ที่มา มติชน นายจาตุรนต์ระบุว่า " ถ้าส่งไปปราบยาเสพติด จะไม่กระโตกกระตากไปหน่อยหรือ และยังต้องถามด้วยว่าท่านจะไปกันในหน้าที่อะไร ไปทำแทนตำรวจหรือ ทำไมไม่ใช้ตำรวจปราบยาเสพติด ถ้าผู้สมัครรับเลือกตั้งทำผิดกฎหมายทำไมคนของท่านไม่ไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดี หรือว่าจะเป็นการเสียเหลี่ยม หรือไม่เชื่อถือกฎหมาย การแสดงออกของ ผบ.ทบ.จึงเข้าลักษณะข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำให้เสียบรรยากาศทางการเมือง และอาจทำให้คนรู้สึกว่าท่านวางตัวไม่เป็นกลางได้ จึงอยากแนะนำท่านว่าก่อนจะพูดอะไรควรคิดเสียให้รอบคอบ ท่านเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงไปตรงมา แต่ก็ต้องคำนึงด้วยว่าพูดแล้วคนจะรู้สึกอย่างไร " นายจาตุรนต์ยังทวีตถึงกรณีที่ ผบ.ทบ.อยากให้ประชาชนทบทวนกรณีหมู่บ้านสีแดง เพราะอยากให้ประเทศไทยมีสีเดียวว่า " ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะแสดงความเห็น แต่ก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเรียกหมู่บ้านของตัวเองเป็นสีอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย บังเอิญว่าแกนนำคนเสื้อแดงเขาก็ลงสมัครเลือกตั้งกันอยู่ พอแสดงความเห็นอะไรในทางไม่ชอบสีแดง คนก็อาจมองว่าท่านไม่เป็นกลางอีกก็ได้ หมู่บ้านสีแดงมีกี่หมู่บ้าน ผมไม่ทราบ แต่ไม่มีข้อมูลว่าพวกเขาทำอะไรผิดกฎหมาย เห็นแต่หมู่บ้านสีเหลืองอยู่แถวทำเนียบรัฐบาลน่าจะไม่ถูกกฎหมาย หมู่บ้านสีเหลืองที่มีอยู่เพียงหมู่บ้านเดียวนี้ ท่าน ผบ.ทบ.จะว่ายังไง นอกจากทำผิดกฎหมายแล้ว ยังยุให้ท่านไปรบกับกัมพูชาอยู่ทุกวันด้วย" นาย จาตุรนต์กล่าวว่า "อยากแนะนำให้ ผบ.ทบ.ปรามโฆษกกองทัพบก (พล.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด) เสียบ้าง อย่าปล่อยให้มาต่อปากต่อคำกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง จนเหมือนตั้งตัวเป็นศัตรูกับบางพรรคไปแล้ว คุณสรรเสริญมีสิทธิแสดงความเห็นทางการเมือง จะโต้กับใครก็ได้ แต่ท่านผบ.ทบ.แน่ใจหรือว่าเขาควรจะโต้ในฐานะโฆษกของกองทัพบก กองทัพเห็นตามเขาหรือ เมื่อโฆษกไม่เป็นกลางทางการเมือง คนเขาอาจคิดว่ากองทัพไม่เป็นกลางทางการเมือง ท่านไม่ควรเอาอย่างนายกฯ อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดอะไรไม่ตรงกันทุกวัน" นาย จาตุรนต์ระบุอีกว่า "เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ การวางตัวเป็นกลางและไม่แทรกแซงในการจัดตั้งรัฐบาล อยากแนะนำให้ท่านทำให้ชัดเจนเสียแต่วันนี้ ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง ที่คนเขาห่วงกันทั่วบ้านทั่วเมืองก็คือ พรรคที่ได้เสียงมากแล้วอาจไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล พูดกันตรงๆ ก็คือเขากลัวการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจและกองทัพ เรื่องนี้ชาวต่างประเทศและชาวไทยในต่างประเทศก็วิตกกันทั้งนั้น ทำให้เขาไม่เชื่อมั่นต่อเมืองไทยของเรา เมืองไทยที่ท่านอยากให้เป็นสีเดียวนี่แหละ ผมจึงเสนอว่าให้ท่านทำเหมือนตอนที่ประกาศว่าจะไม่ทำรัฐประหารนั่นแหละ แต่ให้ออกมาพูดพร้อมกันว่าจะไม่แทรกแซงในการจัดตั้งรัฐบาลควรแถลงด้วยว่า จะไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองใช้สถานที่ของกองทัพบกในการจัดตั้งรัฐบาลอีก แล้ว" "เรื่องแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาลนี้ ไม่ใช่พูดกันลอยๆ เห็นคุณชุมพล (ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา) ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์ไม่ใช่หรือ ก็ชัดอยู่แล้วว่าคราวที่แล้วมีการแทรกแซง บีบบังคับ ที่ผมได้ยินจากปากผู้นำพรรคการเมืองบางท่าน ก็คือเขาบอกว่าผู้นำทหารขู่ นอกจากนั้นก็ขอให้ท่านเพิ่มความสุขุมมากขึ้นในการออกความเห็นต่างๆ อย่างน้อยระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าไม่เป็นกลาง หน้าที่ของทหารในระหว่างการเลือกตั้งไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่วางตัวให้เป็นกลางก็ประเสริฐที่สุดแล้ว" นายจาตุรนต์ระบุ
เมื่อ วันที่ 10 มถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ได้ทวีตข้อความผ่านเว็บ twitter.com ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุว่าพรรคเพื่อไทย(พท.) รังแกทหารว่า " เห็นข่าว ผบ.ทบ.ฮึ่ม พท.รังแกทหารแล้วอยากจะให้คำแนะนำ ผบ.ทบ.สักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อตัว ผบ.ทบ.เอง และอาจเป็นผลดีต่อบรรยากาศทางการเมือง อ่านคำสัมภาษณ์ของคุณประยุทธ์แล้วรู้สึกว่าท่านคงลืมไปว่าท่านเป็น ผบ.ทบ.อยู่ ไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มก๊วนอะไรที่จะบอกว่ายอมไม่ได้ หยามไม่ได้อย่างนั้น ท่านบอกว่าส่งทหารไป 2 คนแล้วถูกกดดัน ก็เลยจะส่งไป 50 คนหรือ 100 คน ถามว่าจะส่งไปทำไม จะส่งไปปราบยาเสพติดหรือปราบผู้สมัครรับเลือกตั้ง"