ที่มา ประชาไท 12 มี.ค. 2010 บลูมเบิร์กพาดหัวข่าวว่า "ผู้ประท้วงในไทยชุมนุมใหญ่ท้าทายอภิสิทธิ์" (Thai Protesters Mass in Largest Challenge to Abhisit) โดยในเนื้อหาข่าวมีการสัมภาษณ์ ศิริวร นิมิตรศีลมา คนไทยเกษียณอายุผู้อยู่ในสหรัฐฯ 46 ปี และกลับประเทศไทยในปี 2006 ซึ่งได้ให้ความเห็นว่า พวกเขาต้องการประชาธิปไตยและต้องการอดีตนายกฯ ทักษิณ กลับคืนมา "เขา (ทักษิณ) เป็นนายกรัฐมนตรีในดวงใจของพวกเรา ถ้าหากอภิสิทธิ์คิดว่าเขาเป็นตัวแทนของเสียงข้างมาก เขาควรให้มีการเลือกตั้ง ทำไมเขาไม่คืนอำนาจให้กับประชาชน" ขณะเดียวกัน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ฮิวจ์ ยังก์ ให้สัมภาษณ์กับ บลูมเบิร์กว่า สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และเขาเป็นห่วงในสถานการณ์เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจนและไม่มีท่าทีว่าจะสามารถระนีประนอมกันได้ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ วินเซนต์ โฮ จาก Fitch Ratings บอกว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองในครั้งนี้ชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม ขณะเดียวกันเขาก็บอกว่าผลกระทบจากการชุมนุมในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดูถูกไม่ได้ ด้าน โรเบิร์ท บอร์ดฟุต ผู้อำนวยการ ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง บอกว่าการเลือกตั้งจะเป็นทางออกที่ดี แต่ตอนนี้ก็ยังการันตีอะไรไม่ได้ นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า "คุณไม่สามารถมีกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่งในเขตเมือง และอีกกลุ่มหนึ่งในเขตชนบท แล้วก็มาตีหัวกัน" นอกจากนี้ยังได้สัมภาษณ์ เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำทางโทรศัพท์โดย เหวงบอกกับบลูมเบิร์กว่า ผู้ชุมนุมจะชุมนุมอย่างสันติ ไม่เหมือนเมื่อปีที่แล้วที่ทหารเข้ามาปราบการชุมนุมจนทำให้เกิดการจลาจล "ใครก็ตามที่มาพร้อมอาวุธ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่มเรา" เหวงกล่าวกับบลูมเบิร์ก "พวกเราต้องการแค่การเลือกตั้งใหม่ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น" ที่มา (จากส่วนหนึ่งของ)
Thai Protesters Mass in Largest Challenge to Abhisit (Update2), Bloomberg, Daniel Ten Kate, 12-03-2010