ที่มา Thai E-News
โดย pegasus
ที่มา บอร์ดประชาไท
4 กรกฎาคม 2552
หากสหรัฐฯจะได้กลับไปทบทวน รากฐานความเป็นมาของเสรีชนที่ยิ่งใหญ่ของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางส่วนที่ได้มีการกล่าวไว้ในคำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกาแล้ว สหรัฐฯย่อมจะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวยกระดับขึ้นไปเป็นประเทศแรกๆในเอเชียที่จะมีคุณสมบัติของการเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้เคียงกับประเทศตะวันตกอย่างยิ่ง..ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของสหรัฐฯเองว่า จะเห็นแก่ผลประโยชน์ระยะสั้นจากเผด็จการโบราณ ที่ใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว หรือจะมีความร่วมมือกับประชาชนชาวไทยที่ต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันเป็นความร่วมมือในระยะยาวที่ยั่งยืนกว่า
คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกา
In CONGRESS, 4 กรกฎาคม, 1776.
คำประกาศอันเป็นเอกฉันท์ของสหรัฐอเมริกาทั้งสิบสามรัฐ,
ฯลฯ
พวกเราถือว่าความจริงเหล่านี้ มีความชัดเจนในตัวของมันเอง, ความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคนถูกสร้างมาให้มีความเท่าเทียมกัน, ความจริงที่ว่าพวกเขาได้รับมอบสิ่งต่างๆ จากผู้สร้าง พร้อมด้วยสิทธิที่ไม่อาจพรากไปจากเขาได้, สิ่งเหล่านั้นได้แก่ ชีวิต, อิสรภาพ, และ การแสวงหาความสุข.
ดังนั้น เพื่อที่จะประกันสิทธิเหล่านี้, รัฐบาลได้รับการจัดตั้งขึ้นในหมู่ผู้คน, โดยพวกเขาได้รับการยินยอมให้ใช้อำนาจปกครอง.
โดยที่ว่า เมื่อใดที่รัฐบาลชุดใด ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบลักษณะใดก็ตามแต่ ได้กลับมาทำลายสิ่งเหล่านี้, ประชาชนก็มีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงหรือล้มรัฐบาลนี้, และที่จะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่, ที่วางอยู่บนรากฐานของหลักการเช่นว่านั้น, และ จัดระบบอำนาจของรัฐบาลในรูปแบบลักษณะที่ปรากฏให้เชื่อได้ว่า จะก่อให้เกิดความปลอดภัยและความสงบสุขต่อพวกเขา ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.
โดยแท้จริงแล้ว, ความรอบคอบระมัดระวัง จะคอยบังคับควบคุมว่า รัฐบาลชุดที่จัดตั้งมายาวนานนั้น ไม่ควรจะถูกเปลี่ยนแปลงเพียงเพราะสาเหตุอันเล็กน้อยที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น; และ ประสบการณ์ทั้งหมดได้แสดงให้เห็นอย่างสอดคล้องตรงกัน, ว่ามนุษยชาติมักถูกทอดทิ้งให้ทุกข์ทรมาน,ในขณะที่สิ่งชั่วร้ายมีความทนต่อความทุกข์ทรมาน,มากกว่าที่จะแก้ไขที่ตัวพวกเขาเองโดยการ ยกเลิก รูปแบบที่พวกเขาคุ้นเคย.
แต่ทว่า, เมื่อเหตุการณ์อันยาวนานของการข่มเหงและแย่งชิงอำนาจ, ซึ่งได้กระทำการเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกันอย่างไม่ลดละ, ได้แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่ามีจุดประสงค์ที่จะลดทอนพวกเขาลงไปอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จ, มันก็จะเป็นสิทธิของพวกเขา, เป็นหน้าที่ของพวกเขา, ในการที่จะถอดถอนและสลัดรัฐบาลเช่นว่านั้นทิ้งไป, และ เพื่อที่จะจัดเตรียมเครื่องป้องกันอันใหม่เพื่อประกันความปลอดภัยในอนาคตของพวกเขา.
สิ่งนั้นเป็นความอดทนอดกลั้นของประเทศอาณานิคมเหล่านี้; และ บัดนี้ สิ่งนั้นได้เป็นสิ่งที่บังคับให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงระบอบของรัฐบาลก่อนหน้านี้ของพวกเขา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้. ประวัติศาสตร์ของกษัตริย์องค์ปัจจุบันแห่งบริเตนใหญ่ เป็น ประวัติศาสตร์ของ การล่วงละเมิดสิทธิ และ แย่งชิงอำนาจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า, ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายโดยตรง ที่จะสร้างผู้ปกครองที่มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จ เหนือรัฐต่างๆ เหล่านี้. จงปลดปล่อยความจริงต่างๆ ออกสู่โลกที่ปราศจากอคติ เพื่อเป็นการพิสูจน์สิ่งนี้ เถิด.
