WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, October 17, 2010

'แม้ว'ทุ่มสุดตัว สงครามสุดท้าย

ที่มา ข่าวสด



คดียุบพรรคประชาธิปัตย์งวดเข้ามาทุกขณะ

นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีคิวขึ้นเบิกความวันจันทร์นี้ ในการไต่ สวนพยานนัดสุดท้าย

จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลาพิจารณาและเขียนคำวินิจฉัยประมาณ 1 เดือน กว่าจะรู้ผลคงเป็นช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือน พ.ย.

เป็นที่จับตาของทุกฝ่ายเนื่องจากผลของคดีนี้จะมีผลต่อโฉมหน้าการ เมืองไทยอย่างใหญ่หลวง

ถ้า ศาลตัดสินให้ยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค เบาะๆ ก็ต้องเปลี่ยนตัวนายกฯจากนายอภิสิทธิ์ ไปเป็นคนอื่นในพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นใครระหว่าง 'ชวน-กรณ์-สุเทพ' ต้องไปว่ากันเมื่อถึงเวลา

หรือถ้ากระทบรุนแรงขึ้นมาอีกหน่อยคือเกิดการ'เปลี่ยนขั้ว'การ เมืองกันอีกตลบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายอำนาจจะตกอยู่ในมือใคร

และทางเลือกที่สาม คือนายกฯ ชิงตัดตอนปัญหาด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ทั้งสามทางเลือกอยู่บนเงื่อนไขว่า พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบและกรรม การบริหารถูกตัดสิทธิ์เท่านั้น

เพราะ หากคดี'พลิกล็อก'อย่างที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีคนจำนวนหนึ่งกำลังคิดหาทางช่วย เหลือประชาธิปัตย์ให้พ้นผิด ความวุ่นวายที่ตามมาก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

อย่างไรก็ตามไม่เพียงคดียุบพรรคที่ยังไม่รู้ลูกผีลูกคน

สถานการณ์อื่นโดยรอบรัฐบาลทั้งเรื่องทุจริตภายในพรรคร่วม ปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องจนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพใหญ่

ยังเป็นปัจจัยหนุนเสริมความเชื่อที่ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ อาจอยู่ไม่ครบเทอมปลายปีหน้าอย่างที่ตั้งใจ

ตรงนี้เองทำให้บรรยากาศพรรคเพื่อไทยที่ซบเซามานาน กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตา โดยเฉพาะหลังการวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เจ้าของพรรคตัวจริงเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากประกาศให้การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นสงครามครั้งสุดท้าย

พ.ต.ท.ทักษิณยังจะนำทัพเพื่อไทยเข้าสู่สมรภูมิด้วยตัวเอง เป้าหมายคือต้องชนะเลือกตั้งให้ได้ด้วยเสียงเกินครึ่ง

จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรม และอภัยโทษให้กับทุกฝ่าย เดินหน้าสู่การ ปรองดองทั้งประเทศ

ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเดินทางกลับบ้านเกิด

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังทำหน้าที่คิดค้นนโยบายหาเสียงด้วยตัวเอง อย่างที่ปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อยแล้ว 3 เรื่อง

1.ค่า แรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท 2.คนที่จบปริญ ญาตรีมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท 3.รับจำนำราคาข้าวที่ 15,000 บาทต่อเกวียน โดยจะนำราคาข้าวไปผูกติดกับราคาน้ำมัน

ยังเป็นแค่นโยบายลอยๆ ที่ขาดรายละเอียดให้เห็นว่าสามารถทำได้จริง

แต่ อย่าลืมว่าพ.ต.ท.ทักษิณ นั้นได้ชื่อเป็นต้นตำรับ'เจ้าพ่อประชานิยม'ตัวจริงเสียงจริง ทั้งยังมีผลงานสมัยเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2544 ถึง 2549 เป็นเครื่องรับประกัน

ส่วนเรื่องท่อน้ำเลี้ยงที่มีปัญหาไหลๆ หยุดๆ

จน กลายเป็นช่องโหว่ให้แกนนำบางคนในพรรคฉวยโอกาสเปิดท่อใหม่ สร้างกลุ่มก้อนของตนเองขึ้นมา กลายเป็นเรื่องหวาดระแวงกันเองในหมู่แกนนำอยู่พักใหญ่

พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดชัดเจนให้ลูกพรรคอุ่นใจว่า ใกล้เลือกตั้งพรรคจะทำหน้าที่ดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ

ใคร กังวลเรื่องที่ตนเองโดนยึดทรัพย์ไปเป็นหมื่นๆ ล้าน ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเทียบกับเงินที่นำไปหมุนลงทุนทำธุรกิจในเมืองนอกแล้ว ที่โดนยึดไปแค่เศษสตางค์

สรุปคือไม่ว่านโยบายประชานิยม 3 เรื่องที่ปล่อยออกมา พร้อมกับคำยืนยันเรื่องการเปิดวาล์วท่อน้ำเลี้ยงแบบสุดเกลียว ไม่เพียงลูกพรรคเพื่อไทยที่หูผึ่ง

พรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างประชาธิปัตย์หรือแม้แต่ภูมิใจไทยก็ยังหูผึ่งตาม

แต่ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน

มีการอ่านเกมว่าการที่พ.ต.ท. ทักษิณ เปลี่ยนแนวเคลื่อนไหวแสดงความพร้อมกลับสู่เกมเลือกตั้ง

ก็เพราะการเคลื่อนไหวผ่านการชุมนุมคนเสื้อแดง ไม่ประสบผลตามต้องการ

เหตุการณ์เดือนพฤษภาฯ คนเสื้อแดงพ่ายแพ้ยับเยิน ทั้งนำมาสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ การเมืองไทย

ซึ่งสังคมของคนที่เป็นกลางมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

กระนั้น ก็ตามสิ่งที่เห็นได้ขณะนี้ก็คือการกลับสู่กติกาของพ.ต.ท. ทักษิณ สร้างบรรยากาศความ หวาด หวั่นให้กลุ่มอำนาจฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย

พ.ต.ท. ทักษิณ นั้นเปิดตัวชัดผ่านการกำหนดนโยบายหาเสียง ทุน รอนในการเลือกตั้ง หรือแม้แต่อาคารสถานที่ทำการพรรค ว่าตน เองคือเจ้าของพรรคตัวจริง

แต่จุดอ่อนของพ.ต.ท.ทักษิณ คือยังมีความหวาดระแวงต่อคนในพรรค ทำให้ไม่กล้าประกาศชัดว่าจะให้ใครเป็น 'นอมินี' ถือธงนำพรรคกลับสู่อำนาจ

ท่าม กลางกระแสความแตกแยกของสมาชิกพรรคซึ่งพยายามผลักดันหัวหน้ากลุ่มตนเองเข้า ประกวด เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นต้น

เพราะทักษิณ พรรคเพื่อไทยเลยยังติดอยู่กับปัญหาเดิมๆ คือหา'หัว'ไม่ได้

พ.ต.ท. ทักษิณประกาศนำทัพเองก็จริง แต่ในทางปฏิบัติเมื่อถึงเวลาตะลุมบอนกันในสนามเลือกตั้ง แค่การหาเสียงผ่านวิดีโอลิงก์อาจยังไม่พอต่อเป้าหมายในการกวาดส.ส.ให้ได้ เกินครึ่ง

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลและกลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังจะวางใจได้

สิ่ง ที่ต้องจำเป็นบทเรียนคือการเลือกตั้งเดือน ธ.ค.2550 ที่พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในต่างประเทศ แต่ก็แสดงศักยภาพผ่านนอมินีอย่างนายสมัคร สุนทรเวช

จนพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง ได้เป็นแกน นำจัดตั้งรัฐบาล

ผล ที่ตามมาคือ'กลุ่มอำนาจพิเศษ'ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ต้องลงทุนลงแรงไปไม่น้อยกว่าจะช่วยให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์มีวันนี้ได้

การกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้

จึงต้องดูว่าจะทำให้ฝ่ายที่คอยอุ้มชูรัฐบาล ต้องออกแรงหนักกว่าเดิมหรือไม่