ที่มา ประชาไท
22 เมษายน 52 บลูมเบิร์ก-รัฐมนตรีต่างประเทศไทยกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ในวางแผนพยายามฆาตกรรม เพื่อกลับคืนสู่อำนาจ
อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ “ได้ใช้วิธีการบางลักษณะในการพยายามฆาตกรรม” กษิต ภิรมย์ กล่าวในการปาฐกถาที่ “เอเซีย โซไซตี้” ที่กรุงนิวยอร์คเมื่อวานนี้ ส่วนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกของทักษิณไม่ได้รับโทรศัพท์เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม
การกล่าวหาของนายกษิตครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำผู้ประท้วงต่อต้านทักษิณได้รับบาดเจ็บเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และการกล่าวหาดังกล่าวอาจเป็นการยั่วยุฝ่ายสนับสนุนทักษิณ ในขณะที่รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะนำความปรองดองกลับคืนมาผ่านการปฏิรูปการเมือง โดยในวันนี้ สมาชิกรัฐสภาเปิดประชุมรัฐสภา 2 วันเพื่ออภิปรายการประกาศ พ.ร.ก. สถานการณ์ฉุกเฉิน และการจับกุมคุมขังผู้ชุมนุมประท้วง
นายกษิต กล่าวเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาว่า ฝ่ายรัฐบาลที่ตกเป็นเป้าหมายนี้รวมไปถึงนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรณ์ จาติกวานิชย์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นคนหนึ่งในผู้ที่ตกเป้าหมายของอดีตนากรัฐมนตรี เขากล่าว
“ในตอนนี้ พวกเราทั้ง 5 คนได้รับการคุ้มครองอย่างดีโดยกองกำลังความมั่นคง” นายกษิต กล่าวในการปาฐกถาซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ “เอเซีย โซไซตี้” และ “ทักษิณกำลังสู้ถึงตาย”
นายอภิสิทธิ์ ผู้ที่รถยนต์ของเขาถูกโจมตีโดยผู้ประท้วงที่สนับสนุนทักษิณสองครั้งในเดือนเดียว เขายังคงพ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพและจังหวัดโดยรอบไว้นับตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน โดยตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่กราดยิงรถของนายสนธิกว่า 50 นัด
รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรณีการยิงนายสนธิ และการคุกคามคนในรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวานนี้
การตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง
“ศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างการดำเนินการประสานรายงานต่างๆ จากหน่วยข่าวกรองเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง” เขากล่าวทางโทรศัพท์ และ “การคุ้มครองนายกรัฐมนตรีเป็นความตื่นตัวขั้นสูงสุด”
ตำรวจของไทยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าอะไรเป็นแรงจูงใจในการพยายามสังหาร พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้นายสนธิเป็นผู้ที่ประท้วงให้ทักษิณพร้อมกับฝ่ายของทักษิณอีก 2 คนให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายสนธิผู้ดำเนินการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เขาซึ่งถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงของ 193 วันของการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว
“เรายังได้ข้อสรุปใดๆ ในเรื่องแรงจูงใจ” พล.ต.ต.สุพร กล่าว “มันอาจเป็นเรื่องส่วนตัว หรือว่าเป็นเรื่องการเมือง เราไม่สามารถตัดเรื่องใดทิ้งไปได้”
กษิต อดีตเอกอัคราชฑูตไทยประจำสหรัฐและญี่ปุ่น กล่าว “นาวิกโยธินพร้อมด้วยอาวุธครบมือสิบนาย” ให้การคุ้มครองความปลอดภัยแก่เขา และเขาพักใน “เซฟเฮ้าส์สองหรือสามแห่ง”
การยึดสนามบิน
ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ปลดนายกษิตออกจากตำแหน่งด้วยจากการมีส่วนในการปิดสนามบินเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่ปลดฝ่ายทักษิณออกจากตำแหน่ง
ทักษิณ ผู้ซึ่งหนีออกนอกประเทศปีที่แล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินจำคุก 2 ปีในเรื่องการคอรัปชั่นในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีจากปี 2001 ถึง 2006 เขาใช้เวลาในดูไบและฮ่องกง ส่วนประเทศไทยกำลังหาวิธีการพิเศษและขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานสากลหยุดยั้งเขา
ทักษิณนำการประท้วงต้านรัฐบาลจากที่ห่างไกลๆ ซึ่งนำสู่ความรุนแรงในวันที่ 11 เมษายนเมื่อผู้ประท้วงบีบบังคับให้ยกเลิกการประชุมผู้นำอาเซียน ผู้ชุมนุมโจมตีรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี ปิดถนนและจุดไฟ โดยนายอภิสิทธิ์ประกาศใช้อำนาจภายใต้ภาวะฉุกเฉิน และกองกำลังทหารก็ทำให้การประท้วงสิ้นสุดลงในสองวัน พร้อมกับมีการจับกุมแกนนำสำคัญๆ
รัฐบาลมีแผนที่จะยกเลิกภาวะฉุกเฉิน “ภายในเวลาไม่กี่วัน” นายปณิธาน กล่าว
ที่มา:
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601087&sid=aoqXCnTmntzw&refer=home