ที่มา Thai E-News
โดย คุณzebra
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
3 กรกฎาคม 2552
เนื่องจากกระทู้ที่ผมได้ตั้งไว้ ลูกผมต้องเข้า ICU เพื่อแลกให้ใครบางคนได้เข้าสปา
คงมีคำถามมากมายในใจของใครบางคนที่คิดว่า ผมคงสร้างเรื่องขึ้นมา จริงๆ ผมเองก็ไม่ค่อยสบายใจที่ทำให้ใครบางคนคิดเช่นนั้น ทีแรกผมคิดว่าถ้าลูกของผมอาการดีขึ้น และได้ออกจาก รพ. ผมจะเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์ที่พอจะเปิดเผยได้
ที่ผมคิดเช่นนั้นก็เพราะน้องมีอาการดีขึ้น ไม่ชักซ้ำอีก รับอาหารทางสายยางได้มากขึ้น ผมคิดเองว่าอีกไม่นานเราคงจะได้กับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม พ่อ-แม่-ลูก
ผมจะได้พาลูกไปเที่ยวสวนสยามเสียที เพราะลูกพูดหลายครั้งแล้วว่าอยากให้พาไป แต่ผมก็ผลัดลูกมาทุกที เพราะทำงานจนไม่มีเวลา
ลูกผมเคยบอกผมว่า “ถ้าโตขึ้นหนูอยากจะเป็นหมอ จะได้มาดูแลพ่อกับแม่” ลูกผมเป็นเด็กผู้หญิง อายุ 6 ขวบ ชื่อเล่นว่า บูเก้ ซึ่งแปลว่า ช่อดอกไม้ของเจ้าสาว น้องเป็นเด็กสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เรียนเก่ง ช่างพูด เป็นที่รักของคุณครู
แต่สิ่งต่างๆ ที่ผมวาดฝันเอาไว้ก็มาสูญสลายไปในเช้าวันนี้
วันนี้ตอนเช้าน้องเริ่มซึมลง มีไข้สูงขึ้น ความดันลดลง หมอมาดูอาการแล้วเรียบส่งทำ CT-scan ฉุกเฉิน พร้อมกับเจาะเลือดไปตรวจเพาะเชื้อ ผลออกมาว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด จนเกิดภาวะเกล็ดเลือดแข็งตัวผิดปกติ ทำให้เกล็ดเลือดลดลง ผลดังกล่าวทำให้เกิดภาวะเลือดออกได้ง่าย กว่าปกติ
ผลทำ CT-scan พบเลือดออกที่บริเวณใกล้ๆ ก้านสมอง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 cm มีผลทำให้ความดันในสมองสูงขึ้น เด็กจึงซึมลง หมอรีบเอาน้องเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเปิดกระโหลกเพื่อลดความดันในสมอง ไม่ฉะนั้นเด็กจะเสียชีวิตทันที
หลังจากผ่าตัดเปิดกระโหลกศรีษะเสร็จ ซึ่งใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง หมอได้บอกผม และภรรยาว่าตำแหน่งที่เลือดออกอยู่ลึก ไม่สามารถผ่าตัดได้ ถึงลูกหายก็คงไม่เหมือนเดิม หมอบอกให้ผม และครอบครัวเริ่มเผื่อใจไว้บ้าง เพราะ ลูกมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย ทำให้โอกาสเสียชีวิตมีสูงมาก
บอกตามตรงว่าตอนนี้ ผมและภรรยาเหมือนกับตายทั้งเป็น เพราะผมมีลูกสาวเพียงคนเดียว ผมคงไม่คาดหวังให้ลูกกลับมาเป็นปกติ ถึงพิการผมก็ยอม ผมหวังจะได้ทำตามสัญญาที่เคยให่ไว้กับลูก คือได้พาลูกไปเที่ยวสวนสยาม อย่างที่ลูกต้องการ
ตอนนี้ผมคิดเสมอว่า
“ ถ้าผมโชคดีลูกก็คงจะหายป่วยในเร็ววัน
ถ้าผมโชคไม่ดีก็คงอีกนานกว่าลูกจะหายป่วย
แต่ถ้าผมโชคร้ายผมคงจะต้องสูญเสียลูกไปตลอดกาล “
ผมขอ รพ.ถ่ายเอกสารใบแรกรับตอนน้องเริ่มป่วยช่วงแรก ๆ มายืนยันให้ทุกท่านได้สบายใจในตัวผมครับ
(ผมขอปิดในส่วนของชื่อของน้องไว้นะครับ)
......................
