ที่มา มติชน
เมื่อ เวลา 09.30 น. วันที่ 2 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนในชาติ ว่า จากการที่ตนได้รับการร้องขอจากหลายฝ่าย จึงได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนออกมาเป็นแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ว่าจากโศกนาฎกรรมเมื่อวันที่ 10 เมษายน และ 19 พฤษภาคมซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เฝ้าติดตามเหตุการณ์ต่างๆด้วยความหวังว่าเหตุการณ์จะ ปรับเข้าสู่สภาพเดิมได้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าความร้าวฉานทางความคิดกลับปริแตกแยกยิ่งขึ้น จนกังวลว่าจะไม่สามารถกลับมาเป็นสภาพเดิมได้ อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยเริ่มมองเห็นประกายแห่งความหวัง เมื่อมีคณะบุคคล องค์กรระหว่างประเทศ คณะทูตานุทูต ได้เริ่มเข้ามาช่วยเหลือ และยังเชื่อว่าแม้แต่รัฐบาลก็เริ่มตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
นาย ปลอดประสพ กล่าวว่า จากปัญหาทั้งหมดพรรคเพื่อไทยขอเสนอจุดยืนและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 5 ข้อ คือ 1. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการพูดจาหารือแลกเปลี่ยนความคิด และความเชื่อระหว่างกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันอย่างสันติวิธี 2.พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าความสงบ สามัคคี และความเป็นชาติจะกลับคืนมาได้ด้วยการที่ทุกฝ่ายให้อภัยซึ่งกันและกัน และตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เสมอภาคและมีความยุติธรรม โดยอาจจะพัฒนาจากคำพูดไปเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งจากในอดีตที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติก็ต้องแก้ไขด้วยรูปแบบ นี้ 3.พรรคเพื่อไทย ขอเชิญชวนให้ทุกหมู่เหล่าหลีกเลี่ยงและละเว้นจากการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะจากวาจา การกระทำ หรือการใช้กฎหมายที่เกินความเหมาะสม
นาย ปลอดประสพ กล่าวว่า 4. พรรคเพื่อไทยขอน้อยถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชีนีนาถ และให้ปวงชนทุกหมู่เทิดทูนถวายพระเกียรติ 5.พรรคเพื่อไทยหวังและเชื่อว่าจุดยืนและสัจจะวาจาของเราครั้งนี้ จะช่วยให้รัฐบาลและผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อความสงบได้คลายวิตก และเริ่มกระบวนการสมานฉันท์ได้ทันที โดยไม่ต้องรอการศึกษาใดๆให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก
“แถลงการณ์ ฉบับนี้ถือว่าเป็นทั้งการทอดสันถวไมตรี และเป็นการยื่นคำขาดไปในตัวด้วย และที่เราเสนอแนะเช่นนี้ ไม่ได้เป็นเกมการเมืองใดๆ แต่ที่เสนอแนะทั้งหมดก็เพราะมีหลายฝ่ายขอร้อง แล้วเราก็เห็นถึงความขัดแย้งที่มีมากขึ้น แต่หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการตอบรับจากคนในรัฐบาล ก็ต้องบอกว่า ตัวใครตัวมัน เพราะเรียมก็เหลือทนแล้วเหมือนกัน”นายปลอดประสพกล่าว
ผู้ สื่อข่าวถามว่า การหารือระหว่างผู้ขัดแย้งควรจะเป็นการหารือระหว่างใคร เพราะมีการมองว่าคู่ขัดแย้งจริงๆคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นายปลอดประสพ กล่าวว่า คงต้องคุยกันทุกระดับ ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง รัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ทหาร ส่วนคู่ขัดแย้งอื่น ก็คงเป็นไปตามลำดับขั้น และมารยาททางการเมือง ทุกฝ่ายก็ควรเห็นประเทศชาติเป็นหลัก
เมื่อ ถามว่าการหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเพราะคำพูดจะส่ง ผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนทีมโฆษกหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันในพรรค ให้ลดระดับการพูดจาที่รุนแรงอันส่งผลให้เกิดความแตกแยกมากขึ้นได้ หากจะพูดจาอะไรก็ต้องมีหลักฐานชัดเจนมากขึ้น ซึ่งก็ต้องพยายามปรับไปเรื่อยๆ และก็คาดหวังกับทุกฝ่ายด้วย
เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับคน เสื้อแดงหรือคนที่สูญเสียได้หรือไม่ เพราะการให้อภัยซึ่งกันและกัน จนถึงขั้นกำหนดเป็นกฎหมาย เท่ากับการนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด รวมถึงฝ่ายที่กระทำให้คนเสื้อแดงเสียชีวิต นายปลอดประสพ กล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องในอนาคต แต่จากประวัติศาสตร์แนวทางการแก้ไขปัญหาก็ต้องออกมาในรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตามการให้อภัยซึ่งกันและกัน ก็ต้องเริ่มไปพร้อมกับการเยียวยาที่เหมาะสมด้วย