WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, March 26, 2010

NGOsที่รักภาคพิสดาร(9):ภุชงค์ กนิษฐชาติ 1,800 ส.ยุทธ.,ยุวประชาธิปัตย์,สมุนอำมาตย์

ที่มา Thai E-News




โดย คุณรักเอ็นจีโอ ห่วงประชาชน
26 มีนาคม 2553

กรูว่าแล้ว !!!...หากแทงหวยคงรวยเป็นล้านไปแว๊ววว์!!!

กำลัง “ซุ่ม” ดูสถานการณ์ทางการเมืองของ “เสื้อแดง” ว่า จะเผด็จศึกมหาอำมาตย์ตอนไหน ?... กะว่า จะเข้าไปร่วมขบวนใหญ่กะเขาในวันที่ 27 มีนาคม 2553 นี้เหมียลล์กัลล์...กรูก็กลัวตกขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์อะนะ...

จู่ ๆ บรรดานักข่าวรายงานมาด่วน ความว่า “ไอ้เหี้ยม ม.ม้าหาย กื้ด”-ภุชงค์ กนิษฐชาต หางเหลืองโผล่ซะแว๊ววว์...ออกมาต้มตุ๋น หลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างว่ามีชาวบ้านจาก “1,800 ชุมชน” ในกรุงเทพฯ ไม่เห็นด้วยกะม๊อบเสื้อแดงอะนะ...(...กรูก็สงกะสัยว่า เพือกมันส์คง “ตาบอด” แน่ ๆ ที่มองไม่เห็นคน “ชุมชนกรุงเทพฯ” ทั้งนั้นที่มาโบกมือต้อนรับคน “ชนบทบ้านนอก” ...แต่อย่างว่าแหละ เมื่อรับ “จ๊อบ” เพือกมหาอำมาตย์มาแว๊ววว์ ก็ต้องทำให้ได้อะนะ แต่งานนี้ไม่ “เนียน” ว่ะสหายเอ๋ย !!!)

ความจริงเรื่องของ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย หางเหลือง”-ภุชงค์ กนิษฐชาต เนี๊ยะนะ กะเอาไว้พูดถึงใน “ตอนจบ” ของมินิซีรีย์ชุดนี้ แต่อย่ากระนั้นเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แว๊ววว์...เมื่อแกว่งปากหาส้นตีนเอง ก็ช่วยไม่ได้อะนะ....

เรื่องมันส์ยาวอะนะ...ขอเริ่มแบบนี้ก็แว๊ววว์กัลลล์... “ไอ้เหี้ยม ม.หาย กื้ด”-ภุชงค์ กนิษฐชาต (...ที่เรียกว่า “ไอ้เหี้ยม ม.หาย กื้ด” เพราะเป็นโรคไซนัส หายใจฟืดฟาด ๆ กื้ดก๊าด ๆ ตลอดเวลาคุยกับคนอื่น สร้างความรำคาญมาก...) จะว่าไปแว๊วว์มันส์ก็เป็นคนที่มีความสามารถสูงอะนะ แต่เลือกใช้ในทางที่ผิด ใช้แบบผิดที่ผิดทางมาโดยตลอด ส่วนความ “เหี้ยม ม.หาย” พี่เค้าก็ระดับชั้น “เทพ” ก็น้อง ๆ “ไอ้ลิ้มโกเต๊ก” ลูกพี่ของมันส์อีกคนน่าแหละ...

ไอ้ “กื้ด” นี่หัวสมองใช้ได้ เรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ อะนะ ดูเหมือนจะ รหัสปี 2519 ประมาณนี้แหละ...หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็ตามสูตรอะนะ ก็ “เข้าป่าจับปืน” ร่วมกับ “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” (พคท.) มีชื่อจัดตั้งว่า “สหายยุทธ” (ส.ยุทธ) อยู่ที่ “เขตงานจังหวัดตาก” อะนะ(...ใครนึกภาพไม่ออก ก็ให้ไปดูหนังประวัติชีวิตของ “เสกสรรค์ ประเสริฐกุล” เรื่อง “คนล่าจันทร์” ตอนท้าย ๆ มีการพูดถึง “สหายยุทธ”นั่นแหละ ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ นี่แหละ...) ...ต่อมาก็ราว ๆ ปี 2523 – 2525 เมื่อเกิดวิกฤติศรัทธา...ก็ตาม “สูตร” อีกนั่นแหละ...พี่เค้าก็ออกจากป่ากลับเข้าสู่เมืองเหมียลล์คนอื่น ๆ น่าแหละ...

เมื่อกลับเข้าเมือง “สหายยุทธ” ก็ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดอะนะ ทำงานหลายอย่าง เรียกว่าทำทุกอย่างน่าแหละ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเหี้ยม ๆ ม.หาย ...สมัยอยู่ในป่าแถวจังหวัดตาก มีเสียงกล่าวหาว่าไอ้สหายยุทธนี่ เคยทำระยำสัตว์ ถึงขนาด “ข่มขืนสหายหญิง” ในฐานที่มั่นอะนะ...

เรื่องนี้สหายเขตงานจังหวัดตาก เขารับกันไม่ได้เลยว่ะ(และเขตงาน 3 จังหวัด เค้าปิดกันให้แซ่ด)...เมื่อครั้งมีการประสานงาน เพื่อก่อสร้าง “สถูป” (อนุสรณ์สถานนักรบเขตงาน 3 จังหวัด) พอมิตรสหายเห็นชื่อ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” เป็นคณะกรรมการฯ ด้วย ก็แทบลมจับ ร้องโวยวายไปทั่วขุนเขา...ทำไมฟ้าดินยังให้อภัยและไว้ชีวิตคนชั่ว ๆ แบบนี้อยู่ละโว้ยยย์!!! (...เอ้า เพือก “นักสิทธิมนุษยชน” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ไอ้โคทวย”-โคทม อารียา, “ไอ้กบาลแตก”-ไพโรจน์ พลเพชร, “ไอ้เหลืองขาใหญ่”-สมชาย หอมลออ, “อี.......หงอก”-อมรา พงษ์ษาพิชย์...ออกมาปกป้อง “สิทธิสตรี” กัลล์หน่อยเร็ว !!! ฮ่า ๆ ๆ)

“ไอ้เหี้ยม ม.หาย”-ภุชงค์ กนิษฐชาต นอกเหนือจากทำงาน “การเมือง” ให้กับพรรคประชาธิปัติย์ (ยุวธิปัตย์) แล้ว...ยังเคยเป็น “นักข่าว” ประจำหนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ยุคแรก ๆ ด้วยเหตุดังนั้น จึงไม่ต้องสงกะสัยว่า “ไอ้กนก” จากเครือ “เนชั่น” จะสัมภาษณ์ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์พร้อมกะยกย่องมันส์เสียยกใหญ่อะนะ...และยังเคยเป็น “บรรณาธิการบริหาร” นิตยสาร “สยามอาระยะ” อันเป็นนิตยสารทางวิชาการของ “อำมาตย์” สยามสมาคมอีกหน่ะ...ก็เรียกได้ว่า เป็น “อ้ายคนมีชื่อ” ในวงการสื่อสารมวลชน มีพรรคพวกอยู่ตามสมควรอะนะ....

ลุเข้ามาราว ๆ ปี 2542 – 2545 “ไอ้เหี้ยม ม.หาย”-ภุชงค์ กนิษฐชาต ก็อาศัยใบบุญของเพื่อนเก่าที่ ทำมะสาดอะนะ ก็ “เสี่ยอี๊ด YT”-ทรรศิน สุขโต นี่แหละนำพามาพบกะ “ไอ้ปากเบี้ยว”-อเนก นาคะบุตร เอ็ดโตดีลูกคนกลาง ของ “ไอ้ตุ๊ดเอ็นโตดีตัวพ่อ”-ประเวศ วะสี งัยย์...มาทำงานในฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ “สำนักงานกองทุนเพื่อสังคม” (SIF) ที่มี “ไอ้เอ็นโตดีหัวล้าน”-ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นคนกุมบังเหียนยังงัยละ

อยู่ที่ SIF ประมาณ 4 ปี อะนะ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชางค์” ก็สร้างผลงานอื้อฉาวคาวโลกีย์เอาไว้เยอะ มาแรก ๆ ก็ไปหรอกลวงเพือก “สหาย” แถว ๆ “เขตงาน 444 ภูสระดอกบัว” (เขตงานที่ “ไอ้แคน สาลิกา” แห่งเครือ “เนชั่น” ใช้ทำมาหาแดกอยู่จนทุกวันนี้งัยไอ้สัดดดด์...) โดยร่วมมือกะ “นักวิชาการขี้เหลืองออ๋อย” เจ้าของวาทกรรม “ระบอบทักษิณ” และล่าสุดมาอีกแล้ว “สังคมไทยไม่มีอำมาตย์” ก็พี่เค้าเลย “ณรงค์ เพชรประเสริฐ”เหี้ยม ม.หายจิงๆ!!! ที่นี้เข้าใจหรือยังหล่ะ....เพื่อกมันส์ได้ร่วมกันเขียนโครงการฯของงบประมาณจาก SIF กว่า 100 ล้านบาท แต่โชคดีที่คณะกรรมการฯ SIF เค้าไม่บ้าจี้อนุมัติเงินตามนั้น ทำให้ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” โกรธมัก ๆ ผูกใจเจ็บหาเวลาเอาคืนกะอีกฝ่ายตลอดเวลา...(...อีกฝ่ายก็คือ กลุ่มของ “เบิ้ม” กสส. และนิกร จันพรม (บก.เนชั่นอีสาน) ถึงขนาดออกแถลงการณ์ด่ากันไปด่ากันมาในเครือ “เนชั่น” น่าแหละ...เรื่องนี้จะเก็บไว้เล่ารายละเอียดที่หลังอะนะ...)

เมื่อ SIF หมดโครงการฯ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” ก็หันรีหันขวางไม่รู้จะไปทางไหน เพราะช่วงหลัง ๆ ของโครงการ SIF ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ ก็ “ลายออก” ก็ลุแก่อำนาจจนไม่มีใครเค้าจะคบด้วยอะนะ... รวมทั้ง “ไอ้ปากเบี้ยว” ก็ต้องเอาตัวรอดด้วยอะนะ...ในขณะนั้น อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแว๊ววว์ว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ก็คลอดออกมาจากครรภ์ของ “หัวล้าน”-ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรมและ พอช. มีมติให้รับถ่ายโอนเจ้าหน้าที่บางส่วนมาจาก SIF อะนะ...แน่หละ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” ก็เสนอหน้าบวม ๆ ของมันส์ไปยัง พอช.อะนะ...เมื่อตอนเรียกสัมภาษณ์นั่นแหละมันส์ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้ง...คนที่สัมภาษณ์ก็ “เจ๊เขียวทึนทึก”-สมสุข บุญญะบัญชา ผู้อำนวยการ พอช. ขณะนั้นอะนะ...ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ ก็ใช้วิชามารทำการเชลียร์เจ๊เขียวทันที...เจ๊เขียวคับ ผมเนี้ยะมันส์ดีหนึ่งประเภทหนึ่งคับ ผมเป็นคนไม่ยอมคน ขนาดพี่อเนก นาคะบุตร เจ้านายผมที่ SIF ผมยังทะเลาะมาแว๊ววว์ ผมหักหลังพี่อเนกตั้งหลายอย่างคับ....เหรอ ๆ ๆ เจ๊เขียวตกตะลึงในบัดดล...และแน่หละเจ๊เขียวมีหรือจะรับคนอย่างไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์เข้ามาทำงานที่ พอช.....เพราะเดี๋ยวเข้ามา พอช. ก็จะมาเลื่อยขาเก้าอี้กรู ขนาดลูกพี่มันส์แท้ ๆ มันส์ยังหักหลังได้ แถมยังเอามาเล่าให้กรูซึ่งยิ่งกลัวอเนกมาแย่งเก้าอี้อยู่แล้วฟังอีก อย่างนี้เค้าเรียกว่าเพือกเลี้ยงไม่เชื่อง กรูม่ายยย์อาววว์ ๆ ๆ...และแล้วไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ก็หลุดโผล พอช. ด้วยประการฉะนี้....

แน่หละ, ไหน ๆ ก็เลือกเดินเส้นทาง “เอ็นโตดี” แล้ว ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อ...ปะเหมาะเคราะห์ซวยของหลาย ๆ คน... “เอ็นโตดีลูกคนเล็ก”-พลเดช ปิ่นประทีป หรือ “สหายมานะ” หรือ “หมอมานะ” จาก เขตงาน 196 หนองบัวแดง-ภูซาง ได้สถาปนาขึ้นนั่งบัลลังก์ในตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI) อันเป็นองค์กรของพวกเอ็นโตดีโลกในคาถาของ “เอ็นโตดีตัวพ่อ”-ประเวส วะสี ...เค้าจึงถูกสหายมานะชักชวนมาทำงานที่ LDI. ด้วยอะนะ....สหายยุทธ ในฐานะที่เพือกเราเป็นสหายฝ่ายขวาด้วยกัลลล์ น่าจะร่วมงานไปด้วยกัลล์ด้วยดี เราดูประวัติตัวเองแว๊ววว์ก็เหี้ยม ม.หาย พอ ๆ กะเราอะนะ อย่ากระนั้นเลย เราต้องมาร่วมกันสร้างด้วยกัลล์เถอะ บรรดาพ่อ ๆ ของเราเข้านอกออกในราชสำนักสบายอยู่แว๊ววว์ เรื่องเงินไม่มีปัญหา ท่อไม่มีตัน ป๋าเปรมก็ลูกพี่เพือกเราน่าแหละ เดี๋ยวมี “จ๊อบ” สร้างความปั่นป่วนใส่ร้ายป้ายสีเพือกทักษิณ แล้วก็ให้ทหารทำการรัฐประหาร เพือกเราก็สบาย ผมเองก็คงได้เป็นเสนาบดีครานี้แหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า....ด้วยเหตุดังนั้น “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” ก็มาทำงานอยู่กันกะหมอพลเอชที่ LDI. จากบัดนั้นจนบัดเดียวนี้...

และเมื่อรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มาถึงสายงาน “เอ็นโตดีโลก” ก็ได้ดิบได้ดีกันถ้วนทั่ว...หมอพลเดช ก็ได้เป็นเลขานุการ รมต.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และขยับมาเป็น รมช.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ สมใจนึกบางลำพูอะนะ!!!...อยู่มาวันหนึ่งหมอพลเดช ก็เรียกไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ไปกระซิบที่ข้างหูเบา ๆ ให้ได้ยินกัลล์สองคนว่า...เฮ้ย สหายยุทธ มันส์จะมีเงินฟรี ๆ ให้กินเปล่า เป็นโบนัสก้อนโตสำหรับคนทำงานเบื้องหลังของพันธมิตรฯ ที่ไม่ได้ตำแหน่งทางการเมืองอะนะ ให้สหายยุทธ รีบไปจดทะเบียนสมาคม หรือ มูลนิธิอะไรก็ได้ เพราะเงินก้อนนี้จะผ่านลงไปยังองค์กรนิติบุคคลเท่านั้น เข้าใจ๋ ?....เข้าใจคับสหายเจ้านาย...ภุชงค์ค้อมหัวคำนับพร้อมกะหัวร่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า รีบลุกไปดำเนินการโดย พลัน !!!

นี่เลย, “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” ก็ไปทำการจดทะเบียนสมาคม ชื่อ“สมาคมองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง” (ส X ส)โดยมี หมอพลเดช ปิ่นประทีป เป็นนายกสมาคมฯ และมี ตัวเองเป็นผู้จัดการ...ในขณะเดียวกันรัฐบาลเผด็จการภายใต้การอุปถัมป์ของมหาอำมาตย์ อันมีองคมนตรีสุรยุทร์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี “จำนวน 200 ล้านบาท” เพื่อให้รณรงค์จัดเวทีการมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 โดยมี “ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ และแต่งตั้งคณะกรรมการฯชุดหนึ่งขึ้นมารับผิดชอบ โดยมีนี่เลย รศ.วิทยากร เชียงกูล และนักวิชาการ “แก๊งส์รังสิต” ทั้งชุดเป็นคณะทำงานฯ...องค์กรประชาชนสายเหี้ยหางเหลืองสวาปามเงินไปแบบอู้ฟู้อะนะ...รวมทั้ง สมาคม ส X ส ของหมอพลเดชและไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ ได้ไปเหนาะ ๆ อุไรวรณ ๆ ๆ จำนวนไม่มากไม่มายครับท่าน 10 ล้านบาท (อ่านว่าสิบล้านบาทถ้วน)...

เมื่อทำงานตาม “จ๊อบ” ของรัฐบาลเผด็จการเสร็จสับ และทำการ “โกงบิล” มีเงินเหลือประมาณ 3-4 ล้านบาท ปรากฏว่า ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ “โกงต่อ” เอาเงินที่เหลือของกองกลางที่ทาง LDI. ของหมอพลเดช เก็บเอาไว้ดูแลลูกน้องอะนะ ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์นำเงิน 3-4 ล้านบาทดังกล่าว ไป “ซื้อบ้าน” เฉยเลย อย่างเงี๊ยะก็ต้อง “แตกกัน” หละครับพี่น้อง !!!...เจ้าหน้าที่ LDI. ไม่พอใจมั๊ก ๆ ลาออกไปหลายคน...แต่ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ยังอยู่ดีกินดีเหมียลล์เดิม...ก็มันส์ขู่ไว้ว่า “หากไล่กรูออกกรูจะแฉแมร่งให้หมด...” หมอพลเดช ก็หน้าบางครับและเข้าทาง เสร็จพี่เค้าเลยงานนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!!

จนมาถึงปี 2551 รัฐบาลเผด็จการ คมช. ได้ออกกฎหมาย “พรบ.สภาองค์กรชุมชน” กับ “พรบ.สภาพัฒนาการเมือง”...ครานี้หมอพลเดช กะ ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ ก็เลียปากแพล่บ ๆ ๆ ....มาอีกแว๊ววว์ว่ะ เงินหมู ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่ากระนั้นเลย...เฮ้ย สหายยุทธ จงลงไปที่อีสาน ไปประสานสหายอ้ายน้องเรา ผมกะ “สหายวา”-สน รูปสูง เคยอยู่เขตงานเดียวกัลล์ สหายยุทธ ไปประสานงานเพื่อทำโครงการของเงิน พอช. เพื่อมาจัดตั้ง สภาองค์กรชุมชน สัก 100 ล้านบาทอะนะ ครานี้เรากุมสภาพชาวบ้านเพือก “ชุมชนสวามิภักดิ์” ได้หมดประเทศแหง่ม ๆ...ว่าแล้ว ภุชงค์ ก็เดินทางมายัง “สำนักท่านางแนว” นัดหมายเพือก “เอ็นโตดีขี้เหลืองอ๋อย” ทั้งหลายมาออกแบบกัลล์....มากัลล์หมดแหละคับพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็น...วิพัฒนาชัย พิมพ์หิน, สมภพ บุนนาค เป็นต้น...แต่อย่างว่าอะนะ...เพือก พอช. เค้าก็เขี้ยวลากดินเหมียลล์กัลล์ เค้าก็ต้องให้หน่วยงานภายในมาดูแลงบประมาณ “สหายวา-สน รูปสูง” ก็ทะเลาะกะ พอช. อยุ่พักหนึ่ง ก่อนที่จะจูบปากกัลล์ และ พอช.ก็อนุมัติเงินให้ขบวนองค์กรชุมชนจัดตั้ง “สภาองค์กรชุมชน” ให้ได้จังหวัดละ 10 ตำบล งานนี้ใช้เงินกว่า 30 ล้านบาทอะนะ...ส่วน LDI. ก็ “อดรับประทาน” ไปตามระเบียบรัตน์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...

แต่ระดับหมอพลเดช มีหรือจะยอม ก็ไปเขียนโครงการฯของบจาก “สภาพัฒนาการการเมือง” ขอไป 3 ล้านบาทอะนะ กะว่าจะมาจัดตั้งสภาองค์กรชุมชน ในเขต “เมือง” (กทม.-เทศบาลทั่วประเทศ) ปรากฏว่า สภาพัฒนาการเมืองอนุมัติเงินให้ประมาณ 5 แสน – 1 ล้านบาทอะนะ...ผิดหวังไปหน่อยว่ะ...อย่ากระนั้นเลย เพือกเรา LDI. เน้นพื้นที่เป้าหมายที่ “ชุมชนเมือง” ในเขต กทม. อะนะ แล้วค่อยไปเชื่อมกะ “ชนบท” ของ “สหายวา” เพื่อเข้าไปยึดที่มั่นใน “สภาพัฒนาการเมือง” ที่มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลรอเพือกเราอยู่ (และสหายวา ก็ได้

สวาปามตำแหน่ง “รองประธานสภาพัฒนาการเมือง” อันโก้หร่านไปแว๊ววว์ !!!)...

...และอย่าได้แปลกใจไปเลย ที่ “ไอ้เหี้ยม ม.ม้าหาย ภุชงค์” มันส์ได้ “แบ๊ลคเมล์” ประชาชนครั้งใหญ่ว่า มีรายชื่อชุมชน “1,800 ชุมชน” ใน กทม. ต่อต้านม๊อบ “เสื้อแดง” เพราะไอ้ส้นตีนเนี๊ยะนะแมร่งมันส์ทำเหี้ยม ม.หาย ได้ทุกอย่างเลยว่ะ... !!!

และนี่เลย, มือกระบี่ที่เพือกสายหมอประเวส, หมอพลเดช, ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์ “ชุบเลี้ยง” ไว้ ให้ทำงานใน “ชุมชนแออัด” ในเขตกรุงเทพมหานคร อาทิ “ชาญ รูปสม” / “สมพงษ์ พัดปุย” / “พยนต์ จันทรวิฑูรณ์” / “ทรงกิจ จันหนู” / “ป้าเพทาย ดินแดง” ...เพือกเมริงจงอย่าแปลกใจที่เห็นคนแถลงข่าวในวานนี้ (25 มี.ค.53)ที่ วัดประชาระบือธรรม เขตดุสิต คือ พวกสมองหมาปัญญากระบือ

“สุรศักดิ์ อินทรประสิทธิ์” (สมาชิกสภาพัฒนาฯการเมือง กทม.) / “ณัฐพล เกิดเกษม” “ไอ้ณัฐพล” นี่ก็มีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งกะ“ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” อะนะ คือ เพือกมันส์ได้ตั้ง “สภาเครือข่ายสื่อภาคประชาชนอาเซียน” ในคณะกรรมการมีชื่อ “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” เป็นประธานสภาฯ และมี “นัฐพล” เป็นรองเลขาธิการคนที่ 2 อะนะ ไอ้เพือกเครือข่ายประเภทนี้ เพือกมันส์คิดจะตั้งเมื่อไหร่ก็ตั้งกันเลยอะนะ

เหมียลล์กะ “เครือข่ายพลเมืองชุมชนคนกรุงเทพฯ” ที่เพิ่งตั้งกัลล์เมื่อวานนี้(แกนนำองค์กรชุมชน กทม.) เองอะนะ ฮา ฮา ฮา...) ฯ ล ฯ ... ฯ ล ฯ ...ก็เห็นรายชื่อ เห็นหน้าเห็นตาทาง T.V. แล้ว...มันส์ก็ล้วนแต่เพือก “โกงเงิน” แหล่งทุนหน้าโง่ เช่น SIF. / พอช. มาทั้งน้านนน์ !!!

...สาธุชนทั้งหลาย จงได้อย่าตกใจ และแปลกใจอันใดเลย... “ไอ้เหี้ยม ม.หาย ภุชงค์” ก็ “สุนัขรับใช้” เพือกโจรปล้นแผ่นดิน, เผด็จการทหาร คมช. และลูกสมุน “มหาอำมาตย์” ชั้นเลวนั่นเอง !!!

00000000
บทความตอนที่ผ่านมา: NGOs ที่รักภาคพิสดาร(8):ขุดรากเหง้าภาคประชาชน จากสกย.อ.ถึงสมัชชาคนจน