฯ มองว่า การที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ออกมาบอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกนั้น ไม่น่าจะทำได้จริงตามที่ได้แถลงเอาไว้
เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณมีบทบาทและมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะช่วง 5-6 ปีมานี้ ประชาชนโดยเฉพาะในชนบทที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยให้ทั้งความรักและการสนับสนุนนับสิบล้านคน
อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินรายสำคัญกับพรรคพลังประชาชน พรรคแกนนำรัฐบาลของไทยในขณะนี้ ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคมที่แล้ว
ดังนั้น เมื่อพิจารณาหลายองค์ประกอบข้างต้นแล้ว จึงมีความมั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องหวนคืนเวทีการเมืองของไทยอย่างแน่นอนในอนาคต
สื่อฝรั่งฟันธงทะลุเลย
เบื้องต้นประเมินกันง่ายๆ เหล่าขุนศึกสายตรงนายใหญ่ที่เกาะเอวซ้ายเกาะเอวขวา ลากกระเตงกันขึ้นมาใหญ่ในยุครัฐบาลไทยรักไทยรุ่งโรจน์ พรวดพราดขึ้นชั้นมายืนอยู่แถวหน้าๆ
ปัญหาก็คือ ถ้าไม่มี “ทักษิณ” ก็ไม่มีที่ยืนทางการเมือง
ยังไงก็ต้องตื๊อให้นายใหญ่ลุยต่อ
ไหนจะนักเลือกตั้งในเครือข่ายอดีตพรรคไทยรักไทยที่จำเป็นต้องอาศัยการพะยี่ห้อ “ทักษิณ” เป็นจุดขาย โดยเฉพาะฐานใหญ่ในภาคอีสานกับภาคเหนือ
ขาด “ทักษิณ” ก็แทบขาดใจ
ยังไงก็ไม่เชื่อว่า “ทักษิณ” จะเอาหูทวนลม กับเสียงเรียกร้องของแฟนพันธุ์แท้รากหญ้า ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา แม้จะโดนล็อกทุกวิถีทาง แต่ด้วยศรัทธาในยี่ห้อ “ทักษิณ” พรรคพลังประชาชนแหกด่านโหดเข้ามาเป็นแกนนำจัดรัฐบาลได้
ปัจจัยหลักคือประชาชนในระดับกลางลงไปถึงระดับรากหญ้าพร้อมใจกันสวนหมัดฝ่ายยึดอำนาจ เลือกพรรคพลังประชาชน เพราะติดใจในผลงานรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และเชื่อมั่นในกึ๋นบริหาร
อยากได้คนชื่อ “ทักษิณ” กลับมาฟื้นประชานิยม
คืนความกินดีอยู่ดี
เหนืออื่นใด กับประโยคที่อดีตนายกฯทักษิณตั้งใจเน้นเป็นพิเศษ
“การกลับมาในวันนี้ ผมไม่ต้องการที่จะเข้ายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แม้จะมีบางคนสงสัย และที่เป็นห่วงว่าผมจะกลับมาแข่งขันทางการเมือง ให้สบายใจได้ว่า ต่อไปนี้ผมจะขอใช้ชีวิตกับครอบครัว ปีนี้ก็อายุ 59 ปีแล้ว”
“ทักษิณ” ให้สบายใจไม่แข่งใคร
ในทางตรงกันข้าม คู่ต่อสู้นี่แหละจะเป็นแรงกระตุ้นให้ เลิกไม่ได้
โดยเกมเลยเหล่าอำมาตยาธิปไตยที่จะต้องใช้ยุทธศาสตร์ยื้อยุดฉุดกระชากกับ “ทักษิณ” เป็นเงื่อนไขในการรวมศูนย์อำนาจ ชิงการนำประเทศไทย
ต้องไล่บี้ไล่ต้อนให้ “ทักษิณ” จนตรอก แหย่ให้ออกจากมุมมาบู๊กัน
มุกเดียวกันกับคู่อริทางการเมือง เหล่าพันธมิตรม็อบไล่ที่จำเป็นต้องอาศัยเกมถล่ม “ทักษิณ” เป็นแรงกระตุ้นกลุ่มคนระดับกลางถึงระดับบนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ
เพื่อเป็นฐานการชิงพื้นที่ยืนทางการเมือง.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)