เขาได้ปฏิเสธที่จะยอมรับกฎหมาย, อันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด ต่อผลประโยชน์สาธารณะ.
เขาได้ยับยั้ง ผู้ปกครองรัฐที่มาจากเขา ไม่ให้ผ่านกฎหมายหลายฉบับที่มีความสำคัญจำเป็นเร่งด่วน , เว้นเสียแต่ว่ากฎหมายเหล่านั้นจะถูกยับยั้งการใช้งานไว้ชั่วคราว จนกว่า จะได้รับการยินยอมจากเขา; และ เมื่อมีการยับยั้งชั่วคราวแล้ว, เขาได้เพิกเฉยอย่างถึงที่สุดที่จะรับฟังหรือเอาใจใส่ในตัวกฎหมายเหล่านั้น.
เขาได้พยายามขัดขวางการเพิ่มจำนวนประชากรของรัฐเหล่านี้; เพื่อบรรลุจุดประสงค์นั้น เขาได้ขวางการออกกฎหมายว่าด้วยสัญชาติคนต่างด้าว ; ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้พวกเขาย้ายถิ่นฐานมาที่นี่, และ ได้เพิ่มเงื่อนไขสำหรับการจัดสรรที่ดินแห่งใหม่
เขาได้ขัดขวางระบบการบริหารงานยุติธรรม, ด้วยการไม่อนุมัติกฎหมายที่จะจัดตั้งอำนาจของระบบศาลยุติธรรม.
เขาได้ลดทอนความเป็นอิสระของบรรดาผู้พิพากษาเพื่อให้ผู้พิพากษาทำในสิ่งที่เขาต้องการแต่เพียงผู้เดียว, ด้วยการเสนอตำแหน่งหน้าที่, และ การเพิ่มเงินเดือนค่าตอบแทนต่างๆ ให้กับพวกเขา.
เขา...
เขา...
ในทุกๆ ขณะของการกดขี่เหล่านี้ พวกเราได้ร้องเรียนเพื่อขอให้มีการชดเชย โดยใช้คำพูดที่นอบน้อมที่สุด: การร้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าของพวกเรา ได้รับเพียงการตอบรับ ด้วยการล่วงละเมิดสิทธิซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่นเดียวกัน. เจ้าชายองค์หนึ่ง, ผู้ซึ่งบุคลิกของเขาได้รับการสลักด้วยการกระทำทุกๆ อย่างของเขา ที่สามารถจะนิยามได้ถึงความเป็นผู้ปกครองเผด็จการ, เขาไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ปกครองของเสรีชน.
ฯลฯ
ผู้เขียนเชื่อว่า สถานการณ์ต่างๆในประเทศไทยนั้น สหรัฐอเมริกาได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าสหรัฐจะตัดสินใจใช้ข้อมูลชุดใดในการที่จะปฏิสัมพันธ์ต่อประเทศไทย
จะเป็นผลประโยชน์ระยะสั้นของสหรัฐฯเอง ในอันที่จะเรียกร้องหรือขอความร่วมมือใดๆจากประเทศไทยในฐานะที่ได้เปรียบเนื่องจากความอ่อนแอของรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม และระบอบการปกครองเผด็จการโบราณ โดยผ่านเหล่าทหาร และข้าราชการบำนาญที่จำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
หรือจะมีความร่วมมือกับประชาชนชาวไทยที่แสดงออกอย่างชัดเจนในทุกพื้นที่ ทุกการเลือกตั้งว่า ปรารถนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ประชาชนที่กำลังเติบโต มีความเข้มแข็ง มีความตื่นตัว ประการสำคัญคือจะเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศต่อไปอีกเป็นระยะเวลายาวนาน
แน่นอนล่ะ การที่สหรัฐฯจะมีความร่วมมือกับประชาชนไทยนั้น ย่อมอยู่ในสถานะที่เสมอกันในฐานะของมนุษยชาติ สหรัฐฯอาจไม่ได้เปรียบใดๆมากไปกว่าระบอบการปกครองเดิม แต่สหรัฐฯจะได้ร่วมมือกับมิตรประเทศที่เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ต่อไปในระยะยาว หากสหรัฐฯตัดสินใจเลือกอย่างถูกต้อง
สังคมใหม่ของไทยกำลังเปลี่ยนไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกับสังคมของยุโรปตะวันตก และสหรัฐฯ เนื่องจากปรากฏการณ์ที่ประชาชน ไม่ยอมสยบต่ออำนาจมืด อาวุธปืน และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
ดังที่ปรากฏจากการชุมนุมใหญ่ที่สงบ สันติ แม้ว่าจะถูกใส่ร้าย ป้ายสี สร้างสถานการณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจ และกลับมาเรียกร้องความเป็นธรรม ประชาธิปไตย และนิติรัฐอย่างเข้มแข็ง
