WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, August 1, 2009

เศรษฐกิจสามแพร่ง

ที่มา ไทยรัฐ

ความตื่นตัวในการรับมือกับ วิกฤติเศรษฐกิจ ที่ถาโถมเข้ามาอีกระลอกในปลายปีนี้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงสุดๆ ดังนั้นการตั้งเป้าการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจึงไม่ได้มุ่งหวังว่าจะบวกเท่านั้นเท่านี้ แต่ทำอย่างไรจะให้ติดลบน้อยที่สุด ก็ถือว่าได้ผลแล้ว

ยกเว้นบางประเทศที่มีการเตรียมพร้อมและมีต้นทุนที่สามารถจะต้านทานวิกฤติเศรษฐกิจในระยะยาวได้ เช่น จีน และเวียดนาม ที่ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกอยู่แล้ว ในศตวรรษนี้ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องของวิกฤติทางการเงินในสหรัฐฯซะก่อนคงได้เห็นการเจริญเติบโตของทั้งสองประเทศนี้แบบก้าวกระโดด
เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์

เรื่องพรรค์นี้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่มีการเตรียมพร้อมต่างหาก เวียดนามมีแผนที่จะดึงเม็ดเงินการลงทุนโดยเฉพาะ มีการแก้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานและการอำนวยความสะดวก เปิดประตูในทุกๆด้าน สรุปว่าเป็นประเทศที่น่าลงทุนประเทศหนึ่งในย่านนี้ แต่บ้านเราจะยกเลิกระบบอนุญาโตตุลาการฉิบ

ไม่ต้องอื่นไกล นักลงทุนจากประเทศไทยยังหอบเงิน ไปลงทุนในประเทศเวียดนามเป็นจำนวนไม่น้อย สังเกตว่าบุคลากรที่พูดภาษา เวียดนามได้กำลังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ถนนหนทาง รถไฟความ เร็วสูง โทรศัพท์ระบบ 3 จี เวียดนามมีหมด

ที่ผมแปลกใจคือไม่เห็นเวียดนาม กัมพูชา ลาว หรือพม่า มีข่าวเรื่องของไข้หวัดใหญ่ 2009 นอกจากนี้ยังให้ความมั่นใจกับนักลงทุนทุกด้าน โดยมีกฎหมายที่คุ้มครองนักลงทุนและเอาจริงเอาจังกับการทุจริตคอรัปชันอย่างเฉียบขาด

ต้องยอมรับว่าการเมืองไทยนั้น บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก อาทิ การร่วมกันระหว่างนักธุรกิจไทย-จีน ที่มี คุณพินิจ จารุสมบัติ เป็นนายกสมาคมวัฒนธรรมธุรกิจไทย-จีน เชิญนักลงทุนจากจีนนับร้อยชีวิตมาพบปะกับนักธุรกิจไทย

ถึงจะไม่มีโครงการขนาดใหญ่ที่จะต้อง เป็นการเจรจาระหว่างรัฐต่อรัฐ มีเพียงแค่ภาคเอกชนจัดกันขึ้นมาเองก็ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีนยังดีอยู่

สิ่งหนึ่งที่ฝ่ายจีนตั้งข้อสังเกตไว้ก็คือวิกฤติการเมืองในประเทศไทย เป็นอุปสรรคการลงทุน ทำอย่างไรจะให้มีการเจรจาแก้ปัญหาโดยสันติ และประเทศไทยกลับเข้าสู่ความสงบเหมือนเดิม

บรรยากาศการลงทุนน่าจะดีกว่านี้

วันนี้ถึงเวลาที่ภาครัฐและเอกชนจะต้องหันหน้ามา แก้ไขปัญหาของประเทศ 2 ข้อ นั่นคือวิกฤติการเมืองกับปัญหาการทุจริตคอรัปชัน

ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาโฆษณาประชาสัมพันธ์อะไรมากมาย เพราะประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่น่าลงทุนมาก่อน เศรษฐกิจไทยกำลังเดินอยู่บนทางสามแพร่ง วิกฤติการเมือง วิสัยทัศน์รัฐบาล

และเงื่อนไขการถอนทุนต่างตอบแทน.

หมัดเหล็ก