WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, April 23, 2009

'อนุพงษ์' รับยิงสนธิ กระสุนทหาร ชี้ตรวจสอบยาก

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_1404

สั่งตรวจสอบด่วน กระสุนเล็ดลอดออกมาได้อย่างไร แต่เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะกระสุนที่จ่ายไปมีจำนวนเป็นพัน เป็นหมื่นนัด ยันอีกทหารจำเป็นต้องใช้กระสุนจริงสลายเสื้อแดงหากคุกคามถึงชีวิต กองทัพทำทุกอย่างตามขั้นตอน เชื่อรัฐบาลชี้แจงต่อสภาฯได้?

ที่กองการบินกรมขนส่งทหารบก เวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่ากระสุนที่คนร้ายใช้ลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อนประชาธิปไตย (พธม.) เป็นกระสุนปืนเอ็ม 16 จากกองทัพภาคที่ 1 ว่า เป็นเรื่องของการประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองทัพ ซึ่งรายละเอียดหนังสือยังไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุยกัน และรู้ว่า มีกระสุน 20 นัดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเป็นกระสุนจากปืน เอชเค จำนวน 17 นัด และกระสุนปืนจาก เอ็ม 16 จำนวน 3 นัด

ผบ.ทบ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบกระสุนปืนเอ็ม 16 ทั้ง 3 นัด เป็นกระสุนที่แจกจ่ายจากกองทัพภาคที่ 1 ที่แจกจ่ายให้กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) อย่างไรก็ตาม พล.ร.9 มีหน่วยทหารมาก ซึ่งขณะนี้เมื่อรับทราบรายละเอียดจะตรวจสอบภายในว่ามีกระสุนเล็ดลอดออกมาได้อย่างไร แต่เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะกระสุนที่จ่ายไปมีจำนวนเป็นพัน เป็นหมื่นนัด หากสมมติว่าแจกจ่ายกระสุนไป 10 หน่วยการล็อดรอดจึงยากต่อการตรวจสอบว่า เป็นหน่วยไหน และเท่าที่ทราบเป็นกระสุนที่มาจากการฝึกของกองพลทหารราบที่ 9

ส่วนโอกาสเล็ดรอดออกมาได้หรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนี้จากหลักฐานก็ยืนยันได้ว่า แสดงว่ามีการรั่วไหลออกไป เรื่องนี้มีกฎระเบียบอยู่แล้วในการดำเนินการ ซึ่งผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องได้รับโทษตามระเบียบ

นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงการอภิปราย 2 สภาเกี่ยวกับสถานการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในฐานะที่ทหารลงไปปฏิบัติหน้าที่การสลายการชุมนุมว่า ขั้นตอนการปฏิบัติทางรัฐบาล ได้กำหนดกรอบการปฏิบัติก่อนการปฏิบัติให้ทหาร และได้มีการกำหนดกรอบการปฏิบัติตามขั้นตอนให้กำลังพลโดยละเอียด และทางกองทัพได้เรียนให้กับฝ่ายการเมืองเพื่อนำไปชี้แจงในสภาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนของทางการเมืองที่จะต้องแสดงความจริงให้กับสาธารณชนให้ทราบว่าขั้นตอนนั้นมีอย่างไร แต่ตนขอยืนยันว่า ขั้นตอนต่างๆ ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บทาง รพ.ยืนยันว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนเอ็ม 16 ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติก็ได้ชี้แจงไปแล้ว กระสุนแบงค์ ยิงอย่างไร และกระสุนจริงจะใช้ในโอกาสใด

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า ใช้กระสุนจริงยิงกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นในสภาว่าเขาชี้แจงอย่างไร อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติกระสุนจริง กำลังพลสามารถใช้ได้ หากถูกคุกคามโดยตรงต่อชีวิต ทหารเขาสามารถที่จะใช้ได้ โดยจะมีการสั่งการจากผู้ที่ใช้ และกำลังพลที่ใช้ก็จะอยู่ในรูปขบวนที่ไม่ใช่เข้าไปและดำเนินการโดยใช้กระสุนจริงเลยคงไม่ใช่? แต่ถ้าคุกคามโดยตรงต่อชีวิตก็น่าที่จะใช้ได้ แต่อยู่ที่เหตุการณ์ในขณะนั้นว่า คุกคามโดยการนำรถมาชนโดยตรงก็น่าจะใช้ได้ และจะต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง

?ผมไม่คิดอย่างท่านเลย ผมถือว่าเวทีสภาเป็นเวทีฝ่ายใช้อำนาจรัฐถูกกล่าวว่า ได้ปฏิบัติอย่างไร ก็ไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมว่าเป็นอย่างไร ให้เกิดข้อเท็จจริงแก่สังคม การดำเนินการในขณะนี้ และยุติปัญหาได้โดยไม่สูญเสียน่าจะเป็นสิ่งที่สังคมได้รับ ทุกฝ่ายพยายามทำอย่างดี ก็ไปชี้แจงกันให้เกิดความเข้าใจ ถ้าใครคิดไปโต้ไปเถียงกัน หรือไปกล่าวหาเลือนลอยไม่เกิดประโยชน์กับสังคม ทุกคนจะต้องดูเอาเองว่าการดำเนินการเป็นอย่างไร?ผบ.ทบ.กล่าว

ส่วนทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะยุติกันในสภาใช่หรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนก็หวังอย่างนั้น การที่จะสามารถพูดคุยกันได้ตามกลไกปกติก็น่าจะลดความสับสน หรือความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ถ้าทุกอย่างพูดกันในสภาที่มีกฎ มีระเบียบ ต่างคนต่างก็ยอมรับได้ ถ้าออกมาข้างนอกอย่างน้อยที่สุดก็จะมีผลกระทบต่อมิติอื่น เช่นทางด้านเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่จะมีกลุ่มใต้ดินที่จะสร้างความปั่นป่วนหลังจากนี้ ตามที่นายจักรภพ เพ็ญแข ให้สัมภาษณ์ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คิดเหมือนกันกับท่านทั้งหลาย เมื่อถามถึงการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองดีกว่า มันจะได้ไม่สับสน เพราะผู้ที่ตัดสินใจใช้ และเลิกใช้นั่นคือทางการเมือง ดังนั้นการเมืองจะมีข้อพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกและเพื่อไม่ให้เกิดความสับสบต้องให้ผู้รับผิดชอบเป็นผู้ตัดสินใจ

นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธให้ความคิดเห็นกรณีการนิรโทษกรรม โดยระบุว่า ตนไม่ขอพูด เพราะพูดไปจะทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะมันมากคน และคนที่พูดมีแต่ความเห็น คนที่ตัดสินคือคนที่อยู่ในสภา ถ้าตัดสินแล้วคนก็จบ