นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลฏีกา วินิจฉัยชี้ขาดการทุจริตการเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงราย ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตามกฎหมายขณะนี้ถือว่ายังไม่มีผล จนกว่ากกต.จะยื่นคำร้อง และศาลฏีการับเรื่องไว้พิจารณา เมื่อถึงตรงนั้นนายยงยุทธจึงจะหยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่ไม่กระทบกับการดำรงตำแหน่ง หากศาลฏีกายกคำร้อง นายยงยุทธก็สามารถกลับมาปฎิบัติหน้าที่ต่อไป แต่ถ้าศาลฏีกามีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ต้องมีการเลือกประธานสภาฯกันใหม่ ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงขั้นต้นการกล่าวหาของ กกต.แต่ยังไม่ได้ชี้ขาด และเป็นคนละกรณีก่อนที่จะประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้ถือว่าคำวินิจฉัยของ กกต.ถือเป็นที่สุด เมื่อเป็นอำนาจเด็ดขาดต้องใช้เสียงถึง 4 ใน 5
เมื่อถามถึงความเหมาะสมที่นายยงยุทธจะอยู่ปฎิบัติหน้าที่ต่อไป นายมีชัย กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่เมื่อขั้นตอนยังไปไม่ถึง ก็ต้องให้เขาปฎิบัติหน้าที่ต่อไป ถ้าไม่ทำก็จะเกิดปัญหา เพราะขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายที่วุฒิสภาจะเข้ามา แทน สนช.ซึ่ง สนช.จะหมดวาระในวันที่ 2 มี.ค. ในช่วงนี้ก็จะยังไม่มีประธานวุฒิสภาเข้ามาทำหน้าที่รองประธานรัฐสภา เพราะตามกฎหมายคนที่จะรักษาการในตำแหน่งประธานรัฐสภาได้ ก็คือ ประธานวุฒิสภาที่เป็นรองประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ถ้าไม่มีก็จะเกิดปัญหาในการเรียกประชุมรัฐสภา และการบริหารกิจการรัฐสภา แต่ถ้าเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป ให้รองประธานสภาฯรักษาการแทนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงสะท้อนว่า คนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ควรคดีติดตัว นายมีชัย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเมื่อส.ส.ได้เลือกประธานของเขา ก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุภายหลัง ก็ต้องรอให้กฎเกณฑ์ต่าง ๆมันยุติก่อน เมื่อยังไม่ถึงจุดสุดท้ายจะไปว่าอะไรให้เขาเสียหายคงไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า เป็นบทเรียนให้กับพรรคการเมือง และนักการเมืองที่จะเลือกคนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า คงพูดยาก เพราะการคัดเลือกก็เป็นไปตามกลไก แต่อยู่ที่พรรคการเมืองจะตัดสินใจกันอย่างไร
" ต้องมาคิดกัน คือการประกาศสอยที่หลังการรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้วมันเหมาะสมหรือไม่ เราควรจะมีกลไกที่จะต้องทำให้เสร็จก่อนการประกาศรับรองผล ซึ่งจะต้องให้เวลาทำ เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่า มีส.ส.ร้อยละ 95 ก็สามารถเปิดสภาได้ ส่วนอีกร้อยละ 5 ก็ไม่ต้องประกาศรับรองได้ หากสงสัยใครว่ามีปัญหา ก็อาจจะยังไม่ประกาศรับรอง รอทำให้ทุกอย่างเสร็จก่อน ซึ่งอาจใช้เวลา 5-6 เดือน หากทำอย่างนี้ กกต.ก็จะไม่ถูกกดดันมาก และถ้าทุกอย่างทำเสร็จก่อนเลือกประธานสภาฯ ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เพราะกลไกของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายการเลือกตั้ง มีสองขะยัก ดังนั้นในวันข้างหน้าหากใครคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ควรศึกษาแล้วแก้ไข เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป"นายมีชัย กล่าว
เพื่อไทย
Wednesday, February 27, 2008
‘มีชัย'ยัน‘ยงยุทธ'ยังปฎิบัติหน้าที่ประธานสภาฯได้
จาก hi-thaksin