WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, February 19, 2009

เชื่อจงรักถูกบีบไขก๊อกคดีพธม.จับตา!สายปชป.นั่งคุมคดีแทน

ที่มา ประชาทรรศน์
วิจารณ์แซด 'จงรัก' ไขก๊อกพ้นกรรมการสอบเอาผิดม็อบชั่วพันธมิตรฯ ยึดสนามบินและอีกสารพัดคดี เป็นเพราะโดนการเมืองบีบ หวั่นคดีถูกเตะถ่วงลากยาวจนไม่มีข้อยุติ เหน็บที่ผ่านมาไม่อยากเชื่อน้ำยา 'นายกฯ มาร์ค' เพราะมีแนวทางแบบเดียวกับพวกอำมาตยาธิปไตยสุดโต่ง ทำใจตอนนี้เสื้อแดงกำลังแพ้ทางการเมือง แต่ขอสู้ไม่มีถอย เผยสัญญาณอันตราย ระวัง! ปชป.ส่งตำรวจในอาณัติไปนั่งคุมทีมสอบสวน นักวิชาการชี้หากทำคดีไม่เป็นธรรมบ้านเมืองลุกเป็นไฟแน่

คดีพันธมิตรฯ บุกทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิที่หลายฝ่ายกำลังจับตาว่าทำไมผลการสอบสวนอืดเป็นเรือเกลือนั้นขณะนี้เริ่มส่อให้เห็นถึงความผิดปกติแล้วเนื่องจากการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่กลุ่ม นปช. เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแสดงออกให้เห็นถึงการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมไม่มีเอนเอียงไม่เป็นพวกใคร

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยกรณี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้ลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และ ดอนเมืองว่า เรื่องดังกล่าวตนมองว่า พล.ต.อ.จงรัก อาจจะถูกแรงกดดันทางการเมือง ในการรับภารกิจดูแลคดีการบุกยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ จนไม่มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งและหน้าที่ อีกทั้ง พล.ต.อ.จงรัก คงพิจารณาแล้วว่า ไม่สามารถดำเนินคดีดังกล่าวได้ตามกำหนดคือ 80 วัน อีกทั้งคดีดังกล่าวก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง และต้องมีความรับผิดชอบในเนื้องานอย่างเต็มที่ จึงคิดว่าทั้งหมดที่กล่าวมาอาจเป็นสาเหตุของการลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้

เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงว่าคดีดังความของกลุ่มพันธมิตรฯจะแตะถ่วงหรือไม่ แกนนำ นปช. กล่าวว่า พวกเรามีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง แต่ในเบื้องลึกแล้วไม่เคยคาดหวังกับการทำงาน หรือการเอาผิดกลุ่มพันธมิตรฯจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นที่ทราบดีว่า นายอภิสิทธิ์เป็นสัญลักษณ์ของระบอบอำมาตยาธิปไตย

"ก็คงยากมากนะครับในการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิดกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ เพราะทุกวันนี้ก็อาจถูกแรงบีบทางการเมือง ก็มีคนของพันธมิตรฯเข้าไปเป็นคณะทำงานในรัฐบาล อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากคนที่นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร. อีก มันก็เป็นเรื่องที่เราไม่คาดหวัง แม้เราจะต้องทำใจว่าคดีความต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เราก็ต้องทำใจ เพราะทุกวันนี้อย่างที่ทราบกันดีว่ามีการใช้กฎหมายกันอย่างนี้ มีคนเป็นตัวแทนของระบอบอำมาตยาธิปไตยอยู่ในรัฐบาล เราในตอนนี้ก็แค่แพ้ทางการเมืองเท่านั้น" นายวิภูแถลงกล่าว

นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กล่าวว่า นี่เป็นกลเกมการเมืองที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มักชอบใช้อยู่เป็นประจำ การที่พล.ต.อ.จงรัก ลาออกจากหัวหน้าพนักงานสอบสวน น่าจะเป็นตัวชี้วัดถึงอุปสรรคที่ได้รับจากการไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผนวกกับที่มีการปรับโยกย้ายพนักงานสอบสวน จนอาจจะส่งผลต่อการหาข้อเท็จจริง จนทำให้พล.ต.อ.จงต้องตัดสินใจลาออกในที่สุด และผลสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จะต้องส่งคนของตัวเองออกโรงปกป้องพวกพันธมิตรฯอย่างแน่นอน โดยถึงแม้ว่าประชาชนทั่วไปจะเห็นพฤติกรรมชั่วช้าของพันธมิตรฯ ก็ตามที แต่ในการสรุปข้อเท็จจริงก็จะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้พันธมิตรฯ ลอยนวลอยู่ต่อไป

ทั้งนี้ ตนรู้สึกเป็นห่วงกระบวนการหาความจริงและการดำเนินการเอาผิดกับพวกพันธมิตรฯ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นจะส่งผลกับภาพลักษณ์ของประเทศชาติแน่นอน เนื่องมาจากรัฐบาลไม่พยายามนำความยุติธรรมมาใช้ บ้านเมืองขาดหลักนิติรัฐ นิติธรรม นักลงทุนไม่เกิดความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล นักท่องเที่ยวกังวลเรื่องความปลอดภัย ใครที่ไหนจะเข้ามาภายในประเทศ ทุกวันนี้สายตานานาชาติเขามองว่าประเทศไทย เป็นประเทศของมาเฟียเถื่อน

ดร.อรัสธรรม พรหมมะ หัวหน้าภาควิชาบริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า หากเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนคิดว่าคดีนี้ต้องยืดเยื้อไปอีกแน่นอนเนื่องจากตัวของหัวหน้าพนักงานสอบสวนมีส่วนสำคัญมากในการจัดการรูปคดีไม่ให้แกว่งไปแกว่งมา ฉะนั้นจะต้องจับตาดูว่าใครจะมาสานต่องานตรงนี้ ซึ่งคดีนี้หากมองในแง่การเมืองแล้วจะพบว่ามีอิทธิพลพอสมควร เพราะตั้งแต่เปลี่ยนแปลงรัฐบาลคดีนี้ก็ค่อนข้างล่าช้า

“หากเปลี่ยนตัวจะกระทบต่อรูปคดีแน่นอน เป็นห่วงว่าการสอบสวนจะเป็นอย่างไรถ้าการเมืองยังเข้ามาวุ่นวายแบบนี้ เพราะคดีนี้ต้องตัดสินบนพื้นฐานความชอบธรรม และตามหลักกฎหมายทุกประการ หากไม่เป็นไปตามนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมไทยแบบไม่รู้จักจบสิ้น”

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ และยังไม่ทราบข่าวดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ตนเดินทางมาร่วมงานประชุมสัมมนาตำรวจที่จ.ขอนแก่น อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.วัชรพล ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ แล้วตนจะตรวจสอบกับฝ่ายกองคดีในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง