WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 27, 2009

ท่องเที่ยวฉบับ ‘แม้ว’ ‘แรง’ กว่าฉบับ ‘มาร์ค’

ที่มา บางกอกทูเดย์

ทั้งเข็น ทั้งผลัก ทั้งดัน ก็ยังไม่ค่อยจะ “ขึ้น”แม้รัฐบาลจะประกาศหยุดยาวยืด 5 วันรวด หวังให้ประชาชนคนไทยนี่แหละ “ควักเงิน” ใช้จ่ายด้วยการ “ท่องเที่ยว” ในประเทศไทยแต่รายได้ที่“หวัง ” ก็ยัง “แป้ก ” ส่งสัญญาณ “ร่อแร”หมดเรี่ยวหมดแรงเหมือนเดิมเมื่อเส้นเลือดใหญ่ตีบตัน!! มันก็อ่อนแรงหมดกำลัง...หากหวังเอาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงต้อง “หงอย” คอตก!!เพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ออกฤทธิ์ซะจน “วิทยา แก้วภราดัย”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กุมขมับ..แถม ครม.ทั้งแผงยัง “สกัด” ไม่อยู่คนไทยครึ่งประเทศต้อง “พึ่ง” ผ้าปิดปากปิดจมูก ป้องกัน “เชื้อโรค”อย่างไรก็ตาม ต้อง “ปรบมือ” ให้รัฐบาลที่สู้ไม่ถอย..สารพัดงัดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวกันสุดฤทธิ์ล่าสุด!!! นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ยังใช้การประชุมผู้นำสมาชิกตระกูลแซ่อาเซียน +4 (จีนฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า) ที่โรงแรมรามาดาถนนเจริญกรุง ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วย โดยแนะนำให้ผู้นำตระกูลแซ่ที่มาร่วมประชุมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยก่อนบินกลับถิ่น และให้ผู้นำตระกูลแซ่เล่าความประทับใจให้ญาติพี่น้องที่บ้านฟัง เพื่อญาติพี่น้องผู้นำตระกูลแซ่จะสนใจและกลับมาเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง..ไม่ได้อยากจะลูบหลังแล้วตบหัว!!

แต่ก็อดไม่ได้ ว่ากันง่ายๆ แบบบ้านๆ..“รัฐบาลกำลังทายาผิดที่ผิดทาง”วัด วัฒนธรรมไทย ทะเล ภูเขา โหมโรงกันเข้าไป..ประเทศไหนๆเขาก็มียิ่งเป็นเมือง 3 พิษ พิษหวัด พิษเศรษฐกิจ พิษการเมือง ระบาดอย่างนี้...ถ้าจะเที่ยวไม่จำเป็นต้องดันทุรังมาไกลถึง “ไทยแลนด์”จริงไหมล่ะ?ไม่ได้เชียร์ ไม่ได้ชม เพราะไม่ได้ค่าขนมสักบาทแต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ “คนเขียน” อยากย้อนวันวานไปท่องเที่ยว“พักผ่อน” ใช้ชีวิตแบบวิถีดั้งเดิม!! แล้วต้องผิดหวัง เพราะท่องเที่ยวตามแบบฉบับวิถีดั้งเดิมหรือที่เราเรียกกันว่า “โฮมสเตย์” นั้นมันหงอยเหงา ขาดการดูแลหมดอารมณ์ สลดใจกันเลยทีเดียว...ทว่า ตอนแรกกลับ “โทษปี่โทษกลอง” ว่า เศรษฐกิจจากเมืองนอกมันพ่นพิษ..แต่เอาเข้าจริง..ชาวบ้านกลับบอกว่า “ขาดการสนับสนุน” ต่างหากล่ะ!!ย้อนกลับไปวันวานที่ “โฮมสเตย์” เรืองรองแม้จะสร้างรายได้ให้ชาวบ้านเพิ่มเพียงคนละ 1,000-2,000 ต่อครัวเรือนแต่มันก็เป็นรายได้ที่ทำให้ “ชุมชน” เข้มแข็งขึ้น..ในวงกว้างระดับประเทศ คือ เศรษฐกิจไม่ง่อยเปลี้ยเสียขาอย่างทุกวันนี้“โฮมสเตย์” กำลังนับถอยหลังถึงจุด “อวสาน”นับตั้งแต่สิ้นการบริหารของ “รัฐบาลทักษิณ”การท่องเที่ยวรูปแบบโฮมสเตย์ เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวพักผ่อนโดยเน้นการได้เข้าไปสัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้านในชนบทด้วยการไปพักอาศัยอยู่กินร่วมกับเจ้าของวัฒนธรรมในชุมชน เป็นโครงการที่แจ้งเกิดและเคยเรืองรองในยุครัฐบาลทักษิณเป้าหมายหลักของการสนับสนุน“โฮมสเตย์” คือ สร้างรายได้ให้ชาวบ้านส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นบ้านเราอีกทั้งยังเป็นการ “ปูเสื่อ”ให้สินค้าโอท็อป “ผงาด” ขึ้นสู่ตลาดโลกในสมัยรัฐบาลทักษิณ “โฮมสเตย์” เกือบจะกลายเป็น“ฟันเฟือง” สำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวระดับประเทศเพราะทักษิณเขาวางแผนให้ไทย

เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนนอกเหนือจากเป้าหมายที่หวังว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ คือ ชาวฝรั่งเศสสเปน ออสเตรเลีย อเมริกาและญี่ปุ่นแม้รายได้เสริมที่ว่าจะเพิ่มขึ้นมาเพียงเดือนละ 1,000-2,000 บาทต่อครัวเรือน แต่ในสังคมชนบทนั้นถือเป็นน้ำเลี้ยงที่ช่วยให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะนอกจากรายได้ส่วนที่นักท่องเที่ยวไปพักและอยู่กินกับโฮมสเตย์แล้ว ชาวบ้านยังมีรายได้จากการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า ผลิตหรือแปรรูปเป็นของฝาก ของที่ระลึก ขายให้นักท่องเที่ยวช่วยเพิ่มรายได้ให้อีกส่วนเมื่อมีการปฏิวัติยึดอำนาจ “รัฐบาลทักษิณ”!?!“โฮมสเตย์” ก็ถูก “ลืม” บ้างก็ถูก “ดอง” ขาดการเหลียวแลจากผู้บริหารประเทศ..แม้แต่โฮมสเตย์ทั้ง 36 แห่ง ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานชี้วัดระดับชาติ(Home Stay Standard) ทั้งด้านที่พัก อาหาร ความปลอดภัยการจัดการ กิจกรรมท่องเที่ยว สภาพแวดล้อม ฯลฯ จากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา...ก็ต้อง “หงอยเหงา” ไปตามๆ กัน“โฮมสเตย์” แม้จะไม่ใช่ “สถานที่ท่องเที่ยว” หรือ “รูปแบบ”ในใจของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้น “นิดหน่อย” ให้ชาวชนบท มันคือการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของชาวบ้าน ซึ่งมีผลไปถึงระดับประเทศแนวทางที่รัฐบาลทักษิณวางไว้ตั้งแต่แรก หากทำได้มันก็คือรายได้ไทยแลนด์...ซึ่งมันยังดีกว่า “ลงทุน” ไปแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมาจมดิ่ง! กู่ไม่กลับ พอเถอะครับรัฐบาล ■