(บทความเกี่ยวเนื่อง เรื่องก่อนหน้านี้)
ลูกผมต้องเข้า ICU เพื่อแลกให้ใครบางคนได้เข้าสปา
โดย คุณzebra
ที่มา เวบบอร์ดฟ้าเดียวกัน
30 มิถุนายน 2552
ผมอ่าน Webboard นี้มานานแต่ไม่คิดที่จะเข้า Log in แต่วันนี้ผมมีเรื่องจะต้อง Log in ที่จะเล่าเรื่องที่ผมประสบมาวันนี้
ทีแรกอ่านกระทู้ http://www.sameskybook.org/board/index.php?showtopic=17831 ผมออกจะขำๆและไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่เหตุก่ารณ์ดังกล่าวก็มาประสบกับผมในบ่ายวันนี้เอง
เวลา 13.00 ภรรยาผมโทรมาหาบอกว่าลูกมีไข้สูง แล้วชักผมก็รีบออกจากที่ทำงานแถวสะพานใหม่ เพื่อกลับบ้านแถวดอนเมืองโดยขับรถผ่านกองทัพอากาศ เดินทาง10 นาทีก็ถึงบ้านผมเห็นลูกหยุดชักแล้ว แต่ยังมีเกร็งเล็กน้อย ผมก็รีบพาลูกขึ้นรถ พร้อมภรรยาโดยวิ่งผ่านเส้นเดิม
พอวิ่งผ่านกองทัพอากาศ มีทหารเด็กๆ สะพายเอ็ม16 โบกมือทีแรกผมก็เข้าใจว่าคงจะตรวจบัตร ก็ให้ดู แต่ทหารบอกว่าเข้าไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะมี นักร้อง ผ่าน ผมบอกว่าลูกต้องรีบไปหาหมอที่ รพ.ภูมิพล ทหารเด็กดีมากๆ ว.ไปแจ้งทหารของนักร้อง
คำตอบคือไม่อนุญาต ผมนี่ชาไปเลยต้องเลี้ยวรถ วิ่งออกถนนวิภาวดี ไปกลับรถที่หน้า รร.Miracle แล้ววิ่งอีกไกลมาก เลี้ยวเข้าไปยังถนนพหลฯ คืออ้อมไปเกือบ 30 ก.ม. ลูกผมก็เริ่มซึม ผมก็เหยียบสุดๆ คิดว่าไม่เป็นไร
แต่ที่ไหนได้ ดันไปปิดถนนฝั่งพหลอีก ตรงแยกจันทรุเบกษา คือผมอุตส่าห์ขับอ้อมเพื่อกลับมาทีเดิม แต่ดันมาปิดถนนอีกฝั่ง ผมหมดสิทธิ์ไป ต้องรออีกราว 30นาที ระหว่างรอผมได้ถ่ายรูปที่ทหารปิดถนนไม่ให้รถเข้ากองทัพอากาศไว้เป็นหลักฐาน
ไปถึงรพ.ภูมิพล หมอบอกว่าเป็น Febrile convulsion (ไข้สูงแล้วชัก) บอกต้องรีบทำ CT scan และต้องเข้า ICU เพื่อประเมินความเสียของสมอง
ผมมารู้ทีหลังว่า นักร้อง เพื่อไปทำสปาที่ รร.โซฟิเทล ลาดพร้าว จากเพื่อนที่ทำงานที่นั้น แบบว่าเสียใจมากๆ แต่ผมคงไม่โทษใครครับคิดเสียว่า
เป็นกรรมของลูกของผม และครอบครัวผมก็แล้วกันที่ลูกเข้า ICU แลกกลับใครที่ต้องเข้า Spa
.....
(ผู้ประสบเหตุได้มาเล่าเพิ่มเติมในวันต่อมา ดังนี้)
มื่อคืนตอนตี 2 น้องมีชักซ้ำอีก 2 ครั้ง แพทย์เวรได้ทำการเจาะหลังเอาน้ำไขสันหลังไปตรวจ และทำ CT scan ซ้ำ ผลการตรวจหมอบอกว่าน้องเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ประกอบกับเนื้อสมองขาดอ๊อกซิเจนบางส่วน หมอได้เพิ่มยากันชัก และยาปฏิชีวนะ เพราะหมอเห็นว่าน้องเริ่มมีปอดติดเชื้อข้างขวา ตอนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจให้ แล้ว หมอบอกขอดูอาการอีก 2-3 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นต้องเจาะหลังซ้ำ
หมอบอกว่าถ้าชักซ้ำบ่อยๆ จะมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นของน้องได้ เพราะเยื่อหุ้มสมองที่อักเสบเป็นตำแหน่งสมองส่วนหน้า ใกล้ๆลูกตา
ภรรยาผมถามหมอว่า ถ้าพาลูกมาเร็วกว่านี้ซัก 30 นาที ลูกจะดีกว่านี้ไหม หมอตอบว่าก็จะดีมากๆ เพราะจะใส่ท่อช่วยหายใจได้ทัน เนื้อสมองจะเสียหายน้อยลง
หลังจากฟังหมอพูดจบ แฟนผมร้องไห้โฮเลย เธอโทษตัวเธอเองตลอดว่าแม่ผิดเองที่ไม่ยอมพาลูกไปที่ รพ.อื่น (ลูกผมมีบัตรทองที่รพ.ภูมิพล) ไม่อย่างนั้นลูกคงอาการไม่แย่แบบนี้ ผมก็ให้กำลังใจเธอว่า เราทำดีที่สุดแล้ว เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด บอกตามตรงนะครับว่าผมเครียด และเป็นกังวลเกี่ยวกับลูกมากๆ
ส่วนเรื่องการฟ้องร้องผมผมคงไม่ทำหรอกครับ ผมก็แค่คนธรรมดา หาเช้ากินค่ำเงินเดือนหมื่นกว่าบาท แค่เพียงประคองชิวิตครอบครัวให้ผ่านไปแต่ละเดือนก็แทบแย่แล้วครับ