ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 ตุลาคม 2553
นาย สุรชัย ด่านวัฒนานุสรน์ (แซ่ด่าน) แกนนำแดงสยาม จะจัดกิจกรรมเสวนาเรื่อง"ไล่ล่า(ฆ่า)ตัดตอนด้วยคดีเก่า"ในวันพุธที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 13.00 น. ที่ชั้น 5 บิ๊กซี ลาดพร้าว พร้อมกันนั้นจะเปิดแถลงข่าว เรื่องเขาถูกฟ้องดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กลุ่มผู้สนับสนุนนายสุรชัยได้นัด หมายกันในวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคมนี้ ในเวลา 09.00 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกเพื่อร่วมกันให้กำลังใจนายสุรชัยในวันที่อัยการสั่งฟ้องคดี หมิ่นฯ และได้เชิญชวนประชาชนผู้รักความเป็นธรรมร่วมกันให้กำลังใจแก่นายสุรชัยในวัน เวลาดังกล่าวด้วย
นายสุรชัยเคยให้สัมภาษณ์รายการวิทยุแท็กซี่เรดิโอ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2552 ถึงคดีกังกล่าวนี้ว่า ในวันดังกล่าวนั้น เขาโดนคนไปแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตัวเขาเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวประชาธิปไตยอีกรายที่ตกเป็นเหยื่อคดีนี้ แม้ว่านักวิชาการและปัญญชาชน นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลกได้พากันรณรงค์เคลื่อนไหวให้ปฏิรูปกฎหมายหมิ่นฯ ไม่ให้นำมาเป็นเครื่องมือเล่นงานกันทางการเมือง
โดยคนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีเขานั้น อ้างว่า เขามีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 3 ประเด็นคือ
ประเด็นที่ 1 กรณีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระราชดำรัสกับศาลปกครอง
ประเด็นที่ 2 เพราะเขาไปพูดตั้งคำถามว่า ในหลวงหายไปไหนในวันที่ 4 ธันวาคม 2551 ไม่เสด็จลงมหาสมาคม พระราชทานพระราชกระแสดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยตามปกติทุกปี คนไทยก็เฝ้ารอ พอรู้ว่าทรงพระประชวรก็เป็นห่วงพระองค์ท่าน
ประเด็นที่ 3 เพราะเขาไปถามเรื่องการแต่งตั้งและโปรดเกล้าฯให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าสภาแต่งตั้งตอนเช้า โปรดเกล้าฯตอนเย็น
เขา กล่าวว่า เรื่องในหลวงหายไปไหนนั้น ก็เพราะตัวเขาเป็นพสกนิกรชาวไทย ก็เหมือนพสกนิกรชาวไทยทั่วไปก็ย่อมมีความเป็นห่วงในหลวงกันทั้งสิ้น ทราบแต่ว่าทรงพระประชวร แต่ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสำนักพระราชวังอย่างเป็นทางการเหมือน ทุกครั้ง และไม่ได้ประกาศให้พสกนิกรชาวไทยได้รับทราบเป็นระยะดังที่เคยทำมาทุกครั้ง พสกนิกรชาวไทยก็ต้องห่วงใยในพระองค์ท่าน การจะมาฟ้องว่าตนหมิ่นฯก็เลยดูประหลาด
ส่วนเรื่องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้รับแต่งตั้งจากสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีตอนเช้า แล้วได้รับโปรดเกล้าฯตอนเย็นนั้น ก็เพราะเห็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติอย่างก่อนมา ไม่รวดเร็วอย่างนั้น ผู้นำเสนอทูลเกล้า คือประธานรัฐสภาปกติก็อาจใช้เวลาในการตรวจสอบระยะหนึ่งก่อนให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่นี่ยื่นเลยแบบรวบรัด ก็ต้องถามว่าทำไมประธานสภาทำแบบนั้น แล้วทำไมต้องมาฟ้องว่าตนหมิ่นฯ
นาย สุรชัยกล่าวว่า ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมพร้อมเป็นกองหน้า พร้อมติดคุกตอนแก่ สบายเสียอีก จะได้มีเวลาไปอ่านหนังสือในคุก "อยู่นอกคุกนี่ลำบาก ต้องจัดวิทยุ ต้องไปขึ้นเวทีปราศรัย ต้องเดินสายไปพูดที่โน่นที่นี่ มันเหนื่อย"เขากล่าวแบบติดตลก
อย่างไรก็ตามนายสุรชัยกล่าวให้ สัมภาษณ์ในวันนั้นว่า คงไม่ได้ติดคุกไวนัก เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ก็คงต้องตรวจสอบสำนวนคดี กว่าอัยการจะส่งฟ้องก็คงจะนานราวปี2553โน่นแล้ว "ดูข้อหาใหญ่ แต่ดูสำนวนแล้วไม่น่าจะใหญ่มาก จากประสบการณ์ติดคุกมา16 ปีนั้น ผมดูแล้วเป็นการเล่นงานทางการเมืองของรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ต้องการสกัดทำลาย ฝ่ายประชาธิปไตย และเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องการทำลายฝ่ายเสื้อแดง และสื่อของฝ่ายเสื้อแดง"
นาย สุรชัยกล่าวว่า เขาเคยถูกตัดสินเป็นนักโทษประหารชีวิต และได้รับพระราชทานอภัยโทษจากในหลวง ชีวิตของเขา นายสุรชัย แซ่ด่านคนเก่าตายไปแล้ว เกิดใหม่เป็นสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ก็เพราะในหลวงพระราชทานชีวิตใหม่ แล้วเขาจะไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทำไม