WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, September 2, 2010

ศาลสั่งคุก6เดือน 'สนธิ-สโรชา' คดีหมิ่นฯทักษิณ

ที่มา ไทยรัฐ


นายสนธิ ลิ้มทองกุล - นางสโรชา พรอุดมศักดิ์

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "สนธิ-สโรชา" คดีหมิ่นประมาท "ทักษิณ ชินวัตร" กล่าวหา
ละเมิดเบื้องสูง 6 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี
ให้ลงโฆษณาบน นสพ. 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน...

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 2 ก.ย. ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา คดีที่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ,
นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี (ASTV) และ
บริษัทแมเนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
(ศาลยกฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ) เป็นจำเลยที่ 1 - 3
ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

โดยฟ้องว่า วันที่ 24 ส.ค. 2550 จำเลยที่ 1- 2 ร่วมกันจัดรายการ
ยามเฝ้าแผ่นดินทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ นสพ.ผู้จัดการรายวันของจำเลยที่ 3
ตีพิมพ์ข้อความที่จำเลยที่ 1 - 2 กล่าวปราศรัยให้กลุ่มพันธมิตรฯที่สหรัฐฯ มาเผยแพร่
ทำนองว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ระบุว่า สาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาล เนื่องจากทนไม่ได้ที่หลังการยึดอำนาจ
รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ประมาณ 8 ชั่วโมง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง

ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีนายสมบูรณ์ คุปติมนัส เบิกความว่า
จำเลยจัดรายงานโดยนำเทปที่นายสนธิพูดที่สหรัฐฯมาเผยแพร่ในรายการ
มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบัน ทำนองว่านายสุรเกียรติ เล่าให้นายสนธิฟังว่า
หลังจากมีการปฏิวัติปี 49 นายสุรเกียรติทนไม่ได้
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดจาจาบจ้วงสถาบัน จนออกมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
คดีต้องพิจารณาว่าจำเลย ทำผิดจริงหรือไม่เห็นว่า
ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่าโจทก์ทำตัวเสมอสถาบัน
จำเลยที่ 1 ได้ซักค้านข้อความดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้นำสืบแก้ตัวแต่อย่างใด
และข้อเท็จจริงยังไม่มีการดำเนินคดีกับโจทก์ในข้อหาดูหมิ่นเบื้องสูง
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องลงโทษจำคุกจำเลย
ทั้ง 2 คน คนละ 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท
ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน
โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 2 ปี.