ที่มา Voice TV
ร.ต.อ. นิติภูมิ นวรัตน์ เขียนบทความเรื่อง “ เสียหายระดับโลก “ เผยแพร่ในเว็บไซต์ www.nitipoom.com เพื่อเล่าถึงเบื้องหลังการเข้าพบนายวิคเตอร์ บูท ของผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 เมษายน โดย ร.ต.อ.นิติภูมิ ระบุว่า เขาจะชี้แจงเรื่องบทความเกี่ยวกับนายวิคเตอรื บูท ผ่านทางบทความเพียงช่องทางเดียว จะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสำนักไหน เนื้อหาของบทความ เรื่อง “ เสียหายระดับโลก “ มีดังนี้
“ เมื่อเช้า ขณะกำลังเข้าฟังคำบรรยายของสำนักงานการท่องเที่ยวเวียนนา ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย เลขานุการของผมโทรศัพท์ทางไกลมาหา บอกว่าระหว่างที่คุณอยู่ทวีปยุโรป โทรทัศน์หลายช่อง และผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ติดต่อมาที่สำนักงานฯ พวกเขาอยากสัมภาษณ์คุณกรณีของนายวิคเตอร์ บูท
ในฐานะสื่อมวลชนคน หนึ่ง ผมก็อยากเล่าแจ้งแถลงข่าวตามธรรมชาตินิสัยของสื่อ ว่าอะไรได้อุบัติขึ้นบ้าง ทว่าหลายครั้ง การให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ อาจจะทำความเข้าใจได้ไม่ครบ บางสำนักจ้องเอาข้อความไปบิดประเด็น
ประเด็นสำคัญที่คนทั้งโลกสนใจอยู่ในขณะนี้ก็คือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไทยไปพบนายวิคเตอร์ บูท ในคุก จริงหรือไม่?
ถ้าไปพบจริง อันนี้ก็นำความเสียหายมาสู่ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมากที่สุดแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ต้องมาพูดถึงกันอีก
ผม บอกเลขานุการไปว่า เรื่องของนายบูท ผมขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะผมมีคอลัมน์ของตัวเองที่มีผู้อ่านเป็นล้านคนต่อวันอยู่แล้ว อะไรที่นอกเหนือจากที่อ่านได้ในคอลัมน์ นั่นคือไม่ใช่ข้อมูลที่มาจากผม นิติภูมิรับใช้ประชาชนคนไทยด้วยตัวอักษรที่ผู้คนสามารถเข้าไปอ่านย้อนหลัง ได้เกินห้าพันบทความจากทั้ง ๒ คอลัมน์ในเว็บไซต์ www.nitipoom.com ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าไปอ่านเยอะมากต่อวัน ผู้เรียนในหลายสถาบันก็เอาบทความไปใช้ศึกษา ไปทำวิจัย อาจารย์ก็นำไปใช้สอน ฯลฯ
ผมจึงไม่สนใจว่า ไอ้ปื๊ดนักการเมือง อีเรืองนักเขียน ไอ้เกียนอธิบดี ฯลฯ จะเอาเรื่องนี้ไปบิดข้อเท็จจริง บิดเบือนเมื่อไร ผมก็เอามาเขียนย้ำซ้ำในคอลัมน์และเว็บไซต์ ยิ่งเอาไปบิด ผมก็จะยิ่งหาข้อมูลมาเขียนเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เรื่องนักการ เมืองไทยไปพบนายบูทที่เรือนจำนี่ ที่จริงผมรู้เมื่อประมาณ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ แต่ไม่นำมาเขียน เพราะตอนนั้นยังไม่ทราบว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับไว้แล้ว (ตั้งแต่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓)
ผมสำเร็จหลักสูตรสูงสุดของวิทยาลัยการยุติธรรม เป็น บ.ย.ส. รุ่น ๑๑ รุ่นผมมีอธิบดีศาลเรียนอยู่ด้วยหลายท่าน ขณะเรียน บัดดี้ที่ต้องนอนห้องเดียวกันเมื่อไปต่างจังหวัด ท่านก็เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ หนึ่งปีที่ผมเรียน บยส. ทำให้ผมเข้าใจระบบศาล และเคารพศาล แม้แต่นอนห้องเดียวกัน ผมก็รักษามารยาท ไม่ถามเรื่องคดีความกับศาลท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่ต้องการให้ศาลอึดอัด สิ่งใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน ผมจะไม่เขียนเด็ดขาด เพราะเราจะไปชี้นำสังคมก่อนศาลไม่ได้
นอกจากนั้น สถานทูตบางประเทศยังแปลบทความของผม สื่อต่างประเทศอ้างข้อมูลจากไทยรัฐ ดังนั้น ข้อมูลใดที่ไม่เป็นผลดีกับปิตุภูมิ ผมต้องระวังไม่นำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยไม่ประสงค์ให้ต่างชาตินำไปใช้ทำลายประเทศไทยของผม
ที่บ้านของ นิติภูมิมีคนต่างชาติมาเยือนเยอะ ออสเตรเลีย เยอรมัน อเมริกัน อังกฤษ นิวซีแลนด์ พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฯลฯ แต่ที่มากันมากที่สุดก็เห็นจะเป็น คนรัสเซีย คนรัสเซียบางส่วนมาหาเพื่อขอความช่วยเหลือเกื้อกูล ก็มี
นางอัลลา ภรรยาของนายวิคเตอร์ บูท ก็เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเคยมานั่งหน้าเศร้าเล่าเรื่องสามีให้ผมฟังที่บ้านแด่ แผ่นดิน เรื่องผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีไทยไปพบสามีของเธอเมื่อ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๓ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเธอเอาคำจากปากของนายวิคเตอร์ บูท ผู้เป็นสามีมาปรึกษากับผม ผมยังให้ความรู้นางอัลลาไปเลยว่า เมืองไทยไม่มีผู้ช่วยนายกฯ ถ้ามีใครไปโม้ว่าเป็นผู้ช่วยนายกฯ ไอ้นั่นแอบอ้าง
นางอัลลาบอกว่า สามียืนยันว่ามนุษย์ที่ไปหาเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีจริงๆ ประสงค์ที่มาหาเมื่อ ๑๕ เมษายน ก็คือ มาเจรจาให้สามีเป็นผู้เชี่ยวชาญ ยอมให้การว่า พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร มีส่วนขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมาไทย ก่อนกลับไป ท่านผู้ช่วยฯ ยังทิ้งเบอร์โทรของท่านไว้ให้สามีดิฉัน ซึ่งอันนี้นี่เป็นนัยยะสำคัญ ว่าท่านให้สามีดิฉันโทรกลับไปยอมทำตามที่ท่านขอ ทว่าสามีของดิฉันไม่โทร
ในคุก ท่านผู้ช่วยฯ พูดซ้ำซากอยู่นานตั้ง ๒ ชั่วโมง
นิติภูมิยังเตือนนางอัลลาไปว่า เมืองไทยไม่มีผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี นางอัลลาบอกว่า อ้า ก็สามีบอกว่าพะนะท่านเป็นผู้ช่วยฯ จริงๆ นะคะ
ถ้า สามีดิฉันคิดสกปรก ก็คงโทรศัพท์กลับไปในเบอร์ที่พะนะท่านให้ไว้ แต่นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? นายกฯ และอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เราไม่รู้จักทั้งสองคน ทำไมต้องเอามาเอี่ยวเกี่ยวกะความเป็นอิสระภาพของสามีของดิฉันด้วย
ขณะหนึ่งของการเข้าเยี่ยม ท่านผู้ช่วยเอียงหน้า ทำตาขรึมลึกลับ และถามสามีดิฉันว่า อ้า ในกรุงเทพฯ มีสายลับเคจีบีกี่คน? สายไหนบ้าง?
นิติ ภูมิเตือนนางอัลลาอีกครั้งว่า ประเทศไทยไม่มีผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี พะนะท่านบ้าอะไรของคุณเนี่ยะ อาจจะถูกเจ้านายใช้ให้ไปต่อรอง อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผมเห็นว่าไม่เหมาะ คือกรณีที่ท่านถามสามีคุณเรื่องเคจีบี ตั้งแต่โซเวียตล่มสลายหายไปเมื่อปลาย พ.ศ. ๒๕๓๔ ไม่มีแล้ว เคจีบี เคจีบ๊วย คนรัสเซียอ่านเรื่องที่สามีคุณถูกถามแล้ว ก็คงจะหัวเราะกันจนฟันปลอมกระเด็นออกมานอกปากกันเป็นแถวละซี
ผมเคยไป เฝ้าดูการแข่งขันแบดมินตัน ทุกครั้งที่ตีลูกพลาด ผู้เล่นจะทำเป็นเฉไฉมองไปที่ไม้ตีแบด เหมือนกับจะบอกว่า ไอ้ที่ตีพลาดน่ะไม่ใช่ความผิดของอั๊วนะเฟ้ย เป็นความผิดของไอ้ไม้นั่นตะหาก นิติภูมิขอแนะนำ ว่าถ้าเล่นผิดแล้ว ก็ควรสารภาพอย่างลูกผู้ชาย อย่าไปเที่ยวมองหาไม้ เดี๋ยวไม้พุ่งตำตาเอานะเอ็ง “