ที่มา Thai E-News
โดย กาหลิบ
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
ที่มา Democracy100%
1 กันยายน 2553
มี ข่าวเข้าหูมาเรื่อยๆ ว่า สมาชิกและแม่ยกของพรรคเพื่อไทยบางส่วน ซึ่งหวังว่าจะเป็นส่วนน้อย เชื่อว่าคนเสื้อแดงคือปัญหาทางการเมืองของฝ่ายตน จึงมีความพยายามอย่างเงียบๆ ที่จะแยกคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยออกจากกัน โดยหวังว่าวิธีนี้จะส่งเสริมชัยชนะในการเลือกตั้งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะ เกิดขึ้นเมื่อไหร่
หลังฉากน่ะก็ดูแลสนับสนุน แต่หน้าฉากจะทำมึนตึงหรือเย็นชาเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน
ฟังเผินๆ ก็อยากบอกว่าช่างฉลาดล้ำลึก แต่วิเคราะห์เข้าจริงๆ แล้วมันอ่อนด้อย ล้าหลัง และน่าเวทนาจนไม่รู้จะแกล้งชมอย่างไร
ประเด็นใหญ่มีแค่ ๒ ประเด็นเท่านั้น
หนึ่ง-พรรค เพื่อไทยในวันนี้มีแต่คนเสื้อแดงเป็นพวกและพร้อมจะเป็นฐานขึ้นสู่อำนาจให้ คนอื่นๆ เขาพร้อมจะผสมพันธุ์กับเหลือง ชมพู และหลากสีเพื่อความอยู่รอดของเขามานานแล้ว
สอง-มหาอำมาตย์ใหญ่และ โคตรเหง้าศักราชของเขาบวกด้วยเหล่าขี้ข้าม้าครอกทั้งฝูง เขาขึ้นใจเสียแล้วว่าคนเสื้อแดงคือฝ่ายประชาธิปไตยและเป็นศัตรูตัวฉกาจของ เขา เกมดัดจริตที่ว่าด้วยแยกกันเดิน-รวมกันตีนั้น จะเอาไปเล่นลิงหลอกเจ้าที่ไหน?
แค่สองประเด็นนี้ก็ควรตั้งสติได้แล้วนะครับว่า พรรคเพื่อไทยควรมีนโยบายการเมืองอย่างไรต่อมวลชนคนเสื้อแดง
ผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทยต้องลงไปหยุดกระแสงี่เง่านี้และสวมกอดมวลชนคนเสื้อแดงอย่างไม่ต้องลังเลสะทกสะท้านใดๆ เลย
ประกาศ เป็นนโยบายของพรรคหรืออย่างน้อยให้เป็นมติกรรมการบริหารไปเลยว่า มวลชนฝ่ายประชาธิปไตยคือมวลชนของเรา และสั่งให้ผู้สมัคร ส.ส. ในอนาคตออกไปสนับสนุนอย่างเปิดเผย
อย่ามาพูดท่านั้นท่านี้ว่า เป็น ส.ส. ก็ต้องเล่นในสภา จะไปเล่นนอกสภาไม่ได้
ยาง หัวยังไม่ตกกันอีกหรือว่าเขาใช้ความดิบเถื่อนยึดได้ทั้งสภา ทั้งทรัพย์สินชั่วชีวิตของคุณและครอบครัว แถมยังฆ่าคุณได้หน้าตาเฉยอีกด้วย จะยังไม่สำนึกในความจริงแล้วกราบขอร้องให้มวลชนปกป้องเราจากภัยรัฐประหารและ อื่นๆ เพื่อเราจะได้อยู่รอดไปทำงานรับใช้มวลชนอีกต่อหนึ่งอีกหรือ?
อย่า มาอ้างว่ามวลชนที่เป็นกลางเขาไม่ชอบความวุ่นวายในบ้านเมือง เขาอยากให้สงบและเลือกตั้ง ใครคิดอย่างนี้หัดออกไปฟังเสียงให้ไกลจากสำนักงานเลือกตั้งหรือกลุ่มก๊วนของ ตัวเองอีกสักหน่อยเถอะ จะได้รู้ว่ามวลชนคนเดินดินตัวจริงเสียงจริงเขารอคอยให้เมืองไทยเปลี่ยนแปลง แบบพลิกฟ้าพลิกดินกันขนาดไหน
สมัยที่มีเวทีสนามหลวง ทำเนียบรัฐบาล ผ่านฟ้า และราชประสงค์ เราเตือนกันด้วยความหวังดีว่า ระวังแกนนำจะล้าหลังกว่ามวลชน
ตอน นี้ต้องเอามาขยายว่า กรุณาระวังว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ท่านสมาชิกพรรค และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหลาย จะล้าหลังกว่ามวลชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
ใครทำตัวห่างเหิน กับเสื้อแดงในวันนี้ ก็เท่ากับยอมรับสภาพเดิมของผู้มีอำนาจเก่า นั่นคือยอมรับในนโยบายทำลายประชาธิปไตยและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนฝ่าย ประชาธิปไตยของเขา
ใครกระโดดเข้าสวมกอดคนเสื้อแดงวันนี้ เท่ากับอ่านกระแสออกวิเคราะห์สถานการณ์ทัน และพูดโดยไม่ต้องพูดเลยว่าพร้อมจะยืนเคียงข้างมวลชนและสู้อย่างถึงที่สุด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากให้มันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเลยแม้แต่คำเดียว
ใคร จะเล่นเกมดัดจริตและรอให้เขายุบพรรคเป็นครั้งที่สามก็รอไปเถอะครับ แต่ควรรู้ว่าน้ำอดน้ำทนของมวลชนท่านก็มีขีดจำกัด และเขาฉลาดพอที่จะไม่เกาะอะไรที่มันลอยตามน้ำมา เพราะนอกจากเหม็นมือแล้วยังยึดเป็นหลักอะไรไม่ได้เอาเลย
มวลชนเขาจะเอาประชาธิปไตยอย่างเดียว ระบบใต้ตีนใครเขาไม่เอา
และทางรอดในวันนี้มีแต่สีแดงเท่านั้น.