ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
10 มีนาคม 2553
เมื่อเย็นวันนี้ ที่สถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ได้แถลงข่าวเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล กรณีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง ว่า “ขณะนี้สังคมกำลังเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นใน 1 – 2 วันนี้ และต่างก็พยายามเสนอความคิดเห็น วิธีป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งผมคิดว่าก็ควรจะส่งเสริมให้ทุกฝ่ายได้ใช้ความพยายามกันอย่างจริงจังต่อไป"
ขณะเดียวกันได้มีการโหมกระพือข่าว สร้างกระแส จนทำให้บรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้มีความน่ากลัวจนเกินจริงไปมาก
อยากให้ทุกฝ่ายตั้งหลักว่า การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ จึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ก็ยังเป็นความจริงด้วยว่าในปัจจุบันผู้คนมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และสังคมไทยยังไม่สามารถหาทางออกที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับกติกา และการปกครองอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ได้
การเคลื่อนไหวชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ จะมีผลอย่างไรย่อมขึ้นกับการกระทำ – ท่าทีของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนของผู้ชุมนุมนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่แกนนำของนปช.และเสื้อแดงได้ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงจะยึดหลักสันติวิธีเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าเมื่อเหตุการณ์พัฒนาไปก็ยังต้องมีความจำเป็นต้องตอกย้ำ ยืนยันแนวทางสันติวิธีอย่างจริงจังต่อไปหากมีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆขึ้น แกนนำเสื้อแดงควรรีบออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนด้วยการยืนยันการเคลื่อนไหวด้วยแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ข้อเรียกร้องเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ
นอกจากนี้ อยากเสนอให้ระมัดระวังการแทรกแซงของมือที่สาม และการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาลหรือคนของรัฐบาล ซึ่งอาจทำได้โดยการเตรียมการเกี่ยวกับเครื่องมืออุปกรณ์ในการบันทึกภาพ – เสียง และการส่งข่าวต่อกันที่มีประสิทธิภาพ
ในส่วนของรัฐบาล ผมเป็นห่วงว่ารัฐบาลกำลังปฏิบัติตามแผนทำลายความชอบธรรมของคนเสื้อแดงเพื่อเอาชนะทางการเมือง จับกุม คุมขัง เพื่อดำเนินคดีรวมทั้งปราบประชาชนด้วยความรุนแรง รัฐบาลไม่ควรย่ามใจจากการที่เป็นฝ่ายประสบความสำเร็จในการจัดการกับประชาชนเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาจนทำอะไรเกินเลยตามอำเภอใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงตามมาได้ เพราะหากรัฐบาลใช้วิชามารสารพัดเพื่อเอาชนะและปราบประชาชนจริง เรื่องก็จะไม่จบและจะลุกลามบานปลายไปยิ่งกว่าเดิม
จึงเสนอว่า รัฐบาลไม่ควรโหมกระพือข่าวให้เห็นว่าผู้ที่จะมาชุมนุมเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองเหมือนเป็นโจรผู้ร้าย รวมทั้ง รวมทั้งไม่ควรสร้างภาพให้ดูน่าหวาดกลัวจนเกินจริง
รัฐบาลไม่ควรปิดกั้นสื่อหรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือของตนแต่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะสื่อของรัฐควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เสนอความคิดเห็นของตนได้ จะได้ไม่ทำให้คนรู้สึกถูกบีบคั้นกดดันจนอาจปะทุเป็นความโกรธแค้นและตอบโต้ได้
รัฐบาลต้องกำชับผู้เกี่ยวข้องไม่ให้สร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้แก่ผู้ชุมนุมเพื่อทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุม
ปัญหาเฉพาะหน้าที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การสร้างสถานการณ์หรือฉวยโอกาสสร้างเหตุกระทบกระทั่งหรือความรุนแรงเพื่อนำมาใช้เป็นเหตุผลในการประกาศใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเข้าจัดการกับการชุมนุมด้วยวิธีต่างๆได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวมทั้งจะทำให้การชุมนุมของประชาชนกลายเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายโดยทันที
อยากจะเตือนรัฐบาลว่า หากรัฐบาลเดินหน้าไปในทางที่สร้างเงื่อนไขเพื่อทำลายความชอบธรรมของประชาชน เพื่อปราบประชาชน คล้ายกับที่เคยทำเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว เพราะถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้เปรียบในทุกด้าน ทั้งกำลังอาวุธ เครื่องมือกลไก สื่อของรัฐ แต่หากรัฐบาลจัดการด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรมแล้ว ไม่ว่าผลการชุมนุมจะเป็นอย่างไร ประชาชนจำนวนมากก็จะยังไม่ยอมรับกติกาและการปกครองของรัฐบาลนี้อยู่ดี และบางทีอาจจะเกิดความไม่พอใจ ไม่ยอมรับอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โดยที่สังคมก็จะยังอยู่ในสภาพขัดแย้ง เผชิญหน้า ไม่สิ้นสุด
0000