ที่มา ไทยรัฐ
นอกจาก “กรรมเก่า” ยังล้างไม่หมด “กรรมใหม่” ที่ไม่ได้ก่อก็ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอๆ มันก็เลยเป็นดับเบิลกรรม...ว่างั้นเถอะ ที่เห็นและเป็นอยู่อย่างกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.ญาติผู้พี่ของอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปประกอบ พิธีแก้กรรมให้ญาติผู้น้องที่เชียงใหม่นั้นเถิด
แทนที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น กลับแย่ลงไปอีกมากกว่า
แม้จะอ้างว่าเผอิญไปเชียงใหม่กลุ่มเสื้อแดงเชิญให้ไปร่วมพิธี แต่ดูตามรูปการณ์แล้วไม่น่าจะใช่ แต่เป็นว่าพร้อมใจร่วมพิธีมากกว่า
พิธีดังกล่าวมีการให้ร่างทรงก็พวกเสื้อแดงด้วยกันนั่นแหละ...ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอดีตชาติคือ “เจ้ามูลเมือง” ไปทำกรรมเอาไว้กับชาวพม่าไปเข่นฆ่า ไปเอาเงินเขามา ไปเอาพระเขามา ชาตินี้จึงต้องใช้กรรมที่ก่อเอาไว้
แต่นักประวัติศาสตร์ล้านนาบอกว่า “เจ้ามูลเมือง” ไม่มีและไม่เคยปรากฏ น่าจะยกเมฆกันขึ้นมาเองเพื่อยกย่องอดีตนายกฯมากกว่า
ขณะเดียวกัน ในพิธีก็มีการให้ผู้ร่วมพิธีเขียนชื่อบุคคลที่คิดว่าเป็นศัตรูของ พ.ต.ท.ทักษิณใส่ลงในบาตร จากนั้นก็นำไปเผา ปรากฏมีชื่อคนดังหลายคน มีชื่อประธานองคมนตรี องคมนตรี นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และบรรดาแกนนำ
ลำพังแค่ชื่ออภิสิทธิ์ สุเทพ จำลอง สนธิ ก็พอทำเนาเพราะเป็น ศัตรูคู่แข่งทางการเมืองจะแย่งชักหักกระดูกก็ว่ากันไป
แต่ชื่อองคมนตรีที่ปรากฏมันยิ่งจะตอกยํ้ากันเข้าไปอีก
ขณะเดียวกัน พล.อ.ชัยสิทธิ์อีกแหละที่ออกมาเปิดเผยว่าเป็นการแผ่เมตตาอย่าไปคิดมาก กรวดนํ้าไม่ให้เป็นศัตรูกัน รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร ไม่ได้ไปสาปแช่งใคร
“ตอนนี้เขาลดทิฐิไปเยอะ โดยเฉพาะเกี่ยวกับสถาบันได้บอกไปว่าไม่ได้นะ เราเป็นคนไทยต้องรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกอย่างอย่าไปแตะต้องให้ระคายเคือง”
ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นใครฟังแล้วดูเหมือนจะยิ่งทำให้ญาติผู้น้องลำบากเข้าไปอีก แทนที่จะช่วยให้ดีขึ้น แต่มันยิ่งไปตอกยํ้าให้ลึกเข้าไปอีก
นี่ไงที่บอกว่า “กรรมใหม่” ที่ไม่ได้ก่อ
ว่าที่จริงแล้ว พล.อ.ชัยสิทธิ์นั้นหลังจากเกษียณอายุราชการดูเหมือนจะเก็บตัวเงียบ ไม่เป็นข่าว นานๆทีจะออกมาแก้ต่างให้ญาติผู้น้องบ้างแล้วก็หายไป
ครั้งหนึ่งเคยบอกว่าจะเล่นการเมืองเพราะทนสภาพที่ถูกยํ่ายีไม่ไหว และดูท่าว่าต้องการจะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อพรรคนี้เติบโตขึ้นมามีการตั้งหัวหน้าพรรค คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ไม่มีชื่อ พล.อ.ชัยสิทธิ์ร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย
พูดง่ายๆ ไม่มีใครไปเชิญชวน
หรือแม้แต่ยามที่พรรคนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลต้องไปอยู่ในฐานะฝ่ายค้านและเกิดปัญหาความไม่เป็นเอกภาพมีการร้องหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ แม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องปลุกเร้าให้สู้ต่อไป จนกระทั่งมีการตั้งน้องสาวและน้องชายเข้ามาดูแลพรรค และรับผิดชอบแต่ละภาค
เรียกว่าทำให้ลูกพรรคอุ่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ทิ้งพรรคและยังพร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือให้อบอุ่น แต่ก็ไม่มีชื่อ พล.อ.ชัยสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และดูเหมือนจะออกมาพูดทำนองน้อยใจว่าไม่มีใครเชิญให้เข้าไปร่วม
ก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าทำไมอดีตนายกฯจึงไม่ให้ญาติผู้พี่คนนี้เข้ามาร่วมทำงานการเมือง ทั้งๆที่เจ้าตัวก็พร้อมและเสนอตัวแล้ว
จะเป็นเพราะท่าทีโผงผาง คิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะของอย่างนี้มันแก้กันได้
แต่พอหลังพิธีนี้แล้วคงมีคำตอบแล้วว่าทำไม “ทักษิณ” จึงไม่ดึงมาเล่นการเมือง.
“สายล่อฟ้า”