ประการสำคัญคือ ประชาชนไทยได้แสดงจากการเลือกตั้งซ่อมในหลายจังหวัดแล้วว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องเกรงใจเสียงของประชาชน เพราะผู้นำท้องถิ่น หรือ อดีตนักการเมืองไม่มีอิทธิพลต่อประชาชนเทียบเท่า การตัดสินใจของประชาชนเอง ดังนั้น การผูกขาดอำนาจ การกดขี่ประชาชนในระยะต่อไปนั้นจะยากยิ่งและจะทำไม่ได้ในที่สุด
หากสหรัฐฯจะได้กลับไปทบทวน รากฐานความเป็นมาของเสรีชนที่ยิ่งใหญ่ของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางส่วนที่ได้มีการกล่าวไว้ในคำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกาที่ได้ยกมาไว้เป็นเบื้องต้นแล้ว สหรัฐฯย่อมจะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวยกระดับขึ้นไปเป็นประเทศแรกๆในเอเชียที่จะมีคุณสมบัติของการเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้เคียงกับประเทศตะวันตกอย่างยิ่ง
และ โดยที่ประเทศไทยมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเอเชีย ซึ่งสหรัฐฯเองก็ได้ทราบเป็นอย่างดียิ่งแล้ว จะเป็นการดีหรือไม่ที่สหรัฐฯจะได้ยื่นมือเข้ามาจับมือของประชาชนชาวไทยเพื่อเป็นด่านหน้าของเสรีชนในภูมิภาคนี้ต่อไป
ขอกล่าวซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สหรัฐฯ อาจไม่สามารถได้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ แต่การที่ไทยเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯในระยะยาวที่ยั่งยืนกว่าระบอบเผด็จการในรูปของประชาธิปไตยจอมปลอม หรือเผด็จการซ่อนรูปเช่นปัจจุบันนี้อย่างมาก
สหรัฐฯอาจลำบากในการติดต่อกับผู้นำของไทยที่ต้องรับฟังเสียงของประชาชน แต่นั่นมิใช่ปรัชญาเสรีนิยมที่สหรัฐฯชื่นชอบและทำให้สหรัฐฯยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี้หรอกหรือ และถ้ามีพันธมิตรที่มีจิตวิญญาณและค่านิยมเดียวกับสหรัฐฯ และชาวอเมริกันในภูมิภาคนี้จะเป็นการดีกว่าหรือไม่ กับการที่จะติดต่อกับผู้นำเผด็จการเพียงบางคน บางกลุ่มที่ใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว และถึงที่สุดแล้วการเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี แต่เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นสหรัฐฯไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำให้เกิดขึ้นสหรัฐฯเองจะเสียโอกาสที่ควรจะอยู่ในมือนี้ไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
ขอขอบคุณสหรัฐฯและประชาชนชาวอเมริกันที่ได้เคยช่วยเหลือไทยจากการตกเป็นเมืองขึ้นของบริเตนใหญ่มาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งได้ช่วยในการแก้ไขการเสียเปรียบในด้านกฎหมายกับต่างชาติในเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในยุคล่าอาณานิคม เรื่องเหล่านี้ประชาชนไทยจำได้ดี
และหวังว่าสหรัฐฯจะได้ใช้โอกาสใหม่นี้ในการจับมือกับประชาชนชาวไทยในการก้าวไปในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ซึ่งระบอบเผด็จการในทุกรูปแบบไม่เป็นที่พึงปรารถนา การร่วมมือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์นี้ ผู้เขียนขอเสนอให้สหรัฐอเมริกาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ การตัดสินใจและผลที่จะตามมา
ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของสหรัฐอเมริกาเอง