ที่มา ประชาไท
ประวิตร โรจนพฤกษ์
สถานการณ์การเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจนและร้าวลึกนั้นสะท้อนให้เห็นได้ชัดในสื่อและมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบรรดาสื่อที่เลือกข้าง (ไม่ว่าข้างไหน) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเลือกข้างมิใช่สิ่งที่ผิด สื่อสามารถเขียนบทบรรณาธิการ บททัศนะและให้คอลัมนิสต์แสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยกับรัฐบาลและพันธมิตรฯ ได้อย่างเต็มที่ นั่นมิใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือในส่วนที่เป็นการรายงานข่าวตรงไปตรงมา (straight news report) สื่อไม่ควรปิดกั้นการลื่นไหลของข่าวสารและความเห็นอันหลากหลายต่อวิกฤตการเมืองไทย เพื่อที่สังคมจะได้ร่วมกันเรียนรู้ฉุกคิดจากมุมมองและทัศนะที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่สังคมโดยรวม และทำให้ประชาชนมีวุฒิภาวะพิจารณาอะไรต่างๆ ได้เอง
แต่สื่อที่เลือกข้างจนมืดมัว มักแยกไม่ออกระหว่างการรายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมากับบทความหรือบทบรรณาธิการที่แสดงความเห็นส่วนตัวหรือส่วนองค์กร ล่าสุด เกิดปรากฎการณ์ไม่เล่นข่าวของเอพี (Associated Press) ที่รายงานความเห็นของสมเด็จพระเทพฯ ต่อกลุ่มพันธมิตรฯ และวิกฤตการเมืองไทย ระหว่างทรงเสด็จประพาสสหรัฐฯ (บล็อกเกอร์ Bangkok Pundit อ้างถึงข่าวนี้ ในบล็อกของเขา เมื่อช่วงสาย วานนี้)
ถามว่าสื่อไทยเห็นประชาชนหรือผู้รับข่าวสารเป็นอะไร สื่อถึงปฎิบัติตนเช่นนี้ ในขณะที่อ้างเรื่องความรับผิดชอบในการให้ข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมาและหลากหลายและอ้างเรื่อง free flow of news and information
ขอให้ประชาชนท่านผู้อ่านตัดสินเอาเอง ว่าทำไมสื่อส่วนใหญ่ถึงไม่รายงาน แต่นี่แหละ Silence of the Lamp ที่มืดมิดอย่างแท้จริง
ข้อเสนอแนะที่ผู้เขียนจะให้ได้ ณ วันนี้ก็คือ ขอให้ประชาชนเช็คอ่านตรวจสอบสื่อและรับสื่อที่หลากหลาย ทั้งของไทยและเทศ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และโปรดระลึกว่า ณ ห้วงวิกฤตการเมืองในปัจจุบัน เราคงปล่อยให้หนังสือพิมพ์ฉบับใด ฉบับหนึ่ง (หรือสื่อแขนงอื่น ช่องใดช่องหนึ่ง หรือคลื่นใดคลื่นหนึ่ง) เป็นที่พึ่งพาทางข้อมูลข่าวสารโดดๆ มิได้
จากการเช็คหนังสือพิมพ์ฉบับหลักๆ เรื่องการไม่มีข่าวที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงตรัสให้สัมภาษณ์ต่อคำถามว่า ทรงเห็นด้วยหรือไม่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ระบุว่าประท้วงเพื่อสถาบันกษัตริย์ สมเด็จพระเทพฯ ตรัสตอบคำถามดังกล่าวว่า “I don’t think so... they do things for themselves.”
ไทยรัฐ – (หนังสือพิมพ์จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ) – ไม่มีข่าวนี้ปรากฎ
เดลินิวส์ – ไม่มีข่าวนี้ แต่หนังสือพิมพ์มีสโลแกนว่า “อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์”
โพสต์ทูเดย์ – ไม่มีข่าวนี้ แต่สโลแกนฉบับนี้คือ “ลึกซึ้งทุกข่าวสาร ตอบทุกด้านของชีวิต”
คมชัดลึก – ไม่มีทั้งๆ ที่สโลแกน คือ “เนชั่นเจาะข่าว ทั่วไทย”
บางกอกโพสต์ – สโลแกนคือ “The Newspaper You Can Trust” แต่ไม่มีข่าวนี้
เดอะเนชั่น – ไม่มีข่าวนี้ ทั้งๆ ที่เป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ อ้างเรื่องความตรงไปตรงมา และทั้งที่การที่เป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหมายความว่า ไม่ต้องมานั่งแปลข่าวเอพีให้เมื่อยสมอง
กรุงเทพธุรกิจ – (สโลแกนคือ มือขวาหรือมือซ้ายของผู้บริหารก็ไม่แน่ใจ) ไม่มีข่าวนี้เช่นกัน
ผู้จัดการรายวัน – (ฉบับเสาร์-อาทิตย์ 11-12 ต.ค.) – คิดว่าต้องเช็คไหมเนี่ย หรือเดาก็ถูก ... ไม่มีข่าวนี้เปิดเท่าไหร่กี่ครั้งกี่หนกี่หน้าก็ไม่เจอ เช็คออนไลน์ก็ไม่มี และก็ไม่น่าแปลกใจมิใช่หรือว่าทำไม
มติชน – (หนังสือพิมพ์คุณภาพ เพื่อคุณภาพของประเทศ) ไม่มีข่าวนี้
ข่าวสด – Surpriseๆ มีข่าวนี้ และพาดหัวใหญ่สุดหน้าหนึ่ง ฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคมว่า “ตรัสถึงพันธมิตรฯ พระเทพฯ ทรงสัมภาษณ์ที่สหรัฐ” และข่าวไปต่อหน้า 14 ซึ่งมีการอ้างคำให้สัมภาษณ์ทั้งภาษาอังกฤษและไทยว่า
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. (ตามเวลาในประเทศไทย) สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองเวลลิงฟอร์ด รัฐคอนเน็กติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินร่วมงานประชุมทางวิชาการ ณ โรงเรียนโช้ต โรสแมรี่ฮอลล์ โดยในที่ประชุม สมเด็จพระเทพฯ ตรัสถึงความสำคัญของงานบริการภาคสาธารณะ และหลังเสร็จสิ้นการประชุม มีผู้สื่อข่าวทูลถามพระองค์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า ทรงเห็นด้วยหรือไม่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงระบุว่า ประท้วงเพื่อสถาบันกษัตริย์ (The princess was asked at a press conference following her talk whether she agreed with protesters who say they are acting on behalf of the monarchy.)
เอพีรายงานว่า สมเด็จพระเทพฯ ตรัสตอบคำถามดังกล่าวว่า "I don’t think so." "They do things for themselves." หรือแปลเป็นไทยได้ความว่า "ข้าพเจ้าไม่คิดเช่นนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมดำเนินการสิ่งต่างๆ เพื่อตัวพวกเขาเอง"ผู้สื่อข่าวทูลถามอีกว่า "Why the king has not spoken out?" หรือ "เหตุใดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังมิได้ทรงออกมาตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" สมเด็จพระเทพฯ ตรัสตอบว่า "I don’t know because I haven’t asked him." หรือ "ข้าพเจ้าไม่ทราบ เนื่องจากมิได้ถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงเรื่องนี้"
ต้องขอปรบมือให้กับหนังสือพิมพ์ข่าวสด แต่ข่าวสดระยะหลังก็ดูเหมือนจะเบื่อพันธมิตรฯ มิใช่น้อย ซึ่งเห็นได้จากบททัศนะของคอลัมนิสต์บางคน (ผู้เขียนสงสัยว่า ถ้าข่าวสดยังเชียร์พันธมิตรฯ สุดๆ อยู่จะลงข่าวนี้หรือไม่) อย่างไรก็ตาม ต้องให้เครดิตข่าวสด ผู้เขียนคว้าซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ทันทีทันควันเลย และยอดขายข่าวสดฉบับนี้น่าจะพุ่งเป็นพิเศษ
ประชาทรรศน์ (หนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลและทักษิณ ชินวัตร อย่างออกหน้าออกตา) – มีข่าวนี้เช่นกัน (http://www.prachatouch.com/content.php?id=10784) แต่ถ้าคำวินิจฉัยของพระเทพฯ เป็นตรงกันข้ามกับที่ปรากฎขึ้น สงสัยว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะลงข่าวชิ้นนี้หรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นข่าวนี้น่าจะไปหาอ่านได้ในหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เกือบทุกฉบับข้างต้นเสียมากกว่า
………………………………………………………………
Associated Press October 9, 2008 Princess Maha Chakri Sirindhorn talked about the importance of public service Thursday at the Choate Rosemary Hall prep school in Her visit came amid the worst political violence in In violent clashes on Tuesday, 423 protesters and 20 police were injured, Thai medical authorities said. One woman was killed, and a man died in what appeared to be a related incident. It was the worst political violence since 1992, when the army killed dozens of pro-democracy demonstrators seeking the ouster of a military-backed government. The princess was asked at a press conference following her talk whether she agreed with protesters who say they are acting on behalf of the monarchy. "I don't think so," she replied. "They do things for themselves." Asked why the king has not spoken out, she said, "I don't know because I haven't asked him." Protest leaders have called for the prosecution of people who insult the monarchy. One leader wants to abandon Some academics have said the plan would enhance the power of the country's military and monarchy at the expense of the poor. "There are a lot of political problems," the princess said. "I told my friends, colleagues just to do what is their duty." |
..................................
หมายเหตุ: อ่านบทความใน Silence of the Lamp ย้อนหลังได้ที่นี่